ส่วนใหญ่เราก็จะเห็นแต่ “คน” ที่เป็นผู้สร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย แต่หากคิดกันลึกๆแล้วในการสร้างบ้านนั้น ก็สามารถสร้างคนได้อีกเหมือนกัน หากแต่เรา สามารถเอาความรู้เข้าไปใส่ในกระบวนการสร้างบ้าน ให้คนได้เกิดการเรียนรู้
จากที่ผมได้เคยเขียนบอกไว้หลายๆครั้งว่า ผมได้พาพนักงานของบริษัทเอส ซี ไอ แพลนท์ เวอร์วิสเซส จำกัด (บริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย) และจากบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด ไปจัดเป็นค่ายการเรียนรู้ที่สวนป่าของท่านครูบาสุทธินันท์ ซึ่งในการออกค่ายการเรียนรู้ครั้งนี้เราได้ใช้ “บ้าน” เป็นเครื่องมือของการเรียนรู้ เออ แล้วบ้านมาเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ได้อย่างไร
........เริ่มจากพนักงานไม่มีความรู้ในเรื่องการสร้างบ้าน ก็ตั้งโจทย์ให้พนักงานหาวิธีการสร้างบ้าน ทุกขั้นตอน ให้เป็นหลังให้ได้ โดยเราวางแผนว่าจะจัดทั้งหมด 6 รุ่น และแต่ละรุ่นจะต้องส่งงานต่อ ให้กับรุ่นต่อๆไป เพื่อฝึกเรื่องของการส่งมอบงาน ไปในตัว เรียกได้ว่าทุกอย่างทุกขั้นตอน เราจะใส่เรื่องของกระบวนการเรียนรู้และการจัดการความรู้เข้าไป โดยที่คุณอำนวย จะต้องจัดเวทีเพื่อให้เกิดการตกผลึก หรือ ให้พนักงานที่เป็นผู้เรียนหรือคุณกิจ ได้ตกผลึกความรู้จากการทำงาน เรียกได้ว่าทุกระบวนท่า เราจะถือเป้นเรื่องของการเรียนรู้ทั้งสิ้น แม้แต่ขุดดิน ถางหญ้า ปลูกป่า ถือเป็นเครื่องมือที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ทั้งสิ้น
...ยิ่งเป็นการเรียนรู้จากการสร้างบ้าน และพนักงานรู้ว่า “สิ่งที่เขากำลังทำนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในอนาคต” ทุกคนมีพลังใจ ทุ่มเทในการเรียนรู้เพื่อจะให้เห็นซึ่งผลงานที่เกิดจากฝีมือของพวกเขา ถึงไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆเลย ก็พยายามศึกษา เสาะแสวงหาความรู้เรื่องนั้นๆมา แล้วลงมือทำให้ได้..และเมื่อผ่านไปแล้ว 5 รุ่น บ้านหกเหลี่ยมก็เป็นรูปเป็นร่าง และได้รับความกรุณาจากท่านครูบาได้จัดหาช่างมาช่วยสานต่อ ตกแต่งบ้านจนสวยงาม โดดเด่นอยู่กลางสวนป่า ซึ่งเราจะมอบบ้านแห่งการเรียนรู้หลังนี้ให้กับ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อเป็นสำนักงานของนักศึกษาปริญญาโท โครงการบูรณาการศาสตร์ ต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้ทราบว่าการตกแต่งบ้านเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจึงเตรียมที่จะจัด โครงการในรุ่นที่ 6 ในช่วงวันที่ 30 มกราคม ถึง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดย 3 วันแรกจะเป็นการเรียนรุ้จากการเตรียมการส่งมอบบ้าน และวันสุดท้ายจะเป็นการทำพิธีส่งมอบบ้าน
จากโครงการนี้ ผมในฐานะคุณอำนวยประจำโครงการ แอบภูมิใจลึกๆครับ ที่ได้ปรับเปลี่ยน หรือจัดการทุกกระบวนท่าของการทำงาน การกินการอยู่ ให้เป็นเรื่องของการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาพนักงานทั้งนี้ต้องขอขอบคุณท่านครูบาสุทธินันท์ เป็นอย่างยิ่งครับที่ได้วางอุบายอย่างแนบเนียนจนก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างแข็งขัน และเต็มใจของผู้เรียน เรียกได้ว่าถูกใจเหล่าผู้เรียนขาโจ๋ ว่างั้นเถอะครับ
จากการจัดโครงการในครั้งนี้ ทำให้เกิดผลลัพธ์หลายๆด้านครับเช่น
· ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาพนักงาน โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ชนิดที่เรียกว่า “ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง”
· ผลจากการจัดโครงการพัฒนาพนักงานยังได้เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย
· เป็นการบริหารจัดการงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ และเกิดคุณค่ามากยิ่งขึ้น อาจถามว่ามีประสิทธิภาพตรงไหน บอกได้เลยครับว่า ตรงที่ย้ายเงินจากค่าอาหารและค่าที่พักที่ต้องจ่ายให้กับโรงแรม มาเป็นค่าอุปกรณ์การสร้างบ้าน แทนครับ มีค่าทางสังคมมากกว่ากันเยอะเลย
· พนักงานที่ร่วมโครงการเกิดความภูมิใจ ที่ตนเองมีส่วนร่วมในการสร้างคุณค่าให้สังคม และส่วนใหญ่จะจำทุกๆเหตุการณ์ ซึ่งเท่ากับว่าจดจำบทเรียนโดยไม่ต้องท่อง และทบทวน จึงก่อให้เกิดพฤติกรรมเชิงบวก และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ ขึ้นโดยอัตโนมัติ
จากที่รอคอยมานานแล้วก็ถึงวันที่พวกเราจะได้ชื่นชมกับผลงาน ที่เราได้เรียนรู้จนก่อให้เกิดเป็นผลสำเร็จขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง เป็น “บ้านหลังงามๆ” บ้านหลังนี้จึงเป็นบ้านแห่งการเรียนรู้ เป็นบ้านที่สร้างให้ “คน” เป็น “คนที่มีคุณภาพ” เป็นคนที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกเรื่อง วันที่ 30 มค. ถึง วันที่ 2 ก.พ. เราจะได้เรียนรู้อีกครั้ง หากท่านใดสนใจขอเชิญร่วมเรียนรู้ด้วยกันนะครับ ที่สวนป่าครูบาสุทธินันท์ ครับ...