เลี้ยงแรกค่ำวันอาทิตย์ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ที่ร้านอาหาร ลุย หาดทรายรี มีอาหารพิเศษที่ผมไม่ได้กินมานานคือแมงดาทะเลเผา แต่พบว่าไข่ของมันออกจะแข็ง ผู้รู้บอกว่า เพราะเป็นแมงดาทะเลแช่แข็ง ไม่ได้เผาตอนเป็นๆ อาหารอย่างอื่นก็ถือว่าอร่อย แต่เป็นอาหารที่ไม่ได้ทำร้อนๆ เพราะเขารับงานถึง ๓ เจ้า เราเป็นรายที่สาม คนถึง ๔๐ คน เรื่องอาหารนี้ เราพี่น้อง ๖ คน เป็นเจ้าภาพเลี้ยงแขก ญาติและลูกหลาน ให้ได้มาพบปะสังสรรค์กัน ปีนี้น้องที่รับจัดการคือคุณวิจัยเจ้าของร้านเกษตรกรในจังหวัดชุมพร
การสังสรรค์แบบไม่เป็นทางการที่บ้านน้องชาย (คุณวิจัย) กับคุณวิโรจน์ แขกที่มาจากชัยนาท ตอนเย็นวันที่ ๒๙ ก่อนไปร้านอาหาร ให้ความรู้เรื่องผลกระทบของความแห้งแล้งในปีนี้ ต่อผลผลิตผลไม้ (ทุเรียน เงาะ ลองกอง) ในสวนของน้องชาย ว่าได้ผลผลิตเพียงร้อยละ ๓๕ ของที่เคยได้ ผลไม้ลูกเล็กลงไปมาก ลองรดน้ำก็ได้ผลดีขึ้นเพียงเล็กน้อย
ญาติผู้ใหญ่บางท่านจากไป บางท่านสุขภาพไม่อำนวยที่จะเดินทางมา ญาติสนิทบางครอบครัวมีความยากลำบากในชีวิตและเศรษฐกิจ เป็นอนิจจังในชีวิตที่หากมีโอกาสเราจะได้ช่วยเหลือ
ส่วนที่เจริญงอกงามคือเด็กๆ ขั้นหลาน (หลานปู่ หลานตาของน้องชาย) ที่เริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว เช่นวาวา อายุ ๑๐ ขวบ ลูกสาวคนโตของ กอล์ฟ (ลูกคนเล็กของคุณวิเชียร พานิช) เป็นสาวแล้ว มีประจำเดือนตั้งแต่อายุ ๙ ขวบเศษ (เมื่อ ๔๐ ปีที่แล้ว ลูกสาวคนที่สองของผม ซึ่งอยู่กับป้าที่กรุงเทพ มีประจำเดือนอายุ ๑๑ ขวบ ป้าตกใจมาก เพราะสมัยป้าเด็กผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนอายุ ๑๔ - ๑๕) เอามาเล่าให้เห็นว่าเด็กสมัยนี้มีสิ่งกระตุ้นมาก จึงบรรลุวุฒิภาวะเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเจริญพันธุ์ แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้คนมีหรือไม่มีลูกได้ดังใจ คนไทยส่วนใหญ่จึงสมัครใจสมรสโดยไม่มีลูกหรือมีคนเดียว ทำให้จำนวนคนเกิดน้อยกว่าคนตายเริ่มตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ เป็นต้นมา
คนแก่อย่างผม จึงตั้งหน้าหาความเจริญใจจากการได้เห็นความเติบโตก้าวหน้าของหลานๆ ทั้งหลานลุง และหลานปู่หลานตา ผมตั้งใจไปคุย หาความรู้จากหลานๆ เหล่านี้
เป็นที่รู้กันว่าหมออมรา (พี่ตุ๋นของน้องๆ) ไม่แข็งแรง เดินและเคลื่อนไหวไม่สะดวก ยิ่งขึ้นลงบันไดยิ่งทำยาก ต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ตอนกินอาหารเย็นน้องสะใภ้คนเล็ก ที่มีพ่อแม่สูงอายุมาก และโรคภัยเบียดเบียน (พญ. สุพาพร พานิช) มาช่วยเป็นนักบริบาลป้อนอาหาร ผมรีบกินแล้วขอรับบทผู้ป้อนอาหารแทน
เราพักที่โรงแรมเอเต้ ได้ห้อง ๓๑๔ กับ ๓๑๕ ห้อง ๓๑๔ ถึงก่อน ผมจึงใช้ห้องนี้ ทางโรงแรมมีรถเข็นนั่งให้บริการเพราะทางไปลิฟท์ไกล คืออยู่ด้านหลัง ในห้องมีหนังสือธรรมะให้หยิบอ่านหลายเล่ม ผมหยิบเล่มบางๆ ชื่อ ร่ำรวย ยิ่งใหญ่ เลื่อนลอย หรือเพื่ออะไร? โดย ป.อ. ปยุตฺโต มาอ่านคร่าวๆ แล้วลองค้น พบว่า ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ ในห้องมีเอกสารเล่มเล็กๆ เรื่องท่องเที่ยวชุมชนบ้านถ้ำสิงห์ ลองค้นก็พบ ที่นี่ อีกเล่มคือ ๓๘ วิธี โชคดีตลอดชีวิต โดย ท่าน ว. วชิรเมธี เล่มนี้มีคนรีวิวสาระ แต่ไม่มีให้ดาวน์โหลด
การอาบน้ำให้ภรรยาในห้องน้ำที่โรงแรมไม่สะดวกนัก เพราะไม่มีที่ให้นั่ง ต้องใช้วิธีให้ยืนพิงฝา ใช้จิตวิทยาว่านอนที่โรงแรมกับสามี ได้นอนกอด (แขน) สามี ให้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เมื่อรู้ว่านอนโรงแรม เธอถามว่าคืนละเท่าไร เมื่อตอบว่าคืนละพัน เธอร้องโอ้โฮ จริงหรือ เตียงนอนขนาด king size ใหญ่กว่าเตียงที่บ้าน เธอนอนหลับสบาย
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖
ผมตื่นเองเวลาตีห้าครึ่ง ลุกขึ้นมาเขียนบันทึก พอเวลา ๖.๓๐ น. ผมก็ปลุกสาวน้อย ที่ยังนอนหลับสบาย ปลุกยากหน่อย ชวนไปถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ แปรงฟัน เปลี่ยนผ้าอ้อม สวมเสื้อ กางเกง แล้วลงไปกินอาหารเช้าที่ชั้น ๑ โดยนั่งรถเข็นที่เจ้าหน้าที่โรงแรมจอดไว้ให้ที่หน้าห้องตั้งแต่เมื่อคืน
โอ้โฮ อาหารเช้าของโรงแรมเอเต้ดีเกินคาด อาหารมีหลากหลายชนิด เต็มไปด้วยอาหารเชิงวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่นขนมจีนสารพัดน้ำราด และผักเคียงที่มีในท้องถิ่น แกงยอดชะอมทอดไข่ ผักเหรียงทอดกับไข่ เป็นต้น เครื่องดื่มก็มากชนิด ที่เด่นมากคือกาแฟสด ที่หอมและเข้มข้น ใช้เมล็ดกาแฟผลิตในจังหวัดชุมพรเอามาคั่วเอง ผมว่าหากเขามีเอกสารคำอธิบายไว้ในห้องพักและที่ห้องรับรอง จะช่วยดึงดูดแขกได้อีกมาก
ยิ่งปรีเปรม ที่ได้ทำหน้าที่ “ผู้บริบาล” เต็มรูปแบบให้แก่สาวน้อย ในการป้อนอาหารเช้า ที่เธอมีความสุขมาก และเปรมใจยิ่งขึ้นอีก ที่ตอนกินอิ่มแล้ว หันไปเห็น “พี่อี๊ด” (สุรภี (บุษราทิจ) ศิริสัมพันธ์) กับพี่ต้อย สามี นั่งรับประทานอาหารใกล้อิ่มแล้ว จึงได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่เอิกเกริก พี่ทั้งสองอายุ ๘๗ แล้ว (อายุมากกว่าผม ๖ ปี) อาศัยรถตู้ของหลานลงมาร่วมงานทำบุญรวมญาตินี้
สถานที่จัดพิธีทำบุญปีนี้ย้ายมาอยู่ที่วัดพิชัยยาราม หรือวัดท่ายางกลาง ที่เราเรียกกันติดปากว่าวัดโบสถ์ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเก่าที่ผมเติบโตมาไม่ถึง ๕๐๐ เมตร เรานัดกันไปชุมนุมที่วัดตั้งแต่เวลาราวๆ ๙ น. เพื่อคุยกันก่อน ผมนัดคุณสถิตย์ พานิช ผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง (ลูกชายของอาอวยพร ผู้ล่วงลับ) และต้องดูแลหลานชายสองคน ให้จบการศึกษาปริญญาตรี จาก มทร. รัตนโกสินทร์ หัวหิน โดยกู้เงิน กยศ. และต้องไปเช่าห้องพักอยู่ที่หัวหิน เพื่อผมจะได้หาทางช่วยเหลือหลานบ้าง
พิธีทำบุญจัดที่ศาลาการเปรียญ คนละอาคารกับที่กินเลี้ยง อยู่ด้านหลังโบสถ์ สวดและให้ศีลให้พรเสร็จก็ไปทำพิธีถวายทานกันที่พระเจดีย์ที่ทวดกีหยง บุษราทิจ ให้สร้างไว้เมื่อปี ๒๔๕๔ น้องชายบอกว่าปู่เสี้ยง พานิช เป็นผู้ออกแบบและอำนวยการสร้าง เจดีย์นี้จึงมีอายุ ๑๑๒ ปี โดย ศ. นพ. สมพร บุษราทิจ (ผู้ล่วงลับ) มาอำนวยการบูรณะเมื่อกว่าสิบปีก่อน ที่เจดีย์มีจารึกบนแผ่นหินอ่อนว่าดังนี้ “หลงจู๊กีหยงสามีเลี่ยนภรรยา จิ้นคุ้มกันกี่ทรัพย์พร้อม บุตร์ มีจิตร์ศรัทธาสละทรัพย์ ๔๐๐ บาท สร้างพระเจดีนี้ไว้ เมื่อพุทธสาสนกาล ๒๔๕๔ พรรษา ตรงกับรัตนโกสินทรศก ๑๓๑ ขอให้เป็นปัจจัยแก่พระปรินิพพาน ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้น เทอญ” แสดงว่าทวดกีหยงกับทวดเลี่ยนมีลูกด้วยกัน ๖ คน ชื่อ จิ้น คุ้ม (ย่าของผม) กัน (ย่ากัน สุวรรณเมนะ ผู้ปูที่นอนมงคล ร่วมกับปู่เนื่องสามี แก่ผมและหมออมราตอนแต่งงาน วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๒) ก๋งกี่ ย่าทรัพย์ พร้อม (เข้าใจว่าเสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อย) ที่จริงทวดกีหยงมีลูกชายกับภรรยาอีกคนที่บ้านดอน และทวดเลี่ยนไปเอาตัวมาเลี้ยงเป็นลูก ชื่อปู่อ๋อง เป็นพ่อของพี่อี๊ดสุรภี
ท่านเจ้าคุณสมภารวัด เป็นเปรียญ ๙ ประโยค พื้นเพเป็นคนบ้านบางผรา ต. ท่ายาง กล่าวบอกบุญสร้างศาลาการเปรียญ น้องที่ทำหน้าที่จัดงานแจกซองทำบุญแก่แขกที่ต้องการทำบุญ ผมไปทำบุญใส่ซองตรงหน้าท่านเจ้าคุณ
เรากินอาหารเที่ยงน่าจะพร้อมๆ กับพระฉัน แปลกที่เขาไม่ได้ให้เราประเคนอาหาร เพียงแต่กล่าวถวายและพระกล่าวรับพร้อมอวยพร ขนมหวานบัวลอยมาก่อนกินอาหารคาว โชคดีที่เราไม่ได้กินขนาหวานนั้น ก่อนที่ข้าวเหนียวน้ำกระทิทุเรียนจะยกมา จึงได้กินข้าวเหนียวน้ำกระทิทุเรียน และทุเรียนที่แยกมาเสิร์พสมใจอยาก
ก่อนเที่ยงเล็กน้อยผมก็ร่ำลาน้องๆ เดินทางกลับ เพื่อให้ถึงบ้านไม่ดึก น้องเอาของฝากมาให้จนไม่มีที่วางในที่เก็บของท้ายรถ ที่วางแผนว่าจะแวะซื้อกล้วยตากทอดที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. เลยศาลพ่อตาหินช้างก็เป็นอันต้องงด เพราะของกินมากเกินอยู่แล้ว
วิจารณ์ พานิช
๓๐ ก.ค. ๖๖
บนรถยนต์ เดินทางกลับจากชุมพร
1 ระหว่างพิธี
2 แขกในพิธี
3 พระเจดีย์
4 พระเจดีย์และโบสถ์
5 โบสถ์
6 พี่ต๋อย อมรา พี่สุรภี วิจารณ์ ที่ห้องอาหารเช้าโรงแรมเอเต้
7 ดินดิน หลานชายอายุ ๗ ขวบ ของน้องชาย (คุณวิเชียร) เอารูปวาดฝีมือตนเองมาให้
รวมญาติ มีความสุขนะคะอาจารย์