๒๓๔. วิธีฝึกความอดทน


นอกจากไม่บ่นเวลาฝึกหรือทำงานหนักแล้ว ผมยังอยากแนะนำให้ชมตัวเองด้วยว่าเราเก่งขึ้น ทุกวันทุกนาทีที่กำลังทำงานหนัก จะเกิดกำลังใจและฮึกเหิมที่จะอดทนมากขึ้น

 ตอนนี้จิตแพทย์งานหนักมาก เจอเคสพ่อแม่พาลูกมาปรึกษาเต็มไปหมด เพราะคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นพลังพัฒนาประเทศ กลายเป็นคนที่เปราะบาง รักสบาย ใครขัดใจไม่ได้ พร้อมจะระเบิดอารมณ์ ถ้าระเบิดอารมณ์ไม่ได้ ก็ระเบิดใส่ตัวเอง กลายเป็นโรคซึมเศร้ากันหมด แล้วประเทศชาติจะเอาใครไปช่วยพัฒนา...

■ เหตุการณ์แบบนี้ในไทยและไต้หวัน เรียก "สตรอเบอรี่เจนเนอเรชั่น" ดูสวยงามแต่เปราะบาง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเด็กในประเทศจีน ที่ลูกชายคนเดียวของครอบครัว ถูกเลี้ยงตามอกตามใจราวกับเทวดา ไร้มารยาท ไร้ความเกรงใจผู้อื่น ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ สุดท้ายกลายเป็นโรคซึมเศร้ากันหมด เวลาเจอเรื่องที่ผิดหวัง...เรียก "ฮ่องเต้ซินโดรม" หรือกลุ่มอาการฮ่องเต้

self esteem หรือความภาคภูมิใจในตนเองไม่มี มีแต่หายอดไลค์ไปวันๆ ตามโซเชี่ยลมีเดีย เสียเวลาไปมากมาย เพื่อรอการยอมรับ (approve)​ จากคนอื่น เพราะสร้างด้วยตนเองไม่เป็น มีแต่เปลือกที่เปราะบาง ไม่ต่างจากบ้านสวย ราคาแพงและหรูหรา... แต่ไม่มีเสาเข็ม แค่ลมพัดกรรโชกมา ไม่ช้าก็พัง

"วิธีฝึกความอดทน
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ

■ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งรู้ว่า ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมาก ถ้าขาดความอดทน ชีวิตจะล้มเหลวแทบทุกอย่าง

■ คนรุ่นใหม่ไม่อดทนกันเลย พ่อ-แม่ลืมฝึกให้ลูกอดทน เพราะพ่อ-แม่ช่วยลูกมากไป ทำให้แทบทุกอย่าง ลูกๆ เลยทำอะไรไม่เป็น ไม่อดทน รอคอยไม่เป็น เติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็กลายเป็นคนโกรธง่าย ท้อถอย ทำสิ่งใดก็ไม่สำเร็จ มักโทษตัวเองหรือคนอื่น หรือโทษโชคชะตา

■ ความอดทนเป็นวุฒิภาวะอย่างหนึ่งที่ทุกคนควรมี คนที่ขาดความอดทน มักจะมีสภาวะทางจิตใจและท่าทางเป็นเด็ก จิตที่มีความอดทน จะทำให้เราอดทนทางกายและทางวาจาได้มากขึ้น

■ บางคนชินต่อการบ่น ทำอะไรเหนื่อยหน่อยก็บ่น ยิ่งบ่นมากเท่าไรยิ่งไม่อดทนมากเท่านั้น พาลจะเลิกทำกิจกรรมนั้นอยู่เรื่อยๆ การบ่นถึงความเหนื่อยยาก เหมือนเป็นการเปิดประตูจิตใจรับฟังความอ่อนแอของตนเอง ทำให้เชื่อว่าตัวเองอ่อนแอ ไม่สู้พร้อมจะแพ้และไม่อดทน

■ นอกจากไม่บ่นเวลาฝึกหรือทำงานหนักแล้ว ผมยังอยากแนะนำให้ชมตัวเองด้วยว่าเราเก่งขึ้น ทุกวันทุกนาทีที่กำลังทำงานหนัก จะเกิดกำลังใจและฮึกเหิมที่จะอดทนมากขึ้น

■ ในแนวคิดทางพุทธศาสนาสอนให้คิดว่า เรากำลังชดใช้ “เวร” และ “กรรม” กันอยู่ โดยเราเป็นฝ่ายที่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อนมาก่อน ขณะนี้เรากำลังชดใช้เวรกรรมคืนเขาไป จะได้หมดเวรหมดกรรมกันเสียที แล้วเราจะสบายมากขึ้น นี่เป็นแนวคิดในทางพุทธศาสนา

■ แต่ถ้าเป็นแนวคิดทางคริสเตียนเขาเชื่อว่า การที่เรากำลังลำบากและต้องอดทนให้ได้นั้น เป็นเพราะพระเจ้าต้องการจะทดสอบความอดทนของเรา โดยประสงค์ให้เราต้องเจ็บปวด และต้องอดทนให้ได้ หลังจากนั้นเราจะสบาย และมีความสุขมากขึ้น

■ อีกวิธีหนึ่งที่ผมเคยใช้แนะนำหลายๆ คนในการฝึกความอดทน โดยให้คิดว่า “ความอดทนคือความกล้าหาญ” เราจะทนได้มากขึ้น เพราะคำว่า “กล้าหาญ” เป็นเสมือนเหรียญตราที่มีเกียรติประดับอยู่ที่หน้าอกเรา ฉะนั้น แม้เราจะเหนื่อยหรือเจ็บปวดบ้าง ก็ไม่เป็นไรหรอก จงอดทนต่อไปเถิด เพราะเราคือคนกล้าหาญไงเล่า

■ ใครที่มีความอดทนจะได้เปรียบในทุกๆ ด้านของชีวิต จากความอดทนจะทำให้เราอดกลั้นได้มากขึ้นทั้งทางกาย วาจา และทางความคิด

■ ทั้งอดทนและอดกลั้น จะทำให้เราเป็นคนกล้าหาญ ยืนหยัดในโลกได้อย่างมั่นคง ไม่เปราะง่ายเหมือนคนอื่นๆ ใครได้พบเห็นก็ชื่นชม และเราก็จะภูมิใจตัวเองว่ามี “เหรียญตราของความกล้าหาญ” ประดับอกเสื้ออยู่ตลอดไป

บทความโดย ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ
คอลัมน์ #โลกและชีวิต

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๘  สิงหาคม  ๒๕๖๖

ภาพประกอบ….บรรยากาศในโรงเรียนบ้านหนองผือ (ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖)

หมายเลขบันทึก: 714040เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2023 20:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2023 20:50 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท