KM 5.0 สำหรับสังคมยุค 5.0 ยุค 5.0 คืออะไร คงจะแล้วแต่จะตีความ ผมขอตีความว่า หมายถึงสังคมยุค VUCA หรือยุค BANI (https://www.coachforgoal.com/blog/topic/จาก-vuca-world-สู่-bani-world) ที่คนทุกคนต้องเป็น “นักจัดการความรู้ 5.0”
ผมตีความว่า การจัดการความรู้ เป็นเครื่องมือสำคัญของการสร้างความรู้ และสร้างการเรียนรู้จากการปฏิบัติ เป็นการให้ความสำคัญต่อ “ความรู้ฝังลึก” (tacit knowledge) ในคน และในปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน
“นักจัดการความรู้ 5.0” สามารถพัฒนาประสบการณ์สู่การเรียนรู้ได้หมด และได้อย่างทรงพลัง คือไม่ใช่แค่เรียนรู้เชิงวิธีการหรือเทคนิคเท่านั้น ยังเรียนรู้สู่การพัฒนาทฤษฎีได้ด้วยตนเอง
มนุษย์ได้สร้างทฤษฎี หรือหลักการว่าด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์หรือการปฏิบัติ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือสำคัญ ๒ เครื่องมือ คือ Kolb’s Experiential Learning Cycle กับ Double-Loop Learning จะเป็นกลไกสู่ KM 5.0 ซึ่งหมายถึง การจัดการความรู้สู่การสร้างทฤษฎีใหม่ และสู่การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่
ตามไดอะแกรมข้างบน Kolb’s Experiential Learning Cycle เริ่มจาก “ประสบการณ์ตรง” (concrete experience) ที่นำสู่ การ “สังเกตผลพร้อมกับสะท้อนคิด” (reflective observation) ที่เป็นทักษะสำคัญต่อการเรียนรู้จากการปฏิบัติ คือต้องช่างสังเกต และช่างคิดไปพร้อมๆ กัน ในลักษณะทำไป สังเกตไป และสะท้อนคิดไป นำสู่ขั้นตอนที่ ๓ คือ สร้างหลักการหรือทฤษฎี (conceptualization) จากการปฏิบัติ ต้องไม่แต่สะท้อนคิดสู่การเรียนรู้วิธีการหรือเทคนิคเท่านั้น ต้องกล้าสะท้อนคิดสู่ทฤษฎีใหม่หรือหลักการใหม่ หรือสู่การปรับปรุงทฤษฎีที่มีอยู่เดิม อย่างน้อยก็ในบริบทของตัวเราเอง โดยที่ตนเองเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งต่อทฤษฎีที่ตนเองคิดขึ้น นำสู่ขั้นตอนที่ ๔ คือการนำทฤษฎีใหม่นั้นไปลองใช้ (active experimentation) เพื่อตรวจสอบในสถานการร์เดิม ว่าให้ผลดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ หรือนำไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ เพื่อตรวจสอบว่าใช้ได้ผลหรือไม่
คนที่มีฉันทะ และวิริยะ ต่อการหมุน Kolb’s Experiential Learning Cyclc คือนักจัดการความรู้ตัวจริง หรือ “นักจัดการความรู้ 5.0”
Double-Loop Learning เป็นอีกอวตารหนึ่งของ “การจัดการความรู้” เพื่อสร้างและใช้ความรู้จากการปฏิบัติ ที่ใช้ผลจากการปฏิบัติเป็น “ข้อมูลป้อนกลับ” (feedback) เพื่อการปรับปรุงไม่เฉพาะปรับปรุงเทคนิคหรือวิธีทำงาน (single-loop learnig) เท่านั้น ยังใช้เป็นข้อมูลป้อนกลับสู่สมมติฐาน (assumption) หรือทฤษฎี (theory) ที่ใช้ เพื่อการเรียนรู้เชิงทฤษฎี (double-loop learning) หรือเพื่อเปลี่ยนความเชื่อ (mindset change) ที่เป็น transformative learning ได้ด้วย
Double-Loop Learning จึงเป็นเครื่องมือของ “การจัดการความรู้ 5.0” คือไม่เพียงจัดการความรู้เชิงปฏิบัติเท่านั้น ยังจัดการความรู้เชิงทฤษฎีหรือเชิงหลักการด้วย เช่นเดียวกันกับ Kolb’s Experiential Learning Cycle
การจัดการความรู้ 5.0 เป็นเครื่องมือให้เกิดพลังการคิดไปข้างหน้า (feed-forward) และสู่พลังการเปลี่ยนแปลงระดับ transformation
วิจารณ์ พานิช
๒๓ พ.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น