เริ่มต้นปี 2550 มีความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ หลายอย่างที่เกิดขึ้นในคณะวิทยาศาสตร์ สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารเริ่มสอดแทรกเข้าสู่วัฒนธรรมองค์กรทีละเล็กละน้อย นั่นคือ กระบวนการ KM
จริง ๆ แล้ว เราเริ่มกระบวนการนี้ มาตั้งแต่ปีที่แล้วในส่วนของสายสนับสนุน โดยผ่านกระบวนการพัฒนางาน เรามีการจัดเวทีมุ่งมั่นนวัตกรรม โดยให้คนในองค์กรได้นำสิ่งที่คิดค้นขึ้นใหม่ และเป็นประโยชน์แก่องค์กร มาเล่าสู่กันฟัง มีการให้รางวัลเพื่อให้เกิดกำลังใจในการพัฒนาต่อไป
ส่วนการนำกระบวนการ KM เข้าสู่สายวิชาการ เราเริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการตีฆ้องร้องป่าว ว่าคณะวิทย์เราเริ่มทำ KM แล้วนะ โดยในครั้งนั้น เราได้เรียนเชิญอาจารย์นักวิจัยในคณะฯ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันถึงแนวทางในการกำหนดทิศทางงานวิจัยในอนาคตของคณะฯ โดยมีการสอดแทรกความรู้เรื่อง KM เพียงเล็กน้อย ซึ่งจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนในวันนั้น ทำให้ผู้บริหารที่ดูแลงานวิจัย ได้รับโจทย์กลับไปมากมาย บางเรื่องเป็นสิ่งที่คณะได้ตระหนักและวางแนวทางไว้ล่วงหน้าแล้ว บางเรื่องเป็นสิ่งใหม่ที่ได้จากกระบวนการแลกเปลี่ยนในวันนั้น หลายเรื่องผู้บริหารได้มีการเอามากำหนดเป็น action plan และ passion plan หลายเรื่องอาจารย์ได้นำกลับไปถ่ายทอดต่อยังหน่วยงานของตนเอง
จากโจทย์ในครั้งนั้น ทำให้เราทราบว่าการที่คณะฯ จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นมหาวิทยาลัยเน้นวิจัยได้นั้น สิ่งหนึ่งที่สะท้อนในวันนั้น คือ เราต้องมีกระบวนการให้อาจารย์ของเราส่งผลงานตีพิมพ์เพิ่มขึ้น แล้วเราจะทำอย่างไรให้อาจารย์เราสามารถไปถึงตรงนั้น
จากโจทย์ที่ได้รับในวันนั้น ประกอบกับวันนี้ ท่านคณบดีและรองคณบดีฝ่ายบริหาร ที่ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในคณะวิทยาศาสตร์ เริ่มเห็นทิศทางชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าในส่วนของการจัดการความรู้ของคณะวิทยาศาสตร์ เราจะเริ่มจากการให้คนในองค์กรได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันผ่านกระบวนการกลุ่มในเรื่องอะไรก็ได้ เพราะเรามองว่า KM ที่แท้จริงเกิดจากเนื้องานที่ผ่านการสั่งสมประสบการณ์ภายในของบุคลากร โดยคณะฯ จะมองโจทย์ปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อภารกิจหลักของคณะฯ เช่น วิจัย พัฒนานักศึกษา ประกันคุณภาพ และพัฒนาบุคลากร ส่วนหัวข้ออื่น ๆ ที่จะใช้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คงให้เกิดจากกลุ่มคนหน้างานเป็นคนคิดขึ้นมาเอง ส่วนการให้ความรู้เราคงจับเฉพาะแกนนำที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้กระบวนการการจัดการความรู้สามารถไปต่อยอดในหน่วยงานของเขาได้
โดยในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เราจะเริ่มกันเวทีแรกในปี 50 คือ "เวทีเล่าเรื่อง ประสบการณ์ในการส่งผลงานวิจัยตีพิมพ์" โดยเราได้จัดเวทีให้นักวิจัยรุ่นใหม่และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ในการส่งผลงานวิจัยตีพิมพ์ ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยผ่านกระบวนการเล่าเรื่อง (Story Telling) ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ซึ่งเวทีนี้ จะจัดให้มีขึ้นในวันพุธที่ 17 มกราคม 2550 เวลา 08.30 - 14.30 น. ณ ห้องสัมมนา คณะวิทยาศาสตร์ โดยมีกำหนดการดังนี้ คลิก
ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถแจ้งความจำนงค์ผ่านทางหน่วยงาน ในใบตอบรับที่แนบมาพร้อมนี้
ขอเชิญชวนนักวิจัยทุกท่านร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการส่งผลงานวิจัยเพื่อตีพิมพ์ด้วยกันค่ะ
คุณบอยคะ
ขอบคุณค่ะที่แวะมาให้กำลังใจเสมอ งานนี้เป็นงานใหม่ รับศักราชใหม่ อาจต้องขอคำชี้แนะจากคุณบอยบ้างนะคะ
คุณไมโตคะ