เทคโนโลยีไม่เคยทำร้ายใคร (Technology never harms anyone)


เมื่อวานเย็นเป็นวันแรกที่กลับไปออกรายการกับนพพรชวนคุย แต่ด้วยเป็นครั้งแรกที่ออกรายการผ่านอินเตอร์เน็ตเลยขลุกขลักนิดหน่อย ผมเองก็ไม่ได้ใช้ facebook มานานหลังจากเลิกไลฟสดออก facebook  ไปหลังจาก พ.ร.บ. คอมฯ ประกาศใช้ 

ประเด็นหนึ่งที่พูดคุยกันคือ  ‘ai จะเป็นภัยต่อมนุษย์ไหม?’  เพราะนักวิชาการจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตนี้ไว้ และได้ข่าวมาว่าซีอีโอของกลูเกิลถึงกับลาออกจากตำแหน่งเพราะไม่เห็นด้วยที่มีการพัฒนาและนำใช้ ai มากขึ้น 

สำหรับตัวผมเองเห็นว่าเราไม่ต้องกังวลใจ หรือกลัว ai ขนาดนั้น เพราะ ai ก็เป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในการนำใช้ ซึ่งก็เหมือนนวัตกรรมและเทคโนโลยท้ังหลายที่มนุษย์สร้างขี้นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นพาหนะ เช่น รถยนต์ เครื่องทุ่นแรง เช่น ดินระเบิด หรือ อาวุธ  ปืน เป็นต้น 

จริงอยู่ทีสถิติการตายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถยนต์แซงหน้าการตายจากสาเหตุอื่น หรือคนเราใช้ดินระเบิดในการทำลายล้างกันและกัน หรือทำลายทรัพยากรมากมาย หรือคนเราใช้ปืนทำร้ายกันเอง หรือก่ออาชญากรรมต่างๆ มากมาย 

แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรามีเทคโนโลยีเหล่าน้้น แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากการนำใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นไม่ถูกวิธี หรือจงใจเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องมากกว่า 

ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่การมีเทคโนโลยีเหล่านั้น แต่อยู่ที่พฤตกรรมการใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นของมนุษย์เอง 

กรณี ai  ก็เช่นกัน ลำพังเทคโนโลยี ​​​ai นั้นเขาไม่มีพิษมีภัย หรือเป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์แต่อย่างไร สำหรับผมเห็นว่าเขาเป็นมหามิตร และตัวช่วยในการทำงานและการดำรงชีวิตมากกว่า 

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ ai น่าจะเกิดได้ใน 2  กรณี คือ (1) การใช้ ai ไม่ถูกวิธี และ (2) การใช้ ai  เป็นเครื่องมืออาชญากรรม 

การใช้​ ai ไม่ถูกวิธี เกิดได้หลายแบบ อาทิเช่นการที่เราพึ่ง ​ai จนทำให้เรากลายเป็นหง่อย เช่น ร้องคาราโอเกะ ก็อ่านเนื้อเพลง แทนที่จะจำเนื้อเพลง หมายเลขโทรศัพท์ก็ไม่จด หรือไม่จำ โดยเฉพาะหมายเลขที่สำคัญ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ของภรรยา หรือลูก เป็นต้น เวลาเขียนรายงานส่งครูก็ใช้โปรแกรม ​Chat gpt ช่วยเขียนแทน เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะทำให้ศักยภาพของมนุษย์ลดลง แล้วจะไปโทษ ai ไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง ครับ

การที่คนเราเป็นสังคมก้มหน้า ง่วนอยู่กับการใช้ ai และโปรแกรมใช้งานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไลน์ เฟชบูค และอื่นๆ  จนไม่มีเวลาคุย หรือไม่ใส่ใจ หรือสนใจคนตัวเป็นๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆ นั้นก็เกิดจากพฤติกรรมของคนเราเองครับ ai หรือโปรแกรมใช้งานเหล่านั้นไม่ได้บังคับ หรือขอร้องให้เราทำเลยครับ เราทำเองทั้งสิ้น ครับ

การใช้ ai เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชญากรรมถือว่าเป็นประเด็นใหญ่ซึ่งเป็นภัยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และต่อสังคมกับเศรษฐกิจโดยรวมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นแก้งต้มตุ๋น หรือพนันออนไลน์ ขายของไม่ซื่อสัตย์ ฯลฯ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านี้คือ ถ้านัก ai มีฝีมือบางคน หรือบางกลุ่มพัฒนารูปลักษณ์ (ตัวตนของ ai  เหมือนคนจริงๆ ได้) และสร้างโปรแกรมใช้งานให้มนุษย์พันธุ์ ai เหล่านี้ก่ออาชญากรรมเพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือพวกพ้อง นี่แหละคือหายนะของมนุษยชาติโดยแท้ครับ ลำพัง ai ทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ครับ เพราะเขาคือหุ่นยนต์ที่มนุษย์สร้างขึ้นและป้อนโปรแกรมใช้งานกับข้อมูลให้ ถ้าคนไม่ป้อนโปรแกรมและข้อมูลให้ ai ก็เป็นแค่เศษอิเล็กทรอนิคครับ ถ้าเราหยุดจ่ายพลังงานไฟฟ้า ทุกอย่างก็จบ ยกเว้น ai จะมีความสามารถในการผลิตพลังไฟฟ้าด้วยตนเอง และสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศด้วยตนเองได้ ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ก็ต้องมีมนุษย์เป็นคนป้อนโปรแกรมใช้งานให้เขาทำได้ครับ 

เพราะ ai ไม่มีจินตนาการ ครับ  ai เก่งและแม่นการเก็บข้อมูล และเก่งการประมวลผลครับ แต่ไม่สามารถจินตนาการได้ สิ่งที่มีชีวิตที่มีความสามารถทำสิ่งนี้ได้คือ ‘มนุษย์’ จึงทำให้เราสามารถพัฒนาสิ่งต่างๆ มาได้อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 

ความเห็นแก่ตัว และขาดคุณธรรมคือปัจจัยที่จะทำรายมนุษยชาติ ไม่ใช่ ai ครับ

รักนะ จุ๊บๆ

สมาน อัศวภูมิ

19 สิงหาคม 2566

หมายเลขบันทึก: 714049เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2023 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม 2023 18:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท