ถ้าเราเป็นตัวกระตุ้นให้เพื่อนเครียดเพราะเพื่อนคิดว่าเราเรียนเก่งกว่า แต่เพื่อนต้องการให้เราช่วยจัดการความกังวลทางการเงิน สิ่งที่เราจะเตรียมความพร้อมก่อนการให้คำปรึกษาเพื่อนคืออะไร จะใช้เทคนิคใดบ้างที่เคยเรียนรู้มา และจะมีกระบวนการอย่างไรที่เราช่วยเพื่อนให้มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจได้ทักษะแก้ไขปัญหาชีวิตได้อย่างยั่งยืน
จะใช้เทคนิค สุ จิ ปุ ลิ + เทคนิคการหูตาใจรับฟัง
ในขั้นตอนแรกของการเป็นที่ปรึกษาที่ดี เราต้องเป็นผู้รับฟังที่ดีก่อน โดยจะใช้หลักการ สุ จิ ปุ ลิ สุ - รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น สังเกตสีหน้า แววตา ท่าทางที่เพื่อนแสดงออก
จิ - คิดไตร่ตรอง คิดเชิงบวก คิดแบบเป็นกลาง
ปุ - ตั้งคำถามเพื่อให้เพื่อนได้คิดทบทวนตัวเอง
ลิ - จดบันทึกใจความสำคัญเพื่อนำมาเรียบเรียง
บวกกับหลักการใช้หู ตา ใจ รับฟังเพื่อน
เมื่อรับฟังปัญหาของเพื่อนแล้ว ตัวเราเองก็ต้องมีการสะท้อนคิด จับประเด็น มีการทวนซ้ำ
มีการสะท้อนความรู้สึก+เชื่อมเนื้อหาของประเด็นปัญหา
เอาใจเขามาใส่ใจเรา ร่วมรับรู้จับอารมณ์บวกที่เพื่อมีอยู่+คิดครบระบบ ช่วยแก้ปัญหาอย่างมีสติสัมปชัญญะ
ในส่วนของวิธีการแก้ปัญหาโดยจะแยกใจความสำคัญออกเป็น 2 ส่วน 1)ปัญหาที่เราเป็นตัวกระตุ้นให้เพื่อนเครียดเพราะเพื่อนคิดว่าเราเรียนเก่งกว่า ส่วนอาจจะแก้ปัญหาไปด้วยกันโดยการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ชวนเพื่อนมาติวด้วยกัน อ่านหนังสือด้วยกัน คลายเครียดด้วยกัน มีการละลายพฤติกรรมทั้งเราและเพื่อน ทำให้เพื่อนเห็นว่าเราก็ไม่ได้เก่งไปทุกเรื่อง คนเราก็มีด้านที่ถนัดแตกต่างกันไป เธอมีดีนะ เขามีดี ทุกคนก็มีดีเป็นของตัวเอง 2)เพื่อนต้องการให้เราช่วยจัดการความกังวลทางการเงิน ส่วนนี้อาจจะแก้ปัญหาด้วยวิธีง่ายๆก่อน คือการทำรายรับ-รายจ่าย และอาจจะนำความชอบส่วนตัวของเพื่อนมาทำเป็นธุรกิจเล็กๆเพื่อหารายได้เสริมด้วยกัน และที่สำคัญเราจะอยู่ข้างๆเพื่อนเสมอ ถ้าวิธีการนี้ไม่เวิร์ค เราช่วยกันหาทางออกใหม่ได้
ความรู้ที่ได้รับจากวิชานี้นั้นมีมากมายไม่ใช่แค่ความรู้ในเรื่องของทักษะการฟัง ส่วนตัวหนูคิดว่าทั้งหมดนี้สามารถนำไปในชีวิตจริงได้ทั้งหมด ทั้งในบทบาทของนักกิจกรรมบำบัด รวมไปถึงบทบาทของคนๆหนึ่ง ที่อยากใช้ชีวิตให้ดี รับฟังผู้อื่นได้ แก้ปัญหาได้
6423002 ชัญญานุช ขุนนุ้ย
ไม่มีความเห็น