จอร์เจีย ไข่มุกแห่งเทือกเขาคอเคซัส (2) เตรียมตัวเตรียมใจไปจอร์เจีย


จอร์เจีย ไข่มุกแห่งเทือกเขาคอเคซัส (2) เตรียมตัวเตรียมใจไปจอร์เจีย

หลังจากได้ดูภาพยนตร์ " 5 Days of War" หรือ "สมรภูมิคลั่ง 120 ชั่วโมง" ดูซ้ำอยู่หลายครั้งทำให้เกิดความประทับใจอยากไปสัมผัสจิตวิญญานของคนจอร์เจียสักครั้งหนึ่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เหมือนที่ครั้งหนึ่งนานมาแล้วอยากไปยูเครนเพื่อชมโบสถ์เซนต์โซเฟีย แต่ก็จนแล้วจนรอดก็ไม่ไปสักที จนยูเครนตกอยู่ท่ามกลางไฟสงคราม กลายเป็นจุดหมายปลายฝันที่ไม่อาจไปถึง ได้แต่คิดเสียดาย จึงเตรียมจะไปจอร์เจียในเดือนมีนาคม 2120 แต่ก็ต้องยกเลิกไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด -19

เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลงความคิดจะไปชมสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ 5 Days of War ในเมืองทบีลิซี่จึงกลับมาอีกครั้ง โดยเลือกเดินทางช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งอากาศยังไม่หนาวจัด นักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก เป็นช่วงเวลาที่จะได้ท่องเที่ยวอย่างสบายใจในสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังสมบูรณ์แบบ ผู้คนไม่มาก ไม่ต้องไปแย่งกันกินแย่งกันใช้ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในจอร์เจียมีพื้นที่จำกัดไม่กว้างขวางมากนัก และเทรนด์ท่องเที่ยวจอร์เจียกำลังมาแรง เห็นได้จากบนโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยรีวิวเที่ยวจอร์เจีย

ฤดูกาลในจอร์เจีย เหมือนประเทศในยุโรป คือ มี 4 ฤดู ได้แก่
ฤดูหนาว  เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ อากาศหนาวจัด หิมะตกหนัก เหมาะกับการไปสัมผัสหิมะและเล่นสกีตามสกีรีสอร์ท แต่การเที่ยวชมโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเขาอาจจะเดินทางไม่สะดวกนัก

ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่คนไทยชอบมากที่สุด เพราะอากาศเย็นสบาย ต้นไม้ดอกไม้เขียวจี ตามภูเขาสูงยังมีหิมะขาวโพลนปกคลุม แต่โอกาสมีฝนตกค่อนข้างสูง

ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน - สิงหาคม อากาศร้อนอบอ้าว แต่นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกจะชื่นชอบแสงแดดซึ่งจะทำให้ผิวกลายเป็นสีแทน เป็นช่วง High Season ของจอร์เจีย เป็นช่วงที่ถ่ายภาพได้สวยที่สุด ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวขจี

ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน - พฤศจิกายน เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและส้ม ไม่ค่อยมีสีแดงสดใสเหมือนใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น เกาหลี 
เลือกช่วงเวลาที่ชื่นชอบตามเป้าหมายของตนเองได้เลยค่ะ

คนไทยสามารถเดินทางเข้าจอร์เจียได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และพักอาศัยอยู่ได้เป็นเวลา 365 วัน ข้อกำหนดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในการเข้าประเทศจอร์เจียไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่ได้รับวัคซีนครบโดส โดยดูจากวัคซีนพาสปอตเท่านั้นก็สามารถเข้าประเทศได้เลยไม่ต้องตรวจหาเชื้อ ไม่ต้องกักตัว 

สุวรรณภูมิ

อิสตันบุล

ทบีลิซี่

การเดินทางจากประเทศไทยไปยังสนามบินทบีลิซี่ของจอร์เจียยังไม่มีบินตรง ต้องต่อเครื่อง  ได้แก่  Air Astana, Emirates, Gulf Air, Qatar Airways ในการเดินทางไปจอร์เจียครั้งนี้ใช้บริการของ Turkish Airlines ใช้เวลาบินจากสุวรรณภูมิ 10 ชั่วโมง มาต่อเครื่องที่สนามบินอิสตันบุลไปลงทบีลิซี่ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ก็มีเครื่องบินเช่าเหมาลำของ Air Asia X บินตรงจากสุวรรณภูมิถึงทบีลิซี

อาหารจอร์เจีย

หากนักท่องเที่ยวมีความกังวลเกี่ยวกับอาหารของจอร์เจียว่าจะรับประทานไม่ได้นั้น ขอให้สบายใจได้เลย อาหารจอร์เจียรสชาติเข้มข้น อร่อยถูกปาก โดยเฉพาะ 7 เมนูต่อไปนี้ต้องลิ้มลองให้ได้

Khinkall
Khinkall หรือ เกี๊ยวนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายเสี่ยวหลงเป่าของไต้หวันแต่ลูกใหญ่กว่า ตัวไส้ทำจากเนื้อสัตว์หรือเห็ด มีน้ำซุปรสกลมกล่อมอยู่ข้างใน การรับประทานจะใช้มือจับบริเวณจีบด้านบน แล้วนำเข้าปากแทนการใช้ตะเกียบ khinkallเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวจอร์เจียบนภูเขาสูงที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ

Khachapuri
ลักษณะเป็นขนมปังแป้งบางกรอบมีรูปร่างหลากหลายแตกต่าง กันไป ตรงกลางมีไข่ เนย ชีส เสิร์ฟร้อนๆ เมื่อจะรับประทานต้องคลุกไข่ เนยและชีสเข้าด้วยกัน แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ

Churchkhela
ภายนอกมีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ มีสีสันต่างๆ ห้อยเป็นพวงไว้แบบเดียวกับกุนเชียง เป็นขนมของชาวจอร์เจียที่นำวอลนัทหรือถั่วต่างๆร้อยกับด้ายให้เป็นเส้นยาว เสร็จแล้วนำไปเคลือบในน้ำเชื่อมองุ่นที่เคี่ยวกับแป้งและน้ำตาลจนได้ที่ จากนั้นนำไปตากให้แห้ง แล้วนำมาเคลือบทับอีก ชาวจอร์เจียนิยมทำในฤดูเก็บเกี่ยวองุ่น

Lobiani
เป็นขนมปังไส้ถั่ว (lobio หมายถึงถั่วในภาษาจอร์เจีย) อาหารจานนี้เป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป แต่ละที่จะมีสูตรพิเศษในการทำไส้ไม่เหมือนกัน เช่น Rachuli Lobianiในภูมิภาค Racha จะนำถั่วไปผสมกับแฮมชิ้นเล็กๆ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย สอดไส้ด้วยแฮมแผ่นใหญ่อีกแผ่นหนึ่ง นิยมเสิร์ฟร้อนๆ

 Kharcho หรือ Harcho ซุปต้นตำรับของชาวจอร์เจีย ทำจากเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มจนเปื่อย จึงใส่ข้าว วอลนัทและเครื่องเทศต่างๆ เป็นเมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจาก Samegrelo จากภูมิภาคชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันตกของจอร์เจีย มีการพัฒนาส่วนผสมต่างๆเรื่อยมา จนกลายเป็นเมนูประจำชาติที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ

Georian Wine
จอร์เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กระบวนการผลิตไวน์ที่สืบทอดมากว่า 8,000 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ Unesscoให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อมาเที่ยวจอร์เจียจึงพลาดไม่ได้ในการลิ้มรสละมุนของ Georgian Wine

Chacha ถือเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของชาวจอร์เจีย Chacha เป็นบรั่นดีแท้ๆทำมาจากเปลือกหรือกากองุ่นที่เหลือจากการบ่มไวน์ มีแอลกอฮอล์สูงมากถึง 40% -65% เหมาะกับสายแข็งเท่านั้น

การท่องเที่ยวในจอร์เจียซึ่งเป็นดินแดนที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูงมีทิวทัศน์ที่สวยงามตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี และยังเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียแต่มีสถาปัตยกรรมเหมือนทางยุโรป จอร์เจียจึงน่าสนใจสามารถเที่ยวได้ทั้งธรรมชาติและตามรอยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวในจอร์เจียที่จะแนะนำในบันทึกต่อๆไป ได้แก่

ขอขอบคุณ

  • บริษัททีมทราเวล เซอร์วิชให้บริการกรุ๊ปทัวร์อย่างดีตลอดการเดินทาง 
  • ภาพสวยๆบางภาพจากอินเทอร์เน็ต
  • น้ำใจไมตรีจากเพื่อนร่วมเดินทางทุกท่าน

 

หมายเลขบันทึก: 710189เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2022 18:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2022 19:55 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท