๑๙๖. “ชีวิตนี้สั้นนัก จะทำอะไรก็รีบทำ”


“… ไม่มีสิ่งใดจะอยู่ตลอดไป และตลอดกาล วันหนึ่งเราก็ต้องรู้จักคำว่าสูญเสีย เพียงแต่เราจะเข้าใจ ทำใจได้มากน้อยแค่ไหน …”

     ผมติดตามอ่าน “บันทึก”ของอาจารย์วัส ( WASAWAT DEEMARN) ในเว๊บไซต์โกทูโน ท่านเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากงานสอนแล้ว ท่านยังเป็นนักคิด นักเขียนและนักอ่าน ที่ผมรู้สึกเคารพและนับถือ   

     อ่านเรื่องราวในบันทึกล่าสุดของท่านแล้ว "ทำอย่างกับว่า จะอยู่ตลอดไป" มีข้อความหลายบรรทัดที่ตรงกับใจผม และข้อคิดมากมายหลายประโยค ที่ผมปรารถนาเหลือเกิน จะนำไปใช้ต่อ..ตลอดปี ๒๕๖๖ และตลอดไป

     ผมใกล้จะเกษียณแล้ว แต่อาจารย์วัสดูจะหนุ่มกว่าผมมากมาย นอกจากวัยแล้วยังมีสิ่งที่เราแตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องราวในปี ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา เมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้

     อาจารย์บอกว่า…"กว่าเวลาจะผ่านไปในแต่ละวัน มันดูเชื่องช้า ……"สำหรับผม..มันรวดเร็วเหลือเกิน เหมือนจะทำงานเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวก็สิ้นปีเสียแล้ว

     ในความเงียบงันของชีวิตและกาลเวลา ตลอดปีที่ผ่านมานั้น อาจารย์ได้เรียนรู้หลักธรรมพื้นฐาน ผมอ่านและสัมผัสได้ถึงความสำคัญยิ่งนัก จากข้อความเหล่านั้….

    “… ไม่มีสิ่งใดจะอยู่ตลอดไป และตลอดกาล วันหนึ่งเราก็ต้องรู้จักคำว่าสูญเสีย เพียงแต่เราจะเข้าใจ ทำใจได้มากน้อยแค่ไหน …”

     อาจารย์วัสรักการอ่านหนังสือ ที่ผมถือเป็นแบบอย่าง แต่ปีที่แล้ว อาจารย์บอกว่า “หนังสือก็ซื้ออ่านมาเช่นปกติในทุก ๆ ปี แต่อ่านไม่เคยจบ…” แต่บรรทัดต่อไปนี้ อาจารย์วัสไม่ได้พูด แต่เขียนไว้แล้วผมก็ได้อ่าน…และชอบมากมาย

     “ใครอยากจะชิงดีชิงเด่นกันแค่ไหน ก็ตามสบาย ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย มีหน้าที่อะไรก็ทำไป ทำให้ดีที่สุดเท่าที่สภาพจิตใจจะทำได้”

     “ข่าวสารที่เข้ามาในช่องทางต่าง ๆ มองข้ามไปบ้าง อ่านผ่าน ๆ บ้าง เลือกสรร ปล่อยทิ้งตามเหตุอันสมควร เราไม่จำเป็นต้องรู้ไปทุกเรื่อง เวลาของชีวิตของเราไม่ได้มีมากขนาดนั้น”

     “การสอนหนังสือ ก็ให้หย่อนลง ตัดทิ้งมากกว่ามุ่งหวัง ใครอยากเรียนก็เรียน ใครไม่อยากเรียนก็ตามใจ ไม่เคี่ยวเข็ญเหมือนก่อน กรรมเป็นของบุคคล ทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น….”

     “เด็กเจนใหม่ ไม่ชอบความเหนื่อยยาก อะไรมันง่ายก็เลือกทำอย่างนั้น หิริ-โอตัปปะไม่ต้องใช้ เอาใจตัวเองมาเป็นที่หนึ่ง ได้ง่าย ๆ เอา ยากไปก็บ่น ต่อว่า ระราน วิ่งหนี เหมือนชีวิตไม่ต้องทำอะไรให้มันมีคุณค่ากว่านี้ …”

     “เพื่อน ไม่ต้องมีเยอะก็ได้ หากมีเยอะแล้ววุ่นวาย ยังอยู่คนเดียวได้ ไม่ได้เดือดร้อนใคร หรือถ้าจะมี ขอสนิทสักคนก็พอ…”

     “ไม่ต้องไปปรารถนาดีต่อใคร เพราะนั่นเป็นข้ออ้างที่จะเข้าไปคาดหวังสิ่งที่ตนเองอยากให้เขาเป็นอย่างที่เราคิด ไม่มีใครเป็นเหมือนใคร ชีวิตเป็นของเขา ให้เขาตัดสินใจเอง”

     "คนรัก ถ้ามีแล้วมีความสุขก็อยากมี ต้องจำไว้ว่า “เราสามารถชอบใคร รักใครก็ได้ตามที่ใจเราบอก แต่เราไม่สามารถไปบังคับให้ใครมารักเราได้”

     “ไม่มีใครจะอยู่ในโลกนี้ได้ตลอดไป เร่งทำบุญกุศล ความดีไว้เถิด ละทิ้งความชั่ว ทำให้จิตใจใสสะอาดผ่องแผ้ว”

      ในท้ายที่สุด อาจารย์วัสทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำสร้างสรรค์ แบบคนชั้นครู ผู้ซึ่งเสียสละและจริงจัง จริงใจ ให้กับการทำงาน ผมอยากทำได้ในแบบที่อาจารย์กล่าวไว้……

     “ถ้าหากชีวิตของผมยังมีประโยชน์ต่อสังคม ต่อโลกอยู่บ้าง ก็ขอให้ผมได้มีโอกาสทำสิ่งดี ๆ เหล่านั้น ”   

      “ชีวิตนี้สั้นนัก จะทำอะไรก็รีบทำ”

       นั่นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้เริ่มแรกจากบันทึกของอาจารย์วัส ในปีใหม่ ๒๕๖๖.. ที่ผ่านมาได้เพียงสองวัน….

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒  มกราคม  ๒๕๖๖

     

หมายเลขบันทึก: 711064เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2023 20:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2023 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบพระคุณท่าน ผอ. ที่ได้นำความคิดที่อยู่ในหัวของผมมาขยายต่อ ทำให้ผมได้มีโอกาสทบทวนตนเองอีกชั้นหนึ่งอีกรอบหนึ่ง

ผมเขียนบันทึกนี้ออกมาแบบไม่ได้มีโอกาสกลับไปทบทวน หรือ เน้นคำ เน้นประโยค หากแต่เป็นสิ่งที่ผมปฏิบัติตนเช่นนั้นมาโดยตลอด จนหลายความคิดได้มีโอกาสถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้กับกัลยาณามิตรหลายท่านที่อยู่รอบตัวผม

ขอบคุณ ท่าน ผอ.อีกครั้ง

ผมซาบซึ้งใจสำหรับ “ความห่างไกล แต่หัวใจคนทำดีอยู่ใกล้กัน” ครับ ;)…

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท