ผมมีเพื่อนสนิทไม่มาก ก็ไม่ใช่คนช่างเลือกแต่ประการใด อยากใช้ชีวิตเรียบง่ายและอยู่คนเดียวได้ จะไม่สร้างความยุ่งยากเดือดร้อนแก่ตนเองและคนอื่น ไม่ชอบฝืนความรู้สึก พูดและทำแบบตรงไปตรงมา กล้าที่จะตัดสินใจ
หมอดูเคยทำนายทายทักไว้ตั้งแต่เกิด ว่าชีวิตการงานดี มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชู ถูกชะตากับคนที่มีอายุมากกว่า จะได้รับความเมตตาจากผู้อาวุโส ประสบการณ์ที่ผ่านมาจนถึงอายุ ๖๐ ปี ในปีนี้ เป็นความจริงแบบเนื้อๆ ที่ไม่มีน้ำเจือปนเลยแม้แต่น้อย
เพื่อนรุ่นพี่ ที่รู้จักและรักใคร่สนิทสนม มีอยู่ ๒ คน ที่ช่วยยืนยันคำทำนายนี้เป็นอย่างดี ผมรักและนับถือเหมือนญาติคนหนึ่ง วันนี้ครบรอบ ๒๐ ปีที่เราได้รู้จักกัน
พี่สุนันต์ – พี่กัญญา พืชหงษ์ทอง นั่งอยู่ในหัวใจผมมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ ตอนนั้นพี่ทั้งสองทำงานการเงินและบัญชี อยู่ขสมก.เขตเดินรถที่ ๕ กรุงเทพฯ ผมเริ่มเป็น ผอ.รร.บ้านหนองจั่น อ.เลาขวัญ โรงเรียนอยู่ห่างจากบ้าน ๓๐ กม.
วันแรกที่บ้านหนองจั่น เพื่อนครูเล่าให้ฟังว่าพี่สองคนนี้ชอบทำบุญกับโรงเรียน จะมาปีละ ๓ ครั้งเป็นอย่างน้อย คือมาทอดผ้าป่า มาเลี้ยงอาหารในวันเกิด และวันเด็ก บางครั้งเดินทางมาเที่ยวเฉยๆก็มี ผมพบหลักฐานผลงานของพี่สองคนนี้มากมาย ทั้งการสร้างอาคารห้องสมุดขนาดใหญ่และภาพถ่ายอีกนับไม่ถ้วน
ผมปฎิบัติงานได้ไม่นาน พี่สุนันต์-กัญญาและคณะ ขสมก. เดินทางมาเลี้ยงอาหารนักเรียนและพักค้างคืนที่โรงเรียน ผมกับคณะครูให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ผมอยู่คุยกับพี่จนถึงเที่ยงคืน ตอนเช้ากลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อเตรียมอาหารมื้อเช้า
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พี่สองคนก็เดินทางมาเยี่ยมเยือนโรงเรียนบ้านหนองจั่นอีกหลายครั้ง ตลอดระยะเวลา ๕ ปีที่ผมอยู่ที่นั่น มีอยู่วันหนึ่งพี่ก็ระบายความในใจให้ผมทราบว่า ประทับใจผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ ไม่คิดว่าผู้บริหารตัวเล็กๆ จะอดทนอยู่เป็นเพื่อนคนดื่มเหล้าได้จนถึงเที่ยงคืน ที่ผ่านมาไม่เคยเจอคนแบบนี้ มีแต่ทิ้งลูกน้องให้รับแขกไปตามลำพัง
ผมจึงบอกว่า...เคยเป็นครูในท้องถิ่นกันดารมาก่อน เรื่องแค่นี้ไม่รู้สึกลำบากใจ และก็เคยเป็นศึกษานิเทศก์ด้วย เรื่องรับรองแขกผู้ใหญ่แบบนี้ ถนัดมาก
ปี ๒๕๔๙ ผมย้ายโรงเรียนมาอยู่บ้านหนองผือ พี่สุนันต์-กัญญา ยังได้ตามมาสนับสนุนช่วยเหลือกิจการของโรงเรียนจนถึงปัจจุบัน เราห่างเหินกันไปบ้าง หลังปี ๒๕๖๒ เพราะพี่ทั้งสองเกษียณอายุราชการ และมีสถานการณ์โควิด สอดแทรกเข้ามา
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เราจะไปมาหาสู่กันเสมอ จนหลายคนคิดว่าเป็นญาติพี่น้อง ทั้งงานบวช งานแต่งงานและงานสีดำ จะต้องเห็นหน้ากันตลอด จนเป็นที่คุ้นเคยกับครอบครัวของพี่ ที่มีบ้านอยู่ริมน้ำ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
วันนี้ ผมเดินทางไปงานทำบุญเลี้ยงพระเพล วันครบรอบ ๓ ปี ในการจากไปของคุณแม่พี่กัญญา งานทำบุญจัดที่วัดไทรยืด ซึ่งเป็นวัดที่ผมเคยมาอยู่เป็นประจำ ก่อนที่พี่จะเกษียณอายุราชการ แล้วไปสร้างหลักปักฐานที่วังน้ำเขียว
หลังจากเสร็จสิ้นการทำบุญ ผมมีโอกาสไปเยี่ยมบ้านพี่ที่อยู่ริมน้ำ อยากสัมผัสบรรยากาศริมคลอง ย้อนคืนวันที่เคยมาพักผ่อนหย่อนใจ ปรากฎว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด ถนนตัดใหม่เข้าถึงตัวบ้าน สิ่งแวดล้อมของชุมชนดูอลังการ บ้านไม้ได้รับการปรับปรุง ที่เหมือนเดิมคือคลองที่มักจะมีน้ำน้อยในหน้าแล้งแบบนี้
ผมบอกพี่ว่า ๒๐ ปีแล้วนะ ที่รู้จักและรักพี่ แต่ที่ไม่ได้บอกก็คือ พี่เป็นตัวอย่างที่ดีในการวางแผนชีวิต ก่อนเกษียณ ๑๐ ปี พี่ลงทุนซื้อที่ดิน ๒๐ ไร่ ปลูกทุเรียน ทั้งที่พี่เองก็ไม่ได้มีความรู้ด้านการเกษตรเลย
ตอนนี้ทุเรียนของพี่ดกมาก ลูกใหญ่ที่สุดของ อ.วังน้ำเขียว พี่ขยันอดทนและสู้ชีวิตมากมาย ทำรีสอร์ทเล็กๆอยู่กลางสวน ค่อยๆคิดค่อยๆสร้าง จนมีฐานะครอบครัวมั่นคงและยั่งยืน อันนี้ผมคิดว่าน่าจะเกิดจากอานิสงส์ที่พี่ชอบทำบุญกับโรงเรียน พี่ถึงเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด
ผมไม่แปลกใจเลย ทำไมลูกค้าถึงชอบมาพักค้างที่รีสอร์ทของพี่ มิใช่เพราะอากาศที่ดีมากอย่างเดียว มิใช่เพราะธรรมชาติป่าเขาและราคาที่ไม่สูงเกิน แต่เป็นเพราะพี่ทั้งสองใจดี มีเมตตา รับรองลูกค้าเหมือนญาติมิตร ใครมาแล้วก็อยากมาอีกและบอกต่อๆกัน
“ให้ผมช่วยหาลูกค้าให้ไหมครับพี่ ผมขอคิดพี่ไม่แพง แค่ร้อยละ ๑๐ เท่านั้น...”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๙ มกราคม ๒๕๖๕