สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้เรามาพบกันอีกครั้งแล้วนะคะ โดยวันนี้ดิฉันจะมาพูดการให้เหตุผลทางคลินิกของสามพี่น้อง
สามพี่น้องประกอบด้วย พี่สาวคนโต เพศ หญิง ชื่อ A (นามสมมติ) อาชีพนักบัญชี มี OPCD ชอบคิดวางแผนสมบูรณ์แบบในการดูแลน้องชายคนเล็ก แต่ร่างกายก็ปวดเดินไม่ไหว นอนไม่หลับ ยอมรับความผิดพลาดไม่ได้
น้องชายคนกลาง เพศ ชาย ชื่อ B (นามสมมติ) High Function Asperger’s จบโทแคนาดาและทำงานดีมีครอบครัว
น้องชายคนเล็ก เพศ ชาย ชื่อ C (นามสมมติ) Chronic Depression with Low Function Asperger’s จบโทแคนาดาตามพี่ชายแต่ปัจจุบันอยากอยู่บ้านเฉยๆเล่นเกมส์ ทำอาหารบ้าง ชอบนวด ไม่ชอบออกกำลังกาย
- Conditional reasoning ที่ 1 นักกิจกรรมบำบัดต้องการให้ผู้รับบริการลดความสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) และความเครียด นักกิจกรรมบำบัดประเมินแบบกึ่งโครงสร้างเพื่อการเปลี่ยนแปลงจิตใต้สำนึก (Semi Structured Assessment for Subconscious Change) เพื่อทราบแนวทางการพัฒนาทักษะการเปลี่ยนแปลงตนเองในระดับจิตใต้สำนึก นักกิจกรรมบำบัดบอกให้ผู้รับบริการหลับตาในท่ายืน นั่ง หรือ นอน แล้วทบทวนว่า “มีอารมณ์ตึงเครียดบริเวณใดของร่างกาย เริ่มจากบริเวณใบหน้า บริเวณรอบหัวใจ และบริเวณท้อง ถ้ามีแต่ละบริเวณอยู่ที่ใด แต่ละตำแหน่งมีระดับความเครียดกี่คะแนนจาก 0-10 (ไม่มีถึงมากที่สุด) นักกิจกรรมบำบัดรอฟังคำตอบและบันทึกข้อมูลให้ชัดเจน และกระตุ้นถามผู้รับบริการให้คิดวิเคราะห์ผ่านการเขียนลงบน A4 วิเคราะห์ SMART Goal Setting: Specific abilities at where and how, Measurable quantities, Attainable goals, Relevant meaningfulness, & Time related achievement เช่น คุณจะควบคุมความคับข้องใจอย่างไร ช่วยสาธิตวิธีการวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว เป็นต้น นักกิจกรรมบำบัดฟื้นฟูทักษะทางการรู้คิด (Cognitive Training) และฝึกฝน Life Balance สมดุลสมองจิตคิดกายใจ 45-66 วันต่อเนื่องกัน
- Conditional reasoning ที่ 2 นักกิจกรรมบำบัดต้องการให้พี่ชายคนกลางมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม เนื่องจากพี่ชายคนกลางหมกมุ่นกับการทำงาน ประเมิน Social interaction skills ดูทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในสังคมที่ใช้ในขณะทำกิจกรรม การเริ่มต้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ดู Social participation การทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวหรือชุมชนหรือการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน นักกิจกรรมบำบัดจัดกิจกรรมกระบวนการกลุ่ม Paper craft ทำการ์ดให้กับครอบครัวหรือทำการ์ดให้กำลังใจ บอกความรู้สึกขณะที่ทำกิจกรรมให้ผู้รับบริการคนอื่น
- Conditional reasoning ที่ 3 นักกิจกรรมบำบัดต้องการให้น้องชายคนกลางรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ประเมินสัมภาษณ์พฤติกรรมที่มีเป้าหมายของมนุษย์ (Occupation Behavior) อ้างอิง Model Of Human Occupation (MoHo) เพื่อทราบแนวทางการประเมินสัมภาษณ์พฤติกรรมที่มีเป้าหมายของมนุษย์ได้อย่างมีความรู้ความเข้าใจ ตั้งคำถามให้ผู้รับบริการเรียนรู้แรงจูงใจภายในจิตใต้สำนึกที่สร้างการกระทำสิ่งต่างๆ ได้แก่ ความรู้/ความเชื่อส่วนบุคคล(Personal Causation) คุณค่า (Value) ความสนใจ (interest) โดยกิจกรรมที่ทำเป็นกิจกรรมที่มุ่งเตรียมความพร้อม เพิ่มกำลังหรือพลังงานของร่างกาย ผ่านกิจกรรมเกมส์กีฬา นันทนาการ กิจกรรมที่เพิ่มทักษะเบื้องต้น ใช้กระบวนการกลุ่มหรือกิจกรรมกลุ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าสังคมและเพิ่มอารมณ์ด้านบวกร่วมด้วย
ต่อไปเป็นการตั้งคำถาม จำนวน 5 คำถาม ที่เกี่ยวข้องกับเคสสามพี่น้องได้อย่างไร
1.ทำไมพี่สาวคนโตถึงมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ
ตอบ นักกิจกรรมบำบัดสอนวิธีการที่สามารถเพิ่มคุณภาพการนอนหลับของพี่สาวคนโต ดังนี้
1.พ่นลมหายใจออกทางปาก พยายามให้ลมออกจากปอดให้หมด พร้อมทำเสียง “ฟู่”
2.ปิดปาก แล้วหายใจเข้าทางจมูกให้เงียบที่สุด พร้อมนับ 1-4 ในใจ กลั้นหายใจ
เพื่อเก็บลมหายใจค้าง ไว้ในปอด เป็นเวลา 7 วินาที
3.พ่นลมหายใจออกทางปากอีกครั้งอย่างเต็มแรง พร้อมทำเสียง “ฟู่” และนับ 1-8
ในใจ หายใจเข้าทางปากอีกครั้ง และเริ่มขั้นตอน 1-4 ใหม่ อีก 3 ครั้ง เพื่อให้ครบ 4 ครั้ง
เมื่อทำครบ 1-4 ขั้นตอน จะนับเป็นการหายใจหนึ่งครั้ง เทคนิคนี้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น ช่วยฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียด ความวิตกกังวล และขจัดความคิดฟุ้งซ่านเป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้พี่สาวคนโตง่วงหลับขึ้น และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
2.ทำไมพี่สาวคนโตถึงรับมือกับความผิดพลาดไม่ได้
ตอบ เพราะพี่สาวคนโตมีอาการ OPCD ซึ่งทำให้มองทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ นักกิจกรรมบำบัดจะใช่วิธีกระบวนการกลุ่มหรือกิจกรรมกลุ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าสังคมและเพิ่มอารมณ์ด้านบวก เช่น การทำ Paper collage ให้เสร็จในเวลาที่จำกัด มีอิสระในการเลือกภาพมาแปะ ผู้บำบัดจะต้องแบ่งขั้นตอน ช่วยเหลือเป็นระยะเนื่องจากพี่สาวคนโตอาจจะรู้สึกล้มเหลว โทษตนเอง มีการเปิดเผยตนเอง โชว์ผลงานบอกเล่าความรู้สึกหลังทำผลงานเสร็จสิ้น
3.ทำไมพี่ชายคนกลางถึงมีปัญหากับครอบครัวในวัยเด็ก
ตอบ เนื่องจากพ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆพี่ชายคนกลางเป็นคนเรียนเก่ง ต้องไปเรียนหนังสือที่ไกลบ้านและพี่สาวคนโตเป็นคนเงียบๆอยู่แต่บ้าน น้องชายคนเล็กเป็นคนเงียบๆ เป็นตัวของตัวเองสูง ผู้บำบัดจึงหาวิธีที่ช่วยให้พี่ชายคนกลางมีความเข้าใจและสานสัมพันธ์ในครอบครัวดังนี้
-กิจกรรมการทำกับข้าวร่วมกัน เพื่อให้เกิด Social participation ระหว่างพี่น้อง ทำอาหารที่พ่อแม่ที่เสียไปชอบทาน
-การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ที่เสียไป
-กิจกรรมการกอดบำบัด
-กิจกรรมยืดเหยียดร่างกายภายในครอบครัว
4.ทำไมน้องชายคนเล็กถึงไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ตอบ น้องชายคนเล็กไม่ทำงาน ติดเกม ไม่ชอบออกจากบ้าน นักกิจกรรมบำบัดจึงมีวิธีการที่จะสามารถให้น้องชายคนเล็กมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นดังนี้
-ผู้บำบัดสัมภาษณ์โดยใช้ therapeutic use of self, Therapeutic Relationship ใช้ Caring และ Empathy
-ทำกิจกรรมที่มุ่งเตรียมความพร้อม เพิ่มกำลังหรือพลังงานของร่างกาย
-ทำกิจกรรมที่ระยะเวลาที่อยู่ในช่วงความสนใจของน้องชายคนเล็ก
-กระบวนการกลุ่มหรือกิจกรรมกลุ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าสังคม
5.ทำไมพี่สาวคนโตถึงมีอาการปวดหลัง ขาอ่อนแรงจากการนั่งนานๆ
ตอบ นักกิจกรรมบำบัดมีวิธีที่จะลดอาการปวดหลัง ขาอ่อนแรงจากการนั่งเก้าอี้นานๆ ดังนี้
-เปลี่ยนเก้าอี้ให้เหมาะสมต่อรูปร่างของพี่สาวคนโต
-เริ่มต้นนอนหงาย ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น และวางแขนทั้งสองไว้ข้างลำตัว
จังหวะที่ 1 เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อกดหลังให้แนบพื้น นับ 1-5 ช้า ๆ
จังหวะที่ 2 คลายกล้ามเนื้อ ปล่อยพักตามสบาย ทำซ้ำ 5-6 ครั้งวันแรก แล้วเพิ่มขึ้นในวันถัดไป
-ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับเข่า ค่อย ๆ ดึงเข่าเข้าหาลำตัวช้า ๆ จนรู้สึกตึง บริเวณสะโพกเล็กน้อย โดยให้เอวและสะโพกไม่ลอยจากพื้น ดึงค้างไว้นับ 1-10 คลายออก ทำซ้ำติดต่อกัน 5 ครั้ง
สุดท้ายนี้นะคะ ผู้เขียนได้มี Learn How to Learn เพื่อจะเรียนและทำงาน OT ให้มีความสุขได้ดังนี้
1.ตั้งใจเรียนในห้องอย่างมีสมาธิจดจ่อ
2.เมื่ออาจารย์เปิดโอกาสให้ถามประเด็นที่ไม่เข้าใจ ผู้เขียนก็จะถามในชั้นเรียน หรือถามหลังจากเลิกเรียนเพื่อให้ความสงสัยนั้นหายไป และจะได้เข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากขึ้นเพื่อนำไปใช้กับผู้รับบริการในอนาคต
3.ฝึกการเอาใจเขามาใส่ใจเราในการแสดงบทบาทเป็นผู้รับบริการ ลองแสดงเป็นผู้รับบริการหลากหลาย เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่มีประสบการณ์ทางจิตสังคม เป็นต้น
4.จดประเด็นสำคัญที่อาจารย์เน้นในคาบ
5.แบ่งเวลาในการอ่านหนังสือเรียนกับเวลาพักผ่อนให้สมดุลกัน
6.ไม่กดดันตัวเองในการเรียน เรียนโดยที่ไม่คำนึงถึงเกรด แต่คำนึงถึงความเข้าใจในเนื้อหา สิ่งที่อาจารย์จะสื่อในคาบให้ได้มากที่สุด เมื่อเข้าใจสิ่งที่อาจารย์สอนอย่างถ่องแท้ก็จะสามารถทำคะแนนได้ดีเอง
7.ไม่คาดหวังว่าจะได้เกรดแต่ละวิชาสูงๆ เพราะจะบั่นทอนจิตใจ หากไม่เป็นไปตามที่หวัง
8.อ่านหนังสือสอบเรื่อยๆ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง