เย็นวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖ เราออกเดินทางไปเยี่ยมชม Japanese Medical Education History Museum สิ่งที่เขาภูมิใจเสนอคือ ระบบคุ้มครองสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศ ดังในวิดีทัศน์ (๑) ที่ประเทศไทยเราก็ยังมีทีมเดินทางไปเรียนรู้จากประเทศญี่ปุ่นเสมอมา
ญี่ปุ่นเริ่มเรียนรู้การแพทย์ตะวันตก เมื่อ ๕ - ๖๐๐ ปีก่อน ผ่านทางประเทศปอร์ตุเกศ และเรียนรู้การแพทย์แผนตะวันออกจากจีน ต่อมาประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือ ฮอลแลนด์ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเยอรมนี อังกฤษ และอเมริกา ตามลำดับ
เมื่อได้ไปเยี่ยมชมสถานที่จริง ก็กลับมาชมวิดีทัศน์ (๑) เข้าใจมากขึ้น และเห็นชัดว่าประวัติศาสตร์การแพทย์ไม่ได้แยกจากประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่เมื่อสองร้อยปีก่อน คือคริสตศตวรรษที่ ๑๘ ญี่ปุ่นหาทางป้องกันการโดนยึดครองโดยประเทศตะวันตกอย่างเต็มที่ โดยการปิดประเทศ แต่ด้านการสร้างความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ ได้เชิญให้หมอดัทช์ คือ Pompe van Meedervoort (1828-1908) ไปวางระบบการแพทย์สมัยใหม่ให้แก่ประเทศ
ที่น่าสนใจคือ โรงเรียนแพทย์สมัยใหม่ (แผนดัทช์) ของญี่ปุ่นริเริ่มก่อตั้งโดยคนญี่ปุ่นที่เป็นเอกชน ไม่ใช่ก่อตั้งโดยภาครัฐ ทำให้ผมตั้งข้อสังเกตว่า สังคมญี่ปุ่นยอมรับ หรือเห็นความสำคัญของภาคธุรกิจเอกชนในการริเริ่มกิจการต่างๆ ของสังคม หรือมีวัฒนธรรมของการกระจายอำนาจให้แก่เอกชนมาช้านาน ไม่มีวัฒนธรรมรวมศูนย์ไว้ที่อำนาจรัฐอย่างสังคมไทย
ตีความอย่างนี้ ถูกหรือผิด ก็ไม่ทราบ
ช่วงสงคราม มีการเร่งรัดผลิตแพทย์และวิชาชีพสุขภาพ โดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง เพราะผู้ชายโดนเกณฑ์ไปรบ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง การแพทย์ญี่ปุ่นเปลี่ยนไปตามอย่างระบบอเมริกัน
โรงเรียนแพทย์ในญี่ปุ่นจึงมีทั้งโรงเรียนแพทย์ของรัฐ และโรงเรียนแพทย์ของเอกชน และยังแบ่งเป็นโรงเรียนแพทย์ที่เป็นมหาวิทยาลัย และที่เป็นวิทยาลัยอาชีวะ เพิ่งมามีกฎหมายให้เป็นมหาวิทยาลัยทั้งหมด โดยเรียน ๖ ปี ต่อด้วยอินเทิร์น ๑ ปี ในปี ค.ศ. 1966 นักศึกษาแพทย์เดินขบวนประท้วง จนต้องเลิกระบบอินเทิร์น ปรับเป็นระบบเรียน ๖ ปี และสอบใบประกอบวิชาชีพ ตามด้วยการฝึกทางคลินิกอีก ๒ ปี
ระบบคุ้มครองสุขภาพถ้วนหน้า (UHC – Universal Health Coverage) ของญี่ปุ่น เริ่มปี 1961 ขณะนี้วิชาชีพด้านสุขภาพของญี่ปุ่นมีถึง ๒๒ วิชาชีพ
ในช่วงท้ายของวิดีทัศน์ เล่าความช่วยเหลือต่อประเทศต่างๆ ผ่าน JICA ให้พัฒนาระบบ UHC ถึง ๑๑๐ ประเทศ โดยเขายกตัวอย่างประเทศมองโกเลีย
วิจารณ์ พานิช
๗ เม.ย. ๖๖
ไม่มีความเห็น