การศึกษาต้องสร้างคนที่มี integrity นี่คือฉันทามติที่ยึดถือกันทั่วโลก แต่ผมสงสัยมาตลอดว่า วงการศึกษาไทยตีความคำนี้อย่างไร ในลักษณะ “นิยามเพื่อปฏิบัติการ” (operating definition) คือถามว่าวงการศึกษาไทยแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนความมี integrity ของคนในวงการศึกษาอย่างไร
หากจะให้ถามรวมๆ แบบไม่เกรงใจกัน ก็ถามว่า วงการศึกษาไทยในภาพรวมมี integrityอยู่ในระดับใด
ผมตีความว่า integrity เป็นเรื่องภายในตนเอง อยู่ในสำนึกลึกๆ ในระดับค่านิยม (values) integrity เป็นเรื่องของความมั่นคงในค่านิยมด้านดีของตนเอง เมื่อต้องเผชิญความท้าทายต่อค่านิยมของตน ก็ยังดำรงพฤติกรรมที่ยึดถือค่านิยมที่ดีนั้นไว้ ยกตัวอย่าง มีคนเอาเงินมาให้เดือนละ ๑ หมื่นบาท เพื่อขอให้ช่วยทำเป็นไม่เห็นว่ามีการเปิดบ่อน ค่านิยมด้านการไม่รับสินบนมั่นคงมาก ไม่รับ นายบ่อนมาใหม่ เสนอให้เดือนละ ๑ ล้านบาท ก็ไม่รับ คราวนี้นายบ่อนเสนอให้ ๑๐ ล้าน รับ แสดงว่า ไม่มี integrity
ลองเถียงตนเอง ว่า ที่ไม่รับตอนเขามาเสนอให้เดือนละ ๑ ล้านบาท เพราะอะไร ถ้าตอบว่า เพราะผิดสำนึกของตนเอง ในเรื่องการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง อย่างนี้ผมตีความว่า เป็น integrity แต่ถ้าไม่รับเพราะไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะถูกจับได้ อย่างนี้ไม่ใช่พฤติกรรมที่มาจาก integrity
ผมจึงตีความว่า integrity เป็นเรื่อง “เสียงภายใน” ของตนเอง ที่กำกับโดยค่านิยมด้านดี หรือความคิดที่เป็นกุศล เอาชนะกระแสในสังคมโดยทั่วไปที่มองผลประโยชน์เฉพาะหน้าเป็นหลัก
คนที่มี integrity จึงต้องมีสมรรถนะแยกแยะพฤติกรรมที่สะท้อนค่านิยมภายในของบุคคล หรือของสังคม เอามาบ่มเพาะความเชื่อและค่านิยมของตนเอง ให้แข็งกล้า ทนต่อความเย้ายวน
Integrity ในสายตาของผมจึงไม่ใช่สิ่งที่หยุดนิ่งตายตัว เป็นสิ่งที่มีความซับซ้อน และเป็นพลวัต มีปฏิสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของคนเรา และของวงการนั้นๆ
ผมจึงมีความเห็นว่า วงการศึกษาต้องเอาใจใส่เรื่อง Integrity ของคนในวงการศึกษา ขององค์กรในระบบการศึกษา และของระบบการศึกษา เพื่อให้การศึกษาสามารถส่งเสริมให้นักเรียนและครูบ่มเพาะ Integrity ให้แก่ตนเองได้อย่างแท้จริง เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา V – values - ค่านิยม ใน VASK
วิจารณ์ พานิช
๒๒ เม.ย. ๖๖
ไม่มีความเห็น