ฉลาดพูดจา จะนำพาให้คนรัก
ฉลาดพูดจา จะนำพาให้คนรัก
ฉลาดพูดจา จะนำพาให้คนรัก
ดร.ถวิล อรัญเวศ
คำที่ว่า “อยู่คนเดียว ให้ระวังความคิด อยู่กับมิตร
ให้ระวังคำพูดจา” สอนให้เราได้รู้จักพูดจา พูดที่นุ่มนวล อ่อนหวาน
ฝึกพูดให้เป็น ไม่ควรพูดให้คนเจ็บช้ำน้ำใจ ไม่ควรพูดยุแหย่ให้
คนเกลียดชังกัน นิทานโคนันทิวิสาลก็ให้แง่คิดไว้แล้วในเรื่องนี้
การพูดจาที่ไพเราะ จะเรียกว่า ปิยวาจา หรือมธุรสวาจา
ก็ได้ หลักธรรมทางพุทธศาสนา มีในหลักธรรมหลายหมวด เช่น สังคหวัตถุ 4 หลักธรรม
การผูกมิตรไมตรี ข้อ 2 ปิยวาจา มรรค 8 คือ สัมมาวาจา ศีล 5 อยู่ในข้อ 4 มุสาวาจา ห้ามพูดเท็จ
ห้ามพูดโกหกหลอกลวงต้มตุ๋นกัน การพูดคำจริง ก็ถือ
ว่าเป็นวาจาที่ทำให้คนรักได้
เรื่องการพูดนี้ มีการนำไปฝึกกัน เช่น ฝึกวาทศิลป์ หรือ
การพูดอย่างมีศิลปะ เพราะการพูดคือว่า เป็นศิลป์ หรือเป็น
ศิลปะด้วย ต้องใช้ไหวพริกปฏิภาณในการพูดเพื่อให้สอดคล้อง
กับสถานการณ์นั้น ๆ เพราะ “รู้อะไรก็ไม่สู้รู้วิชา แต่การรู้รักษา
ตนให้รอด คือยอดของคน”
ในวงเหล้า เขาเตือนให้ระวังคำพูด ไม่ควรพูดที่ก่อให้เกิด
การทะเลาะวิวาท เพราะแม้คนเป็นเพื่อนกัน กินเหล้าด้วยกัน
พอเมาพูดจาไม่รู้เรื่องอาจถูกฆ่าตายได้ง่าย ๆ ต้องระวัง โดย
เฉพาะในเทศกาลวันสำคัญมักจะตั้งวงดื่มกัน พอเหล้าเข้าปาก
หลายแก้วขาดสติ พูดไม่รู้เรื่อง พูดชวนทะเลาะ มีสิทธิ์ที่จะทำให้
เกิดบาดเจ็บ เลือดตก ยางออกหรือเสียชีวิตได้ง่าย ๆ ต้องระวัง
การพูดจานี้ มีการนำไปฝึกฝน ให้เป็นคำคม โดยเฉพาะ
ฝ่ายชายเราที่จะไปจีบสาว คำพูดก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้
สาวที่เราไปจีบหลงรักได้ง่าย ๆ ดังคำที่ว่า “คารม เป็นต่อ
รูปหล่อ เป็นรอง”
การพูดดี มีคำคม มีคารม ครูเพลงทั้งหลายได้นำไปสอดแทรกในบทเพลง บทกลอนเพื่อให้หนุ่ม ๆ ได้นำไปปรับใช้ในการพูดจาหารัก หรือเทคนิคการจีบสาวนั้นเอง
คำคม คือ ถ้อยคำที่หลักแหลม ชวนให้คิด หรือถ้อยคำหรือข้อความที่มีความหมายอยู่ในตัวด้วยการกล่าวซ้ำคำบางคำในข้อความนั้น ๆ ให้มีความหมายเกี่ยวพันกับเนื้อความเดิม คำคมที่ดีต้องแสดงถึงการใช้ความคิด หรือแสดงให้เกิดความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้อ่านเกิดความลึก
ซึ้งเมื่อได้อ่าน....
คำที่ว่า “คารม เป็นต่อ รูปหล่อ เป็นรอง” ก็คงจะเป็นความจริง เป็นอมตะวาจาตลอดมา และก็ตลอดไป เพราะฉะนั้น คำพูดจา ถ้าฉลาดพูด จะนำพาให้คนรักได้ เป็นการสร้างมิตร สร้างบริวารได้ แม้สุนทรภู่ กวีเอกของโลกก็ให้ข้อคิดไว้แล้วว่า
"ถึงบางพูด พูดดี เป็นศรีศักดิ์
มีคนรัก รสถ้อย อร่อยจิต
แม้พูดชั่ว ตัวตาย ทำลายมิตร
จะชอบผิด ในมนุษย์ เพราะพูดจา"
จากนิราศภูเขาทอง ของสุนทรภู่
อันอ้อยตาล หวานลิ้น แล้วสิ้นซาก
แต่ลมปาก หวานหู ไม่รู้หาย
แม้เจ็บอื่น หมื่นแสน จะแคลนคลาย
เจ็บจนตายนั้น เพราะเหน็บ ให้เจ็บใจ
จากบทกลอนที่ยกตัวอย่างมา พอจะชี้ให้เห็นได้ว่า
การพูดนั้น มีความสำคัญมาก ปากเป็นเอก เลขเป็นโท
หนังสือเป็นตรี แต่ชั่วดี เป็นตรา (ตรวจตราดูเอา)
กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "นิราศอิเหนา"
อันความรักนี้น่าประหลาดใจหนา
เหตุไฉนหนอจึงตัดยากตัดเย็นกันนักหนา
ห้วงอารมณ์ความคิดจนจิตพิศวาศนั้นนา
ยากจะตัดใจเลิกรักใคร ช่างยากเย็น
บ่อเกิดแห่งรัก
พุทธศาสนาได้กล่าวถึงบ่อเกิดของความรักไว้
ดังพุทธภาษิตที่ว่า
“ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน ปจฺจุปนฺนหิเตน วา
เอวนฺตํ ชายเต เปมํ อุปฺปลํ ว ยโถทเก”
ความรัก ย่อมเกิด เพราะอาศัยเหตุ ๒ ประการคือ
๑. เพราะการอยู่ร่วมกันในปางก่อน
๒. เพราะการเกื้อกูลช่วยเหลือกันในปัจจุบัน
ความรักเกิดเพราะอยู่ร่วมกันในปางก่อน
เรียกว่า บุพเพสันนิวาส คือการได้เคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ ได้สร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันมา
ทำอะไรตรงตามกัน มีความเห็นสอดคล้องเหมือนกัน เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข เป็นเหตุส่งผลให้ได้
มาเป็นคู่ครองกันในปัจจุบัน บุพเพสันนิวาสบางครั้งอาจจะได้อยู่ร่วมกันในฐานะอื่นก็ได้
ความรักเกิดเพราะเกื้อกูลกันในปัจจุบัน
ในกรณีซึ่งไม่ใช่บุพเพสันนิวาส แต่อาศัยความใกล้ชิดสนิทสนมกัน อาศัยความช่วยเหลือกัน
เห็นอกเห็นใจกันในปัจจุบัน จะส่งผลให้เป็นเนื้อคู่กันในปัจจุบันและในอนาคตต่อไป
แม้ความรักจะเกิดเพราะอยู่ร่วมสุขร่วมทุกข์กันในปางก่อน
และเพราะการได้เกื้อกูลช่วยเหลือกันในปัจจุบันก็จริง แต่คำพูด
จาของเราก็คงจะมีส่วนสำคัญเช่นกัน ไม่งั้นเขาคงไม่พูดว่า
“คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง”
ฉลาดพูดจา จะนำพาให้หารัก
มีนักปราชญ์ นักกลอน เขาจะใช้คำพูดออกมาเป็นคำคม
เพื่อเป็นการจุดประกายให้คนได้คิดและให้คนรัก เช่น
1. ไอติมมีหลายสี ผักชีมีหลายใบ
คนเรามีหลายใจ จะรักใครชอบใคร
จงคิดรอบคอบไว้ก่อนนั้นแหละจึงจะดี...
2. ถึงรูปพี่จะไม่หล่อดี แต่เงินในบัญชี
ของพี่ก็พอมีจะดำรงชีวิต ขอเพียง
ใจน้องหันมามองพี่สักนิด
รับรองว่าชีวิตของเราจะสดใสแน่นอน.....
3. ช่วงนี้โควิด 19 แพร่เชื้อระบาดหนัก
ขอให้น้องรักดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะครับ
ไม่อยากให้น้องเป็นอะไรไป
นอกจากใจจงมาเป็นของพี่เสมอ...
4. เรียนหนังสือจะได้ความรู้
แต่ถ้าพี่ได้แฟนเป็นครู
จะได้ทั้งความรู้และความรัก
ขอฮักคุณครูจะได้ไหมครับ
บุญพี่จะมีพอกับครูบ้างไหมหนอ....
5. พี่เลิกไปแล้วเรื่องบุหรี่เรื่องเหล้า
และอยากเข้าเรือนหอ
เป็นทองแผ่นเดียวกันกับน้อง
พี่คงมีโอกาสบ้างไหมนะ...
6. ถึงตัวจะไม่ค่อยผอม แต่เวลาได้หอม
แล้วจะหายเหนื่อยนะ เกมกีฬาพอแข่งได้
แต่แข่งรัก พี่ไม่ขอแข่งอยากให้แบ่งใจมาให้ก็พอ
7. เปลวเทียนยังให้แสง มสธ.รามคำแหงยังให้
โอกาสทางการศึกษา พี่อยากหารักจากใจจริง
จะพอมีบ้างไหม....
8. เขาว่าถ้าโลกมันกลมนะ
อยากให้น้องวนกลับมา
ทำไมเธอไม่วนกลับมาหาพี่....
9. สุริยุปราคาเป็นบางส่วนของดวงอาทิตย์
ถ้าครึ่งหนึ่งของชีวิตเป็นเธอพอจะได้ไหม...
10. อยากมีเงิน ต้องขยัน จะพานพบ
อยากเรียนจบ ต้องขยัน หมั่นศึกษา
อยากพบรัก ต้องหมั่นเพียร เวียนไปมา
อยากมีหน้า ต้องเสนอหน้า อาสางาน
ฯลฯ
คำพูดจา หรือคำคมเหล่านี้ อาจจะเป็นสื่อพบรักก็ได้ เรา
ควรพูดจาที่จะนำพาให้คนรัก หรือ ฉลาดพูดจา จะนำพาหารัก
คำคม หรือคำพูดจาที่เป็นสื่อนำพาหารักจากบทเพลง
ครูเพลง และศิลปินขับร้อง หรือนักร้องเพลงทั้งหลาย ได้สะท้อนคำพูดที่ไพเราะ
ฟังแล้วสบายหู แม้ดูก็จะสบายตา และ
ฟังไปก็พาสบายใจ นั้นเอง เช่น
คืนอำลา
นางรอง
พี่เกี้ยวไม่เป็น
เสน่ห์สาวเวียงพิงค์
ตา
เพลง สปป.ลาว
ลำภูไท
ຖາມຂ່າວສາວພູໄທ
เพลงจีน
สรุป
การพูดจา เป็นสิ่งสำคัญ สามารถสร้างเสน่ห์ทำให้คนรักได้ เราต้อง
ฝึกฝนเอา ที่เรียกว่า ฝึกวาทศิลป์ หลักธรรมเกี่ยวกับคำพูด หรือการพูดจา
จะปรากฏในหลายหมวด เช่น สังคหวัตถุ 4 ข้อ 2 คือ ปิยวาจา มรรค 8
อยู่ในข้อ 3 คือ 3. สัมมาวาจา คือการพูดจาที่ชอบประกอบด้วยเหตุผลแห่ง
ความดี นั้นเอง ศีล 5 อยู่ในข้อ 4 มุสาวาทา เวรมณี ละเว้นการพูดเท็จ
พูดไม่จริง ให้พูดแต่คำจริงเข้าหากัน การฉลาดพูดจา จะนำพาให้คนรัก
--------------------------------
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น