รีวิว The Count ท่านเคานท์ (El Conde 2023 netflix)


รีวิว The Count ท่านเคานท์ (El Conde 2023 netflix) นี่คือภาพยนตร์แนวตลกร้ายจากชิลี เล่าเรื่องราของเอากุสโต ปิโนเช ผู้นำสูงสุดที่มีเบื้องหลังชีวิตเป็นแวมไพร์ที่มีอายุมากกว่า 250 ปี ในบั่นปลายของอำนาจเขาเบื่อหน่ายชีวิตและพร้อมที่จะตายทุกเมื่อ แต่บรรดาลูกเมียและคนรับใช้ที่เกาะกินชีวิตเขานั้นกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาจากไปอย่างง่ายดาย จนกว่าจะออกไปไล่ล่าเลือดกับหัวใจเป็นครั้งสุดท้าย

#ดูคลิปรีวิวที่นี่

#สรุปเนื้อเรื่อง
หนังเปิดเรื่องในประเทศฝรั่งเศส คริสตวรรษ์ที่ 18 เล่าเรื่องราวของ โคล้ด พินอช เด็กชายที่อาศัยอยู่ในสำนักนางชีถึง 20 ปี เมื่อเป็นหนุ่มเติบใหญ่ก็ได้กลายเป็นทหาร ภายใต้กษัตริย์หลุยส์ที่ 16 แห่งราชวงศ์บูร์บง เขาเป็นทหารหัวขวาจัดที่รับใช้ราชวงศ์อย่างเต็มที่ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเขา เขาไล่ทำร้ายผู้คนโดยเฉพาะหญิงงามเมือง กินเลือดพวกเธอ เขาเป็นแวมไพร์โดยที่ไม่รู้ตัว

จนมาวันหนึ่งประเทศฝรั่งเศสประสบปัญหาทางด้านการคลังอย่างหนัก ผู้คนอดอยากและไม่สามารถไว้ใจพระเจ้าหลุยส์ 16 ได้อีกต่อไป จึงรวมตัวกันยึดประเทศฝรั่งเศสแล้วนำอำนาจกลับคืนมาสู่ประชาชน โคล้ด พินอช ไม่ได้ต่าด้านกลุ่มปฏิวัติเลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งประชาชนนำพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไปประหารชีวิตด้วยเครื่องกิโยตินเขาก็ยืนเฉย ๆ และเมื่อถึงคราวการประหารชีวิต มารี อ็องตัวแน็ตด้วยเครื่องกิโยติน พินอชก็ยืนดูด้วยความตื่นเต้น เมื่อศพของพระนางถูนำไปฝัง พินอชก็ไปปล้นสุสานตัดศรีษะร่างผู้หญิงคนนึ่งแล้วแล้วนำไปแอบเปลี่ยนกับศรีษะของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต แล้วนำติดตัวไปทุกที่

โคล้ด พินอชเดินทางไปชิลี สมัครเข้าเป็นทหาร หวังในใจว่าสักวันหนึ่งจะเป็นใหญ่ในประเทศแห่งนี้ให้ได้ เขาสาบานว่าจะซื่อสัตว์กับ ซัลบาดอร์ อาเยนเดประธานาธิบดีชิลีที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1970 - 1973 เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสังคมนิยมชิลี และเป็นผู้นำประเทศที่เป็นมาร์กซิสต์ โคล้ด พินอช เปลี่ยนชื่อตัวเองมาเป็น เอากุสโต ปิโนเช

ต่อมา เอากุสโต ปิโนเช ไม่ชอบการปกครองในระบอบสังคมนิยม เกลียดลัทธิมาร์กในสหภาพโซเวียเข้าเส้น เพราะพวกมาร์กซิสต์โซเวียตต้องการเข้ามามีบทบาทในชิลี เขาจึงทำการปฏิวัติซัลบาดอร์ อาเยนเด แล้วขึ้นมามีอำนาจ เป็นประธานาธิบดีของชิลีซะเอง

เอากุสโต ปิโนเชได้สั่งปราบปรามพวกฝ่ายซ้ายลัทธิสังคมนิยม และผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนในประเทศชิลีถูกสังหารร่วม 1,200 ถึง 3,000 คน จำคุกถึง 80,000 คนและมีผู้ถูกซ้อมทรมานนับหมื่นคน มีบุคคลสูญหายถึง 3,000 คน ในสมัยที่เขาปฏิบัติการคอนดอร์ กำจัดพวกฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกาในปี 1975

จากนั้นก็เลือก ลูซิอา อิเรียร์ต หญิงสาวที่ว่ากันว่าทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งมาเป็นศรีภรรยา และทั้งสองก็มีลูกด้วยกัน 5 คน แต่ปิโนเชก็ไม่ได้กัดภรรยาและลูกของเขาเลย เพราะไม่อยากแพร่เชื้อผีดิบให้ หรืออาจจะหวงอำนาจความเป็นอมตะไว้กับตนเองแต่เพียงผู้เดียวก็เป็นได้ แต่เนื่องจากเขาจะเป็นจะต้องมีคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ จึงจำเป็นจะต้องกัดชายคนหนึ่งที่มาจากจ่างชาติ ให้ชายผู้นั้นมีชีวิตเป็นอมตะ คอยรับใช้เขาตลอดไป

แต่แล้วอำนาจของเอากุสโต ปิโนเช ก็หมดลง ในปี 1988 มีการลงประชามติว่าจะให้เขาดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ ซึ่งผลออกมาคือ ประชาชน 56% ไม่เห็นด้วยที่ให้เขาดำรงตำแหน่งต่อ ทำให้ชิลีมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและฟื้นฟูประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ ปิโนเชจึงลาออกจากการเป็นประธานาธิบดีใน 1990

ในระหว่างที่ปิโนเช่ดำรงตำแหน่ง เขามีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก มีบัญชีทางธนาคารทั้งในและต่างประเทศหลายสิบบัญชี ยักยอกทรัพย์ ฉ้อราษฎร์บังหลวง รวมถึงการรับสินบนจากข้อตกลงด้านอาวุธทางทหารอีกนับไม่ถ้วน

หนำซ้ำ ลูซิอา อิเรียร์ต ภรรยาที่อยู่ครองอำนวจด้วยกันมาก็แอบไปมีสัมพันธ์กับคนรับใช้ผู้เป็นแวมไพร์

ทั้งหมดนั้นทำให้ปิโนเช่หมดความหวังจะมีชีวิตต่อไปอีกแล้ว

ดังนั้นเอากุสโต ปิโนเชแวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่ในยามแก่ชรา ก็หมดอาลัยตายอยากในชีวิต เลิกกินเลือดเนื้อหัวใจมนุษย์ กินแต่ผักอย่างเดียว ทำให้ร่างกายทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว ไม่มีเรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะเดิน จะไปไหนมาไหนก็ต้องใช้เครื่องช่วยพยุง แม้แต่นกเขาก็ยังไม่ขัน

ทุกวันปิโนเช่ เฝ้าภาวนาให้ตัวเองตายไป แต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าเขามีชีวิตที่เป็นอมตะ ขนาดเลิกกินเลือดกินเนื้อหลายปีก็ยังทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ เพียงแค่แก่ชราลงไปอย่างรวดเร็วเอง

แต่แล้วในค่ำคืนหนึ่ง ก็มีชายแวมไพร์คนหนึ่ง แต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายทางทหารสูงสุดของประเทศชิลี บินขึ้นไปเป็นท้องฟ้าออกไล่ล่ายามค่ำคืน ไล่ฆ่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก แล้วนำหัวใจของคนเหล่านั้นมาปั่นกิน จนกลายเป็นข่าวใหญ่ ทำให้ ลูซิอา อิเรียร์ต เรียกลูกทั้ง 5 คนกลับมา เพื่อจะให้ลูกทั้ง 5 ทำ 2 ประการก็คือ จัดการรวบรวมทรัพย์สิน โชนดที่ดิน และบัญชีเงินฝากทั้งหมดเพื่อมาแบ่งกัน และ หาทางสังหารปิโนเช่แวมไพร์ให้ได้

นั่นทำให้ลูกสาวคนหนึ่ง พานักบัญชีสาวจากประเทศฝรั่งเศส มาร่วมในการสืบค้นทรัพย์สมบัติทั้งหมดด้วย แต่หารู้ไม่ว่านักบัญชีสาวคนนี้ก็คือแม่ชีในสำนักนางชี ที่ต้องการจะเข้ามาปราบปิโนเช่ เพราะเชื่อว่าถูกปีศาจเข้าสิง

แต่ก็หารู้ไม่ว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนางชีผู้ปลอมตัวมาเป็นนักบัญชีนี้ก็คือต้องการจะรวบรวมทรัพย์สินทั้งหมดของปิโนเช่ ไปมอบให้กับทางคริสจักร เพื่อให้คริสตจักรนำทรัพย์สินเหล่านั้น ไปขายตลาดและนำเงินมาเก็บไว้เองตามคำสั่งของคณะบาทหลวงที่สั่งการมาอีกต่อหนึ่ง

นางชีสาวในคราบนักบัญชี ก็สัมภาษณ์ทุกคนที่อยู่ในบ้านนี้ ไล่ไปตั้งแต่ปิโนเช่ ลูซิอา อิเรียร์ต ลูกทั้ง 5 และคนรับใช้ ซึ่งทุกคนก็ได้บอกทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงบัญชีทั้งหมดที่รู้ให้กับนักบัญชีสาว ที่ให้ความร่วมมือเช่นนี้ก็เพราะคิดว่า นักบัญชีสาวจะรวบรวมทรัพย์สินมาให้กับทุกคนได้มากที่สุดนั่นเอง มีเพียงแค่ปิโนเช่ไม่ได้บอกเพราะตนนั้นจำอะไรไม่ได้

แต่เรื่องราวมันก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่นักบัญชีสาวหรือแม่ชีได้วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะทุกครั้งที่สัมภาษณ์ปิโนเช่ เธอกลับรู้สึกหลงรักเขา อยากจะมอบร่างกายและความบริสุทธิ์ให้กับเขา ในขณะเดียวปิโนเช่ที่เข้าสู่ภาวะเฒ่าชแรแก่ชรา ก็หลงรักหญิงสาวคนนี้ไม่น้อย แต่รู้ว่าตนเองไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปมีสัมพันธ์กับเธอได้ เขาจึงตัดสินใจใส่ชุดนายพลที่มีผ้าคลุมไหล่ และออกไล่ล่าฆ่าเหยื่อเพื่อกินหัวใจและดื่มเลือดอีกครั้ง เนื้อเยื่อหัวใจและเลือดจะสามารถฟื้นกำลังมาใช้กับเขาและกลายเป็นหนุ่มขึ้นได้

วันหนึ่ง แม่ชีสาวใส่ชุดแม่ชีอย่างเต็มยศ ุทอน้ำมนต์และอุปกรณ์ปราบผีไล่ปีศาจยืนประจันหน้ากับปิโนเช่ ไม่ว่าเธอจะใช้คาถาบทไหนหรือใช้สิ่งของศักดิ์สิทธิ์ใดไล่ปีศาจก็ไม่สามารถไล่ได้ ก็แน่นอนละว่า ปิโนเช่ไม่ได้ถูกปีศาจตนใดเข้าสิง เขาคือแวมไพร์ และเมื่อนางชีไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งสองก็จูบกันและร่วมรัก

แม่ชีขอให้แวมไพร์กัดคอเธอ และแน่นอนแวมไพร์ก็กัดคอเธอแบบไม่ลังเลเลย

แวมไพร์สาวหน้าใหม่มีความอิ่มเอมใจเป็นมาก ล่องลอยเป็นในอากาศ เธอได้ในสิ่งที่ใครหลายคนก็อยากได้ แม้กระทั่งภรรยาปิโนเช่เองก็ไม่เคยได้เลย

แต่แล้วหญิงชราแต่วตัวดีคนหนึ่ง ได้เหาะมาบนท้องฟ้ามาจากประเทศอังกฤษ เพื่อต้องการจะหยุดยั้งวงจรการเพิ่มปริมาณแวมไพร์อุบาทนี้

หญิงชราบินมาถึงที่อยู่ของปิโนเช่ก็แนะนำตัวว่าชื่อ มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ซึ่งปัจจุบันเธอก็คือนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศอังกฤษ แล้วบอกว่าเธอนั่นแหละคือแม่ของปิโนเช่ เธอเล่าให้ฟัง

ในยุคศตวรรษที่ 18 เธอเป็นสาวแรงงานชาวไร่ ที่ในคืนวันหนึ่งเธอถูกชายชื่อสตริกอสมาร่วมรักด้วย ในขณะร่วมรักชายคนนี้ก็ได้ตัดคอ ซึ่งเขาคือแวมไพร์

วันต่อมาเธอหาทางลักลอบก็ไปจนถึงตัวสตริกอย ฆ่าเขาด้วยลิ่มไม้ แต่เธอก็ตั้งท้อง เมื่อคลอดก็นำลูกไว้วางไว้ที่หน้าประตูสำนักนางชี เธอเขียนชื่อลูกเธอว่า โคล้ด พินอช จากนั้นเธอก็ไปยังเกาะอังกฤษ แต่งงานกับเดนนิช แทตเชอร์ เธอจึงใช้ แทตเชอร์เป็นนามสกุลต่อมา

จากนั้นเธอก็เริ่มใช้อำนาจแวมไพร์ที่มีจนกลายเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้นำสูงสุดของอังกฤษได้ และครั้งหนึ่งประเทศอังกฤษกับประเทศชิลี ได้ร่วมมือกันในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ เป็นสงครามระหว่างอาร์เจนตินา และสหราชอาณาจักร ในปี 1982 แย่งชิงดินแดนที่ขึ้นกับบริติชในแอตแลนติกทางตอนใต้คือ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ เกาะเซาท์จอร์เจีย และหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ผลลัทธ์ของสงครามคือ บริติชชนะ และสาเหตุที่ทำให้ชนะได้ก็เพราะได้รับความร่วมมือจากประเทศชิลีภายใต้การนำของนายพลปิโนเช่ ในระหว่างการหารือร่วมกันเธอก็สามารถจำลูกชายของเธอได้ทันทีตั้งแต่ตอนนั้น และรอเวลาที่เหมาะสมมาจนถึงวันนี้

มากาเรตแนะนำให้ปิโนเช่ฆ่าทุกคนทิ้งไปและไปอยู่กับเธอ ส่วนเรื่องการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงในชิลี เธอก็จะช่วยให้ไปขึ้นศาลที่ต่างประเทศแทน เธอได้อ้างกับคนอังกฤษว่าชิลีสร้างคุณประโยชน์นั้นได้ช่วยอังกฤษรบชนะในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลน

ระหว่างนั้นเอง คนรับใช้ที่เป็นชู้รักกับลูซิอา อิเรียร์ตก็ตัดสินใจกัดเธอเพื่อความเป็นอมตะร่วมกัน จนเธอกลายเป็นแวมไพร์

แล้วเจ้าแห่งผีดิบก็เชื่อแม่ เขาได้ฆ่าทุกคนที่เป็นผีดิบ ทั้งคนรับใช้และภรรยาผู้หักหลัง แต่คนรับใช้ได้ฆ่าแม่ชีสาวด้วยกิโยตินก่อนหน้านี้

จากนั้นก็นำทุกศพไปเผาทิ้ง ลูก ๆ ที่เหลือนำสมบัติทุกอย่างในบ้านไปขาย

ส่วนมาร์กาเร็ต แธตเชอร์กับเอากุสโต ปิโนเช ลงไปชั้นใต้ดินลับของบ้าน ซึ่งชั้นใต้ดินมีหนังสือเก่าที่เป็นของสะสมของปิโนเช่อยู่มาก แต่ละเล่มล้วนแต่มีค่ามหาศาล เช่นบันทึกเล่มแรกของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งแต่ละเล่มนั้นมันก็คือสมบัติอันมีค่าประมูลขายได้เล่มละหลายล้าน

จากนี้กาเร็ต แธตเชอร์ ให้เอากุสโต ปิโนเช กินหัวใจแวมไพร์ปั่นทั้งสามที่ตายไป เพราะมีสรรพคุณในการฟื้นคืนให้วัยเยาว์ จนเอากุสโต ปิโนเชกลายเป็นเด็กน้อย และใช้ชีวิตอยู่กับกาเร็ต แธตเชอร์ในดินแดนแห่งใหม่

#บทวิจารณ์ภาพยนตร์
#เสียดสีผู้นำคือผีดิบ
The Count หรือ El Conde หรือท่านเคานท์(2023) ผลงานเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญตลกร้ายและเสียดสีเผด็จการออกัสโต ปิโนเชต์ ของชิลีในวัยบั่นปลายที่ประชาชนไม่เอาแล้ว เมื่อความเบื่อหน่ายถึงขีดสุด ก็ต้องการความตาย หยุดกินเลือดกินเนื้อ กินแต่ผัก แต่คนที่หลงในอำนาจนาน ๆ มีหรือจะปล่อยว่าได้ รวมถึงเสียดสีมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ นางสิงเหล็กที่จัดการกับอังกฆษอย่างมากมายและไปก้าวก่ายชาวบ้านด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่ทางหนังจะเปรียบให้ผู้ปกครอง 2 คนที่อยู่ในระบอบต่างกันสุดขั่ว ประชาธิปไตยกับระบอบเผด็จการนั้น ไม่ต่างกับผีดิบดูดเลือด ไม่ใช่แค่ดูดเลือดประชาชน แต่กลับดูดเอาทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัวรวมถึงคนรักด้วย

หนังยังเสียดสีว่าคนที่มีแนวคิดเผด็จการแบบสุดโต่งนั้นแท้จริงแล้วเขาไม่ได้รักใครเลย ไม่ได้รักประชาชนอย่างแท้จริง รักแต่ตัวเองเท่านั้น และพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาให้ตัวเองอยู่ในอำนาจเท่านั้น ในหนังทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่รักแม้กระทั่งเมียและลูกทั้ง 5 คนของเขาด้วย

หนังแพรวพราวไปด้วยการใช้สัญลักษณ์ สัญลักษณ์ที่สำคัญเช่นการที่ท่านเคาท์เหาะไปทั่วประเทศเพื่อทำการล่าชีวิตของผู้คน ทำให้เห็นการนำเสนอภาพแบบมุมสูงหรือเบิร์ดอายวิว แสดงว่าเขานั้นมีอำนาจอยู่เหนือทุกคนในประเทศนี้ ซึ่งในหนังทำให้ 2 คนนเหาะอยู่เหนือเมืองคือมากาเร็ต แธตเชอร์ และ เอากุสโต ปิโนเช ส่วนคนรับใช้แม้จะเหาะได้เช่นเดียวกันแต่นั่นก็เป็นการเหาะในคราบของท่านเคาท์เท่านั้น

#ไม่ว่าใครก็อยากมีอำนาจ
พูดถึงเรื่องศาสนา แม้ว่าจะเป็นคนที่เคร่งศาสนามากเท่าไหร่ก็ตาม อย่างเช่นแม่ชีที่อยู่ในสำนักนางชีตั้งแต่เด็ก อยู่ภายใต้กรอบศาสนาอย่างเคร่งครัด แต่สุดท้ายแล้วนางก็คือมนุษย์ที่มีความรัก โลภ โกรธ หลง อยากสัมผัสถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ จะเห็นได้จากการที่นางชีสาวหลังจากถูกกัดแล้ว นางก็ล่องลอยบนท้องฟ้าด้วยความอิ่มเอิ่ม แม้จะเก่กังไม่ถนัดนัก แต่นั่นคือการแสดงความสุขที่ได้สัมผัสกับอำนาจนั่นเอง

แม้แต่ตัวของคริสตจักรเองก็ตาม ก็ยังอยากได้เงินจนออกอุบายอุบาทใช้ผู้หญิงเป็นนกต่อ แล้วอ้างว่าเป็นภารกิจรับใช้พระเจ้า

#หนังอัตชีวประวัติศาสตร์
ท่านเคานท์ เป็นหนังแนวอัตตาชีวประวัติ และประวัติศาสตร์เชิงล้อเลียน ที่ใช้เบื้องหลังทางประวัติศาสตร์บอกเล่าเรื่องราวผ่านชีวิตคน ๆ หนึ่ง และด้วยที่มีการเซ็ตให้บุคคลนั้นมีอายุยืนยาวด้วยอำนาจของการเป็นแวมไพร์ จึงทำให้สามารถโยงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ถิยหลังนับตั้งแต่เหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส ปฏิวัติในชิลลี จนมาจบด้วยการตัดสินโทษผู้นำชิลีได้ แต่ประวัติศาสตร์ที่อยู่พื้นหลังนี้เขาเล่าเอาไว้เพียงเบาบางมาก ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนดูหรือองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ของคนดูมาช่วยในการตีความจึงจะดูได้สนุกขึ้น ซึ่งมันก็มีอารมณ์คล้ายกับหนังเรื่อง Forrest Gump นั่นแหละ

และเพราะเหตุใดหนังจึงเริ่มต้นที่การปฏิวัติฝรั่งเศส ก็คงน่าจะเป็นเพราะว่า อยากแสดงให้เห็นหรือพัฒนาการทางด้านการเมืองการปกครองที่เริ่มแรก ผู้คนหลงใหลคลั่งคล้ายรูปแบบการปกครองที่เป็นของประชาชนเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็หวนกลับไปสู่การใช้อำนาจของคนคนเดียว ซึ่งก็คือเผด็จการเบ็ดเสร็จ แล้วก็อาจจะเป็นการบ่งบอกว่าแท้จริงแล้วประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ไม่น่าจะมีอยู่จริง

เอาเข้าจริง ๆ แล้ว แนวคิดของหนังเรื่องท่านเคาว์นนี่ก็เหมือนกับ Salò,  The 120 Days of Sodom หนังชวนแหวะสัญชาติอิตาเลียนที่เล่าเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939–1945) เป็นการนำเสนอภาพในเชิงสัญลักษณ์ของลัทธิเผด็จทหาร ภายใต้การนำของเบนิโต มุสโสลินี ซึ่งในหนังนั้นแทบจะไม่บอกเลยว่าผู้นำคือใคร เป็นเพียงนำเสนอว่าผู้นำนั้นก็คือรูปแบบระบบเผด็จการทหารเท่านั้น และไม่ได้ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประชาชนเดือดร้อนขนาดไหน แต่ทำออกมาให้เห็นในเชิงที่ว่ามีการนำประชาชนจำนวนมากเข้ามาในคฤหาสน์หลังหนึ่ง แล้วก็บงการชีวิตทุกคนในแบบที่ผู้นำทหารอยากให้ทำในเชิงวิปริต ส่วนใน The Count นำเสนอให้ผู้นำเป็นผีดิบดูดเลือดประขาชนและประเทศชาติแทน

#บทสรุปและการให้คะแนน
ท่านเคาว์น เป็นภาพยนตร์สุด Art ภาพสวยมาก  แม้จะใช้สีขาว-ดำเล่าเรื่องก็ยังสวยมาก มุมกล้องดีงาม จัดองค์ประกอบศิลป์ดีเยี่ยม ความหมายดี นับว่าเป็นการถ่ายทอดศิลปะภาพยนตร์ออกมาได้อย่างดีงาม ต้องยกความดีให้กับ ปาโบล ลาร์เรน ชาวชิลีที่รังสรรค์ศิลปะอันงดงามนี้ออกมาได้งดงามมาก ดูแล้วอยากจะให้ 10/10 แทบขาดใจ แต่ต้องจำใจตัด 1 คะแนน เพราะยากเห็นอะไรที่โหดกว่านี้ เพราะไหน ๆ จะทำเป็นขาว-ดำแล้ว ก็ใส่ความโหดเข้าไปกว่านี้อีกสักหน่อย ตอนหนังในช่วงต้นก็แสดงความโหดออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฉากทุบหน้าในพระราชวังแวร์ซาย์น หรือฉากการใช้เครื่องกิโยตินกับพระนางมารี อ็องตัวแน็ต หรือฉากการล่าของแวมไพร์ที่จัดการกับเหยือแบบโหด ๆ ให้มันสมกับ concept ที่ว่า "เผด็จการกินเลือดกินเนื้อ" มาก แต่ชวงกลางและปลายแผ่วไปเยอะเลย

ดู The Count ท่านเคานท์ ทาง netflix ไม่ทีพากษ์ไทยนะ

9/10
@วาทิน ศานติ์ สันติ

#SuperReviewChannel
#TheCountNetflix 
#TheCount2023
#ท่านเคานท์Netflix

.......

หมายเลขบันทึก: 714502เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2023 07:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน 2023 07:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท