HAPPY WORKPLACE & NUTRITION

Naive practice

Recall ความรู้ที่มีอยู่ :

Happy Workplace - ความสุข คือ การที่พอใจกับสิ่งที่ตนเองมี สิ่งที่ตนเองทำ พอใจกับร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณของตนเอง บางคนสามารถหาความสุขได้เมื่อได้อยู่กับคนที่ตนเองรัก ได้ทำสิ่งที่ชอบ ได้ทำงานที่รัก ได้รับประทานของอร่อย และในมุมมองของ Happy workplace ความสุขที่เข้าใจ คือ การที่จะมีชีวิตที่มีชีวิตที่มีความสุข และพอใจในการทำงานหรือเป็นหนึ่งในองค์กรแห่งความสุขที่คาดหวัง

Nutrition - nutrition หมายถึง วิทยาศาสตร์ที่ว่าด้วยอาหาร สารอาหารและสารอื่นๆที่ อยู่ในอาหาร การกิน การย่อย การดูดซึม การขนส่ง การใช้ ละการ ขับถ่ายในอาหารเหล่านั้น รวมทั้งบทบาทหน้าที่ความสัมพันธ์ และสมดุลต่อสารอาหารเหล่านั้นต่อสุขภาพ

Recap ความรู้ใหม่ที่ได้รับ :

Happy Workplace - Happy Workplace เป็นกระบวนการพัฒนาคนในองค์กรอย่างมีเป้าหมายและให้ยุทธศาสตร์สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร เพื่อให้องค์กรมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (การจัดการองค์กรโดยเน้น การจัดการ “คน” เป็นหลัก) โดยใช้ความสุขพื้นฐานแปดประการ (Happy 8) เป็นแนวทางในการบริหารจัดการชีวิตให้มีความสุขอย่างยั่งยืน สร้างทัศนคติบวกต่อมุมมองในการดำเนินชีวิต การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การรับผิดชอบต่อสังคม เป็นสมาชิกที่ดีต่อครอบครัว องค์กร และสังคม โดยมีความสุขที่แท้จริงบนพื้นฐาน ความสุขแปดประการที่สมดุลกับชีวิต ประกอบด้วย

Happy body สุขภาพดี

Happy heart น้ำใจงาม

Happy society สังคมดี

Happy relax ผ่อนคลาย

Happy brain หาความรู้

Happy soul ทางสงบ

Happy money ปลอดหนี้

Happy family ครอบครัวดี

Nutrition - มุมมองของอาหารไม่ได้มีเฉพาะในแง่ของวิทยาศาสตร์ แต่ยังมีในแง่ของการนำความรู้ทางด้าน nutrition ไปต่อยอดเป็นโครงการที่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นชุมชน โรงเรียน หมู่บ้านชายขอบ โดยการลงพื้นที่เพื่อสร้างเสริม ส่งเสริมเรื่องโภชนาการ หรือที่เรียกว่า IEC (Information Education and Communication) แนวทางด้านสาธารณสุขที่มุ่งเป้าไปที่การเปลี่ยนแปลงหรือเสริมสร้างพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในกลุ่มเป้าหมาย ด้วยวิธีการสื่อสารและหลักการแก่คนที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งใกล้และห่างไกล หรือมีปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม ภูมิประเทศ สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างและปรับให้เหมาะสมกับคนในพื้นที่นั้นได้โดยที่ไม่เบียดเบียน มองทุกคนอย่างเท่าเทียม เคารพความไม่รู้ มีการสื่อสารเชิงบวก เกิดความสุขจากการทำงานร่วมกันทั้งตัวผู้ให้และผู้รับ

ในทางกิจกรรมบำบัด เราอาจจะมีบทบาทในการให้ความรู้แก่ผู้รับบริการหรือผู้ดูแลในเรื่องของอาหารและโภชนาการได้ เพื่อป้องกันการเสื่อมของร่างกาย และการทรุดของโรคหรือความบกพร่องที่มี ดังนั้นจึงสามารถนำความรู้ที่ได้นี้ ไปต่อยอดและเผยแพร่ให้กับผู้รับบริการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้รับบริการได้

เช่น

-กินให้เป็นเวลา กระจายมื้ออาหารให้ครอบคลุมตลอดทั้งวัน โดยอาจแทรกมื้อย่อย ๆ ลงไประหว่างมื้อหลัก เพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้ไม่สูงหรือต่ำจนเกิดอันตราย

-ทานอาหารที่อยู่ท้อง เลือกทานคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลและซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้า ๆ ได้แก่อาหารจำพวก ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ซีเรียลโฮลเกรน ขนมปังโฮลวีท เครื่องดื่มธัญญาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืช หรือผลไม้หวานน้อย อย่าง ฝรั่ง แอปเปิล มะละกอ เป็นต้น

-หากมีอาการวิตกกังวล เครียดจนนอนไม่หลับ แนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีกรดอะมิโน ทริปโตเฟน เช่น นม ข้าวโอ๊ต ช็อกโกแลตแท่ง หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลต เพราะทริปโตเฟนมีส่วนช่วยสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน ทำให้สมองผ่อนคลาย และนอนหลับง่าย

-ทานอาหารที่ปลุกความทรงจำในยามที่คุณมีความสุข ซึ่งรวมไปถึงขนมที่คุณชอบกิน แต่ไม่มีโอกาสได้กิน หรือนานมากแล้วที่ไม่ได้กิน ค้นหาอาหารจานที่ว่าให้พบแล้วมีความสุขกับมันโดยไม่ต้องรู้สึกผิด อาจเป็นขนมขบเคี้ยวที่คุณอนุญาตให้ตัวเองกินได้เพื่อฟื้นฟูจิตใจในยามที่เครียดจากงานที่ทำ 

เป็นต้น

และในทางจิตวิทยากล่าวว่า มนุษย์จะมีความสุขมากที่สุดเมื่อได้ทานอาหารที่ชอบ ได้ร่วมโต๊ะกับคนพิเศษ หรือแม้แต่การนั่งทานอาหารในร้านบรรยากาศดี ๆ หรือที่นั่งดีๆของโรงอาหารในที่ทำงาน เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่า การกินคือการให้รางวัล และมีหลักโภชนาการที่ว่าสารอาหารบางอย่างมีผลโดยตรงต่ออารมณ์และความรู้สึก แม้ว่าอาหารจะช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ แต่การทานอย่างเดียวก็ไม่สามารถเยียวยาจิตใจได้ ดังนั้นจึงควรบริหารจัดการความคิด ความเครียด และคิดหาวิธีแก้ปัญหาโดยตรง ควบคู่ไปกับการทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ก็จะช่วยให้เราผ่อนคลายจากเรื่องเครียด ๆ และมีความสุขได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อวิเคราะห์ในเชิงลึกแล้ว จะเห็นได้ว่า Happy Workplace และ Nutrition นั้นสามารถเชื่อมโยงกันได้เพราะปลายทางของความสุขในองค์กร และ อาหาร โภชนาการ นั้นคือ “ความสุข” เหมือนกัน

happy food—>happy body—>happy workplace แค่กินให้เป็นก็เห็น “ความสุข”อยู่ไม่ไกล

 

6423002 ชัญญานุช ขุนนุ้ย นักศึกษาคณะกายภาพบำบัด สาขากิจกรรมบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

อ้างอิงข้อมูล

•https://www.nestle.co.th/th/nhw/news/3es%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5

•https://episteme.cc/feeding-a-broken-heart/

•https://happy8workplace.thaihealth.or.th/about/what-is-it

•http://www.nutritionsolutions.ca/2018/07/beware-of-free-food-in-the-workplace/

•https://mrslaongtip.wordpress.com/2013/09/11/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82-happy-workplace/