รศ. ประภาภัทร นิยม อธิการบดีและผู้ก่อตั้งสถาบันอาศรมศิลป์ ชวนไปทัศนศึกษาและพักผ่อน ที่เดนมาร์ก โดยไปพักที่สถานทูต เพราะท่านเอกอัครราชทูต ศิริลักษณ์ นิยม เป็นน้องสะใภ้ของท่าน คือเป็นภรรยาของท่านอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ธีรกุล นิยม
ได้กำหนดวัน เดินทางวันที่ ๒๓ เมษายน กลับออกจากโคเป็นฮาเกน ๒ พฤษภาคม ถึงกรุงเทพเช้าวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖ โดยผมต้องจัดการขยับวันนัดสองสามรายการ
คุณภาณุมาศ ชเยนทร์ (โท) แห่งสถาบันอาศรมศิลป์ รับอำนวยความสะดวกดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำวีซ่าเชงเก้น เข้าเดนมาร์ก ที่ต้องเอาพาสปอร์ตฉบับใช้งาน และฉบับเก่าที่มีการใช้เข้าประเทศเชงเก้น เอาไปเป็นหลักฐานการขอวีซ่า โดยคุณโทจัดการกรอกแบบฟอร์มให้ และจอง (จ่ายเงิน) ค่าธรรมเนียมขอวีซ่าจากสถานทูตเดนมาร์ก ๘๐ ยูโร และค่าถ่ายรูปติดวีซ่า ๒๘๐ บาท ให้ที่สถานที่ทำวีซ่าเลย เพื่อไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของรูปไม่ตรงข้อกำหนด นัดวันไปทำวีซ่าที่บริษัท VSF Global อาคาร เทร็นดี้ สุขุมวิท ซอย ๑๓ วันที่ ๑๖ มีนาคม เวลา ๘.๔๕ น. โดยคุณโทบอกว่า ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง
ที่จริงผมเคยไปทำวีซ่าที่นี่หลายครั้งแล้ว เวลาผ่านมาหลายปี คนแก่ธุระมากจำไม่ได้ หรือจำได้เพียงรางๆ
เช้าวันที่ ๑๖ มีนาคม ผมออกจากบ้าน ๖.๓๐ น. ไปถึงสถานที่ ๗.๑๐ น. มีคนยืนรออยู่หน้าตึกหลายคน ผมเดินเข้าอาคารไปเข้าห้องน้ำ แล้วมองหาที่นั่ง ซึ่งยังว่างอยู่จำนวนมากกว่าสามสิบที่นั่ง กระจายอยู่ มีคนนั่งอยู่แล้วไม่กี่คน ได้อาศัย
เกิดอยากกินกาแฟ มีร้านใหญ่กับร้านเล็ก ร้านใหญ่ยังเตรียมร้านไม่เสร็จ ร้านเล็กชื่อ Acai Story มีพนักงานชายคนเดียว ผมไปซื้อ ม็อคค่าเย็นแก้วใหญ่ ราคา ๑๔๐ บาท ที่เมื่อเห็นแก้วแล้วผมนึกในใจว่ามันขนาดเล็กนี่นา แต่กาแฟสดก็ให้รสชาติและกลิ่นที่ให้ความสดชื่น รวมทั้งได้อาศัยนั่งที่โต๊ะของร้าน ที่อยู่ใต้บันไดเลื่อน และเขียน (พิมพ์) บันทึกนี้
การทำวีซ่า เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับคนที่มีการศึกษาต่ำ จึงมีบริษัทนายหน้าอยู่ในตึก บริษัท VSF Global บอกทั้งในเอกสารที่ส่งให้เรา และติดป้ายชัดเจนตรงเคาน์เตอร์ ว่าเขาไม่รับผิดชอบเรื่องบริษัทนายหน้า ได้ออกมาเห็นโลกแห่งความเป็นจริงแล้วก็บอกตัวเองว่า เกิดมามีบุญที่ได้เรียน และเรียนรู้เรื่องต่างๆ มีความมั่นใจตนเอง ที่จะทำเรื่องต่างๆ ด้วยตนเองได้ และพออายุมากเข้า บุญกุศลที่บำเพ็ญมาในอดีต ก็บันดาลให้มีคนช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ ให้
เมื่อไรก็ตาม ที่ผมได้รับความสะดวกในชีวิต สติก็เตือนผมว่า ให้ใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ ทำประโยชน์ต่อผู้อื่น ต่อสังคม ให้มากที่สุดเท่าที่สติปัญญาและกำลังจะเอื้อให้
จากเอกสารสำหรับทำวีซ่า ผมได้ทราบว่า คณะของเรามี ๗ คน พักที่สถานทูตไทย และมีกำหนดดูงานที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ และอาคารเก่าที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม จากชื่อสถานที่ ผมจะได้เตรียมค้นทำความรู้จักไว้ล่วงหน้า เวลาไปชมจะได้เข้าใจลึก และเก็บข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ผมเตรียมเสนอ อ. ประภาภัทรให้นัดแนะคณะร่วมกันทำ BAR ก่อนวันเดินทาง และมีการทำ AAR ทุกวันหลังอาหารเย็น
เวลา ๘.๓๐ น. ผมก็ไปที่หน้าลิฟท์ บอกเจ้าหน้าที่ว่ามาทำวีซ่า เขาถามว่านัดกี่โมง ตอบว่า ๘.๔๕ เขาก็ให้ขึ้นไป ถึงชั้น ๘ ไปเข้าคิววีซ่าเดนมาร์ก เพราะ VSF บริการทำวีซ่าให้หลายประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เอาเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ เขาบอกให้ไปถ่ายรูปตามหลักฐานการจ่ายเงิน รูปออกมาห่วยกว่าที่ผมไปถ่ายที่หมู่บ้านเอื้ออาทรข้างบ้านที่ปากเกร็ดอย่างมากมาย โดยที่ที่ปากเกร็ดค่าบริการ ๕๐ บาทเท่านั้น ได้รูป ๔ รูปเท่ากัน และเขาต้องการใช้ ๒ รูป
เอารูปไปให้เจ้าหน้าที่ ก็ได้รับบัตรคิวว่าเป็นคิวเดนมาร์กคิวที่ ๖ ให้ไปรอหน้าห้อง ๑ – ๔ ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่มาทำงานเพียง ๓ คน และคนหนึ่งให้บริการแก่คนกลุ่มเดียว ที่ผมเดาว่าเป็นกรุ๊ปทัวร์ เข้าไปคนแล้วคนเล่า จนเวลา ๙.๑๕ เลยเวลานัดไปครึ่งชั่วโมง ผมไปถามดีๆ ว่าเมื่อไรจะถึงผม เพราะผมได้รับนัดเวลา ๘.๔๕ น. โดยบอกว่าจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ผมจึงนัดบรรยายที่เมืองทองธานีเวลา ๑๐.๓๐ น. เกรงจะผิดนัดที่นั่น เขาบอกว่าเหลืออีก ๓ คิว ผมบอกว่าไม่ทันแน่ เขาบอกว่าให้มาอีกทีตอนบ่ายก็ได้ แต่ต้องก่อน ๑๕ น. ผมขอนัด ๑๔.๓๐ น.
สรุปได้ว่า ที่ VSF มีการให้บริการแบบมีอภิสิทธิ์หรือฮั้วกันกับบริษัททัวร์ ไม่บริการแบบตรงไปตรงมาตามคิว เจ้าหน้าที่เขายอมรับว่า มีการบริการแก่กรุ๊ปทัวร์เป็นพิเศษจริง แต่แย้งว่า การทำวีซ่าใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ผมสังเกตว่าการทำงานของที่นี่ลดความเป็นมืออาชีพลงไปจากเมื่อหลายปีก่อน
ตอนบ่ายผมไปถึงก่อน ๑๔ น. เล็กน้อย แจ้งเจ้าหน้าที่ที่ลิฟท์ว่านัดบ่ายสองโมงครึ่ง เขาก็ให้ขึ้นไป ไปขอบัตรคิวใหม่ นั่งรอไม่นานเขาเรียก เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า เขาให้บริการกรุ๊ปทัวร์แบบลัดคิว และให้ผมไปถ่ายเอกสารหน้าพาสปอร์ตเก่าที่มีประทับตราเข้าออกเช็งเก้น ๒ หน้า ถ่ายที่ร้านถ่ายรูป ราคาหน้าละ ๘ บาท คือแพงกว่าราคาทั่วไป ๑๖ เท่า ค่าถ่ายรูปแพงกว่า ๕.๖ เท่า
จ่ายเงินให้ VSF ไป ๑,๐๓๐ บาท เป็นค่าบริการของ VSF ๕๒๐ บาท ค่าบริการส่งพาสปอร์ตถึงบ้าน ๔๓๐ บาท ค่า SMS Fee (ไม่รู้ว่าค่าอะไร) ๘๐ บาท เจ้าหน้าที่บอกว่า จะได้รับพาสปอร์ตภายใน ๒ - ๖ สัปดาห์
คนไทยที่จะไปเมืองนอก ต้องทำใจยอมให้ผู้ให้บริการขูดรีดค่าบริการ
ผมบอกคุณคุณโทว่า ผมจะเดินทางไปญี่ปุ่นวันที่ ๑ เมษายน ต้องใช้พาสปอร์ต เล่มที่เอาไปทำวีซ่าเดนมาร์ก คุณโทบอกว่า เสี่ยงที่จะได้รับพาสปอร์ตกลับคืนไม่ทัน จึงให้บริการติดต่อกรมการกงศุลขอทำพาสปอร์ตเล่มที่สองให้ ทางกรมการกงศุลติดต่อมายินดีให้บริการตามวันเวลาที่ผมนัดคือ ๒๐ มีนาคม เวลา ๑๑ น. ทั้งหมดนี้ด้วยบารมีของท่านอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ... นิยม
ผมได้รับพาสปอร์ตเล่มที่สองภายใน ๓ วัน และใช้ในการเดินทางไปญี่ปุ่นตามที่เล่าแล้ว กว่าพาสปอร์ตเล่มที่ใช้ทำวีซ่าเข้าเดนมาร์กจะส่งมาถึงบ้าน ผมก็ไปญี่ปุ่นแล้ว
วิจารณ์ พานิช
๑ เม.ย. ๖๖
เพิ่งทราบว่า เราสามารถทำพลาสปอร์ตสองเล่มได้ หากเราจะต้องไปต่างประเทศอีกประเทศหนึ่งก่อนที่วีซ่าจะออก ใช่ไหมคะ