๑๔๕. แค่นี้..ก็ดีแล้ว


ผมจึงจำเป็นต้องรักษาลมหายใจเอาไว้ เพื่อลิ้มรสความสุขกายสุขใจ เพื่อแสวงหาความสุขให้ตัวเองบ้าง กับเงินบำนาญรายเดือนก้อนโตที่จะไม่ถูกหัก หรือนำไปใช้หนี้แต่อย่างใด

          ผมพูดเหมือนปลอบใจตัวเอง แต่แท้ที่จริงต้องการบันทึกและบอกเล่าเรื่องราวเป็นตำนานไว้ให้ลูกๆรู้ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท

          การเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีฐาน”ต้นทุน”ที่ค่อนข้างต่ำ เงินก้อนแรกที่ได้รับและเก็บออมมาจากการรับราชการครู จากนั้นก็ได้เป็น “มนุษย์เงินเดือน”อย่างสมบูรณ์เรื่อยมา

          ไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลย เพราะภาพในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ติดตาตรึงใจเหลือเกินกับความฝืดเคือง ไม่ถึงกับยากจนข้นแค้น แต่ในครอบครัวไม่เคยมีสมบัติอะไรเลย

          ขอบคุณพ่อแม่ที่ส่งให้เรียน และเป็นตัวอย่างในการสู้ชีวิต ขอบคุณที่สอนให้รู้จักประหยัดอดออม ต้องยอมขื่นขมเพื่อให้ผ่านวันนั้นมาได้อย่างงดงาม

          บอกตัวเองเสมอว่าจะไม่กลับไปเป็นแบบวันนั้นอีกแล้ว วันที่เห็นพ่อกับแม่มีแต่หนี้สิน ในวันที่พ่อหรือปู่ของลูกเกษียณอายุราชการ..เรายังไม่มีบ้านจะอยู่กันเลย

          แต่ในวันนี้...ผมมีบ้านให้ลูกอยู่อย่างมั่นคง มีที่ดินให้ตนเองและลูกๆได้ภูมิใจ ผมพูดอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกตระหนักและไม่ต้องคาดหวัง ว่าการที่พ่อกับแม่บริหาร “การเงิน”จากรายรับทางเดียวที่ได้จากงาน”ครู” คงไม่ทำให้ครอบครัวของเราร่ำรวย

          แต่เราจะไม่ยากจนแน่นอน และที่สำคัญที่สุดเราจะต้องไม่เป็นหนี้ อันนี้คือความสำเร็จที่พ่อต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ก่อนจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนปี ๒๕๖๖

          ย้อนกลับไปเกือบ ๑๐ ปี ที่ผมมีหนี้นอกระบบ ที่หยิบยืมจากญาติผู้ใหญ่แบบไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เพื่อนำมาใช้ซื้อรถยนต์ ที่ดิน และเพื่อการศึกษาของลูกๆ 

          หนี้สะสมที่เคยไต่ระดับสูงสุดถึง ๙๖๐,๐๐๐ บาท ผมใช้คืนอย่างมีระเบียบวินัย ทุกเดือนต้องใช้หนี้เดือนละไม่ต่ำกว่า ๓๐,๐๐๐ บาท โดยไม่เคยต่อรองใดๆทั้งสิ้น

          ในวันนี้ วันที่ผมอายุย่าง ๖๐ ปี วันที่ผมไม่ต้องจ่ายค่างวดบ้าน ที่ดิน และรถยนต์ วันที่ผมสามารถช่วยดาวน์รถยนต์ให้ลูกคนละคัน และยังช่วยส่งค่างวดรถให้ลูกได้อีกด้วย

          ก่อนหน้านี้...ยังได้ช่วยโรงเรียน ใช้เงินส่วนตัวจัดจ้างรปภ.ยาวนานนับ ๑๐ ปี หมดเงินไปกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาท และปัจจุบันความที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ยังต้องมีเรื่องเงินให้ต้องเสียสละอีกมากมายเหลือเกิน

          หากผมสุรุ่ยสุร่าย ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปกับสังคม ที่โอ้อวดความมั่งคั่งร่ำรวย ผมคงไม่มีวันนี้...วันที่มี”โคกหนองนา สวนป่าในฝัน” ที่บริหารจัดการแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามกำลังแรงกายและเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด

          วันนี้..วันที่ผมจะบอกลูกว่า ผมเหลือหนี้ที่ต้องชดใช้อีกเพียง ๔๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น สิ้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ ผมจะปลอดหนี้ ไม่มีเรื่องเงินให้ต้องกังวล หมดนี้ก่อนที่ผมจะเกษียณอายุราชการ ๑๕ เดือน รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ที่ทำสำเร็จ แม้ไม่มีเงินเก็บมากมาย แต่แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว

          ผมจึงจำเป็นต้องรักษาลมหายใจเอาไว้ เพื่อลิ้มรสความสุขกายสุขใจ เพื่อแสวงหาความสุขให้ตัวเองบ้าง กับเงินบำนาญรายเดือนก้อนโตที่จะไม่ถูกหัก หรือนำไปใช้หนี้แต่อย่างใด

          เมื่อถึงวันนั้น...ทางราชการจะมีรางวัลให้ผมเป็นเครื่องราชย์ชั้นสายสะพาย(ปม.) หากผมมีบุญวาสานาพอ ผมจะถือว่าเป็นรางวัลด้านวินัยการเงินการคลังของผม..มากกว่าความดีด้านอื่นๆที่พอจะมีอยู่บ้าง

          อย่างไรก็ตาม..ไม่มีอะไรแน่นอน  ผมจึงมิอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตให้สวยหรู แต่คงยึดมั่น “ความพอเพียง” ในแบบที่พึ่งพาตนเองได้ และสามารถแบ่งปันความสุขให้ทุกคนในครอบครัว ตลอดจนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทเหมือนเดิม

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๘  พฤษภาคม  ๒๕๖๕

       

   

หมายเลขบันทึก: 702839เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2022 21:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2022 21:47 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท