ถ้าเลือกเกิดได้... (If being born is a choice, ... )


เพลงฮิตติดอันดับตอนสมัยผมเป็นเด็กเพลงหนึ่งคือ “ปรารถนา" ขับร้องโดย ทูล ทองใจ เนื้อเพลงเร่ิมต้นว่า “หากแม้นเลือกเกิดเองได้ คนทุกคนเลือกเกิดอย่างไร …” 

เนื้อเพลงเะฉลยว่า “อยากเกิดมาอยู่ใกล้กับผู้หญิงที่เรารัก” แล้วคุณละจะเลือกเกิดเป็นอะไรครับ 

จริง ๆ แล้วเราไม่มีสิทธิ์เลือกเกิดหรอกครับ แต่เรามีสิทธิ์ที่เลือกที่จะเป็นอย่างที่เราต้องการได้ อยู่ที่ฐานคติ (mindset) และการคิดของเราเอง อย่างที่คุณคงได้ยินคำกล่าวที่ว่า “​​You are what you think หรือ คุณเป็นอย่างที่คุณคิด” 

หนังสือขายดีและมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของหลายคนบนโลกนี้คือ “กฎแห่งการดึงดูด (​Law of Attraction) ซึ่งมีหลายต้นฉบับครับ และ “ความลับ (The Secret)" ซึ่งก็มีหลายต้นฉบับเช่นกัน 

หนังสือทั้งสองเล่มและเล่มอื่น ๆ ในตระกูลความคิดเหล่านี้เป็นหลักคิดและคำแนะนำว่า “เราสามารถเลือกที่จะเป็นอย่างที่เราอยากเป็นได้อย่างไร” 

ผมเองได้อ่านและทำตามคำแนะนำเหล่านั้นมานานพอสมควร และก็พบว่าชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ทำให้เราไม่เป็นอย่างที่หนังสือเหล่านั้นแนะนำ คือ “ความศรัทธา ความเชื่อมั่น และความใจร้อน” 

ความศรัทธา เป็นเชื่อถือและทำตามโดยไม่มีข้อสงสัย แต่บางครั้งเราก็อดสงสัยว่า “แค่เราคิด แล้วเราจะได้สิ่งที่เราคิดได้อย่างไรถ้าเราไม่ทำ” ความสงสัยลังเลเหล่านี้ทำให้ความศรัทธาอ่อนพลังลง หรือหมดไป  ความเชื่อมั่นในหลักคิดและวิธีการเหล่านั้นก็จะหดหายไปด้วย และยิ่งไปกว่านั้น “ความใจร้อนอยากเห็นผลเร็ว ๆ” ก็จะนำไปสู่การทำลายความศรัทธาและความเชื่อมั่นให้หมดไปในที่สุด พร้อมกับสรุปว่า “นั่นไงไม่เป็นจะเป็นไปอย่างที่เราคิดเลย” 

แต่แนวคิดและวิธีการในนำเสนอไว้ในหนังสือตระกูลความคิดนี้เน้นย้ำ "สิ่งที่เราคิดและปรารถนานั้นจะเป็นจริงเสมอ ถ้าเรามีศรัทธา มีความเชื่อมั่น และปฏิบัติตนตามความเชื่อเหล่านั้นโดยไม่สงสัยให้เป็นปกตินิสัย แล้วสิ่งที่คุณอยากเป็นอยากได้ก็จะเป็นไปสักวันครับ 

“จักรวาลจะตอบสนองสิ่งที่คุณเรียกร้องเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว” ตำราบอกเช่นนั้นครับ 

อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีฐานคติและปฏิบัติอย่างไรนั้น ผลที่เกิดขึ้นแน่นอนระหว่างเส้นทางสู่เป้าหมายคือ “คุณจะดึงดูดสิ่งต่าง ๆ ในตระกูลความคิดและการปฏิบัติของคุณมากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ” คล้ายกับสุภาษิตไทยที่ว่า “พบคนพาล พาลกาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” อะไรทำนองนี้ครับ 

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับผม เช่น หลังจากที่ผมต้องการพื้นสุขภาพของตัวเอง และเชื่อว่าทำได้นั้นผมก็ได้พบบุคคลที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ได้อ่านหนังสือธรรมชาติช่วยซีวิตของ Dr. Tom Wu  ลูกศิษย์เอาวิดิโอพลังลมปราณเพื่อสุขภาพมาให้ดู และอื่น ๆ ตามมากอีกมาก และปัจจุบันนี้ผมมีสุขภาพดีกว่าหลายสิบปีที่แล้วอย่างยิ่งครับ จากที่ไม่เคยคิดว่าจะอายุยืนได้เกษียณอายุราชการเหมือนคนอื่น ตอนนี้ก็กำลังจะได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 6 รอบ หรือ 72 ปีในอีกไม่กิ่วัน ดังกล่าวมาแล้ว 

และอย่างที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการคือ “ความรำ่รวย” ผมก็เป็นหนึ่งคนในจำนวนนั้น แต่ความคิดที่อยากรวยดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ถอดใจ แม้จะเป๋ะไปบ้างเป็นบางครั้ง (เสียศูนย์ความศรัทธา) ครับอย่างไรก็ดี ระหว่างทางผมก็ได้อ่านหนังสือดี ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายเล่ม 

เช่น ​Think Rich to Get Rich: Secrets of the Millionaire Mind ของ T. Harv Eker ที่นำแนะในการคิดที่จะเป็นเศรษฐีไว้หลายเรื่อง แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือคำแนะนำที่ว่า “ถาอยากเป็นเศรษฐี เราต้องไม่อิจฉาคนรวย หรือคนที่ถูกหวย เพราะถ้าเราอิจฉาพวกเขา ก็เท่ากับเรากำลังอิจฉาะตัวเรา ซึ่งอยากเป็นเศรษฐี ความอิจฉาก็จะเป็นอุปสรรคสกัดเราไม่ให้สมประสงค์” และหลังจากเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องนี้แล้ว ชีวิตก็ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อครับ 

แล้วผมก็ประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นด้วย เช่น เรื่องสุขภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมจะอฺจฉาคนที่มีสุขภาพดีว่าทำไมเขาจึงโชคดีเช่นนั้น แล้วเราละมีบาปกรรมอะไร แต่เมื่อได้คิดว่า "ถ้าเราอยากมีสุขภาพดี ก็ไม่ควรไปอิจฉาคนที่เขามีสุขภาพดีนะครับ 

อ้อและอีกเรื่องหนึ่งที่อ่านพบก็คือ “กระเป๋าตังค์”  (หนังสือชื่อ ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป็าสตางค์ใบเดียว โดย คะเมดะ      จุนอิชิโร (Junichiro Kameda) แปลโดยทินภาส พาหะนิชย์)  ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้แนะนำว่า กระเป๋าตังค์ก็เหมือนโรงแรม ถ้าโรงแรมดีคนก็อยากไปพัก ประเป็าดังค์ที่ดูดี ไม่อึดอัด เงินก็อยากมาอยู่กับเรา ไม่ควรใช้กระเป๋าตังค์ที่ผับครึ่ง จะทำให้เงินรู้สึกไม่สบายและอยากหนีไปอยู่ที่อื่น และควรมีเงินติดในกระเป็าตังค์พอสมควร เพราะเงินก็อยากมีพวก ควรแยกเงินในกระเป๋าเป็นหมดหมู่ตามราคาเงิน โดยเอาราคาสูงไว้ในสุด และราคาน้อยไว้นอกสุดเพื่อใช้จ่ายต่อไป เป็นต้น 

สรุปคือ “ไม่ว่าผลสุดท้ายของความคิดจะทำให้เราเป็นอย่างที่เราคิดหรือไม่ แต่ประโยชน์ระหว่างเส้นทางสู่เป้าหมาย คุณได้ประโยชน์แน่นอน” เพียงแต่คติประจำใจว่า "พบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล" ครับ 

โชคดีนะครับ 

สมาน อ้ศวภูมิ

28 มิถุนายน 2565

หมายเลขบันทึก: 703263เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2022 10:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2023 10:01 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท