เซนได...จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (7) อ่าวมัตสึชิมะ หนึ่งในสามสุดยอดทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่น

เซนได…จุดหมายปลายฝัน วันที่รอค อย (7) อ่าวมัตสึชิมะ หนึ่งในสามสุดยอดทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่น 

เมืองมัตสึชิมะ (Matsushima) ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิ ในภูมิภาคโทโฮขุ  มัตสึชิมะเป็น 1 ใน 3 ทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่น (Nihon Sankei) มัตสึชิมะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับชาวญี่ปุ่นและยังเป็นสถานที่แนะนำให้เพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์และฤดูกาลของญี่ปุ่นอีกด้วย

สามทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่น หมายถึง ยอดทิวทัศน์สามแห่งที่เป็นตัวแทนแสดงถึงญี่ปุ่น เป็นชื่อเรียกรวมกันของสถานที่ 3 แห่ง ดังต่อไปนี้

อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) แห่งจังหวัดมิยางิ 1ใน 3 สุดยอดจุดชมวิวของญี่ปุ่น Nihon Sankei ประกอบด้วยเกาะเล็กๆมากกว่า 200 เกาะที่ปกคลุมด้วยป่าสน วิธีการที่ดีที่สุดในการชมอ่าวคือการล่องเรือ โดยมีบริษัทเรือให้บริการเที่ยวชมอ่าวซึ่งจะเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ท่าเรือมัตสึชิมะหรือท่าเรือชิโอกามะ ส่วนเส้นทางที่ไกลออกไปยัง Ok - Matsushima เป็นพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 25 - 50 นาที

อามาโนะฮาชิเตะ (Amanohashidate) เป็น 1 ใน 3 ทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่น(Nihon Sankei) ลักษณะเป็นแนวสันทรายทอดยาวราวกับเป็นสะพานที่เมื่อชมจากจุดจำเพาะก็จะดูเหมือนสะพานดินเชื่อมฟ้า เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเที่ยวที่เมืองเกียวโต

เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) เป็น1ใน 3 ทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่น (Nihon Sankei) ที่ครองตำแหน่งร่วมกับมัตสึชิมะ ในจังหวัดมิยางิ และอามาโนะฮาชิดาเตะ แห่งเมืองเกียวโต เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องซุ้มประตูโทริอิ กลางน้ำและศาลเจ้าลอยน้ำ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองฮิโรจิมา ห่างกันออกไปเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นเกาะมิยาจิม่า ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม

ซุ้มประตูโทริอิสีส้มที่เรียกว่า มิยาจิมะโทริอิ เป็นเสาโทริอิที่ไม่ได้ลอยอยู่บนน้ำ แต่สร้างขึ้นโดยให้โผล่อยู่กลางน้ำในช่วงที่น้ำขึ้นสูง ระดับน้ำก็สูงขึ้นและทำให้ซุ้มประตูโทริอิดูเหมือนลอยอยู่ในทะเล แต่ในช่วงน้ำลงสามารถเดินไปชมประตูโทริอิอย่างใกล้ชิดได้

สามจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์งดงามที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ปรากฏอยู่ในบทกวีญี่ปุ่นและภาพวาดญี่ปุ่นมากมาย หนึ่งในนั้นคือผลงานของนักกวีไฮกุผู้เป็นตำนานอย่างมัตสึโอะ บาโช (ค.ศ.1644 - ค.ศ.1694)

เมื่อเดินทางมาถึงอ่าวมัตสึชิมะเป็นเวลาที่หิมะหยุดตกแล้ว จึงพากันเดินชมบริเวณโดยรอบของอ่าวมัตสึชิมะ แต่แล้วหิมะก็เริ่มโปรยปรายลงมาอีกและเริ่มหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ  จึงพากันข้ามถนนเดินเข้าซอยเพื่อไปที่ร้านอาหารก่อน ระยะทางจากริมอ่าวมัตสึชิมะถึงร้านอาหารประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้เปียกปอนหนาวเหน็บไปตามๆกัน

ร้านอาหารมื้อนี้ที่มัตสึชิมะเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น โต๊ะเป็นแบบเตี้ยๆ นั่งบนพื้นที่ปูลาดด้วยเสื่อทาทามิของญี่ปุ่น มีเบาะให้รองนั่ง ทางร้านต้อนรับด้วยน้ำชาร้อนๆช่วยให้อบอุ่นคลายความหนาวเย็นได้

มัตสึชิมะอุดมไปด้วยอาหารทะเล  โดยเฉพาะหอยนางรมซึ่งมีมากในช่วงฤดูหนาว และหอยนางรมที่มัตสึชิม่าจะสดรสชาติดีไม่แพ้หอยนางรมที่ขึ้นชื่อของเมืองฮิโรชิม่า เมนูหอยนางรมมีให้เลือกหลากหลาย เช่น เบอร์เกอร์หอยนางรม ข้าวหน้าหอยนางรม นอกจากนี้ยังมีเมนูซีฟู๊ดที่ขึ้นชื่อ เช่น ข้าวหน้าหอยกาบ และ ข้าวหน้าปลาไหลทะเลย่าง

อาหารมัตสึชิมะที่ขึ้นชื่ออีกหนึ่งเมนู ที่หากใครไม่ได้ลิ้มลองก็ถือว่าผิด นั่นคือเมนูลิ้นวัวย่างเตาถ่าน (Gyutan Yaki) กลิ่นหอมฟุ้ง เนื้อนุ่มมาก เสริฟพร้อมกับข้าวสวยและเครื่องเคียง นอกจากนี้ยังมีการนำลิ้นวัวไปปรุงเป็นเมนูอื่นๆ เช่น แกงกะหรี่ลิ้นวัว สตูว์ลิ้นวัว และเต้าหู้ลิ้นวัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเมนูใดก็ล้วนแต่ดีงามน่ารับประทานทั้งนั้น

อิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันแล้ว แต่ภายนอกหิมะก็ยังโปรยปรายลงมาไม่หยุด อย่างไรก็ตามยังต้องลุยหิมะไปชมวัดเก่าแก่ของเมืองมัตสึชิมะอีก 3 วัด และยังมีโปรแกรมที่พลาดไม่ได้ตอนเย็นวันนี้ คือการล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิมะ 1ใน 3 ทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น แค่หิมะตกนิดหน่อย ยังไหวอยู่ค่ะ

 

ขอขอบคุณ

• บางภาพจากอินเทอร์เน็ต
• ภาพจากไฟล์ของ ดร.อรนรินทร์ ขจรวงศ์วัฒนา