แม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก (3) ชุมชนท่องเที่ยว บ้านรักไทย


ชุมชนท่องเที่ยว บ้านรักไทย

แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีหมอกปกคลุมตลอดทั้ง 3 ฤดู คือ หมอกน้ำค้างในฤดูหนาว หมอกควันไฟป่าในฤดูแล้ง และหมอกฝนในฤดูฝน เป็นที่มาของชื่อ "เมืองสามหมอก"

แม่ฮ่องสอนมีภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และยังมีโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลป วัฒนธรรมประเพณี เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนแม่ฮ่องสอนมากขึ้น แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองที่มีแนวชายแดนติดกับประเทศพม่าตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศตะวันตก นับเป็นพรมแดนที่ยาวที่สุด

บ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย - พม่า ด้านทิศเหนือ เป็นชุมชนชาวจีนฮ่อหรือจีนยูนนาน อดีตกองกำลังทหารคณะชาติ กองพล 93 "ก๊กมินตั๋ง" ที่อพยพหนีภัยมาจากทางตอนใต้ของจีนในช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์

ประวัติชุมชนบ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป๋ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดิมสภาพบ้านรักไทยส่วนใหญ่เป็นป่าหญ้าคาสลับกับป่าเบญจพรรณปกคลุมยอดเขาสูงทั่วไป ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยมากนัก มีเพียงชุมชนชาวม้ง 4-5 ครอบครัว ทำไร่ฝิ่นและปลูกข้าวโพดตามแนวเขาริมชายแดนพม่า โดยมียอดดอยต๋องแม่ย๊อดเป็นยอดเขาสูงสุด ทำหน้าที่กั้นเขตแดนระหว่างไทยกับพม่าทอดยาวไปจนถึงจังหวัดเชียงราย ในช่วงหลังมีคนเข้ามาอาศัยในชุมชนนี้มากขึ้น คนพื้นเมืองเรียกชุมชนบ้านรักไทยว่า "บ้านแม่ออใหม่"

สันนิษฐานว่าน่าจะมีความมุ่งหมายให้คล้องจองกับชื่อชุมชน "บ้านแม่ออหลวง" ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันในเขตพม่า คำว่า "แม่ออ" เป็นคำที่มาจากภาษาจีนว่า "หมี่ออ" แปลว่า ที่เก็บข้าว คนไทใหญ่เรียกหมู่บ้านนี้ว่า " โท้งเย่ข้าว" มีความหมายว่า ยุ้งฉางเก็บข้าว เนื่องจากบริเวณแห่งนี้มีที่ราบลุ่มสำหรับปลูกข้าว

เมื่อราว 30 ปีก่อนที่บ้านแม่ออใหม่จะกลายมาเป็นหมู่บ้านรักไทยนั้น กองกำลังอดีตทหารคณะชาติกองพล 93 ของนายพลต้วนซีเหวิน หรือนายพลต้วน ได้นำกำลังทหาร ทจช.มาหลบภัยทางการเมืองบริเวณแนวชายแดนไทย โดยกองกำลังของนายพลหลี่มีฐานบัญชาการอยู่ที่บ้านถ้ำงอบ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนกองกำลังของนายพลต้วนมีฐานบัญชาการอยู่ที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย กองกำลังของนายพลทั้งสองได้กระจายอยู่ตามพื้นที่ชายแดนไทย - พม่า เก็บภาษีค่าผ่านแดนและให้ความคุ้มครองแก่คาราวานพ่อค้าที่เดินทางค้าขายระหว่างไทยกับพม่า

ปีพ.ศ. 2510 นายพลหลี่ ผู้บัญชาการฐานบ้านถ้ำงอบได้มอบหมายให้นายพลกุงเจ่าหล่ง ผู้บังคับกองร้อยนำกองกำลังทหาร 180 นาย ไปประจำที่ด่านช่องทางบ้านนาอ่อน บริเวณแนวชายแดนไทยทางทิศตะวันตกบ้านบาปาแปก ตรงข้ามบ้านนาอ่อน ทั้งนี้เพื่อแสวงหาทำเลที่อุดมสมบูรณ์ไว้รองรับครอบครัวของทหารจีนคณะชาติ

กุงเจ่าหล่งออกเดินทางด้วยเท้าและม้าจากฐานบ้านถ้ำงอบผ่านสันเขาถนนธงชัยตามแนวชายแดนไทย-พม่าเป็นเวลา 6 วัน จนถึงดอยต๋องแม่ย๊อด ใกล้หมู่บ้านรักไทย จากนั้นจึงได้ให้ทหารทำการปรับพื้นที่และสร้างฐานบัญชาการ ต่อมาในปีพ.ศ. 2516 มีครอบครัวทหารจีนคณะชาติจากกองพล 93 บ้านถ้ำงอบประมาณ 2-3 ครอบครัวเดินทางอพยพติดตามสามีที่เป็นทหารเข้ามาปลูกบ้านเรือน ทำสวนทำไร่ในเขตพื้นที่บ้านรักไทย ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของชุมชนบ้านรักไทยตั้งแต่นั้นมา โดยครอบครัวแรกที่อพยพเข้ามาคือครอบครัวของนายโกวยี่ฉ่าย หยางเจินอาง และนางหลงเซียน แซ่หลิน

ปัจจุบันบ้านรักไทยถือเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีธรรมชาติสวยงามมาก บริเวณกลางหมู่บ้านมีทะเลสาบขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนบ้านรักไทยจะได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวจีนฮ่อ รวมถึงการสืบทอดประเพณีของชาวจีนฮ่อ ทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน การแต่งกาย และบ้านเรือนที่สร้างจากดินเหนียวผสมฟางข้าว นอกจากนั้นอาหารจีนยูนนานของบ้านรักไทยก็มีชื่อเสียงไม่แพ้ที่ชุมชนชาวจีนฮ่อดอยแม่สลอง

พื้นที่ของหมู่บ้านรักไทยเหมาะแก่การปลูกชาพันธุ์ดีและพืชเมืองหนาว ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่อง ชาและขาหมูหมั่นโถว นอกจากนี้ยังมีกาแฟสดรสชาติเยี่ยม ซึ่งเป็นผลผลิตของชาวเขาให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

หากมาเที่ยวบ้านรักไทยก็ต้องพักที่ลี ไวน์ รักไทย ไม่เช่นนั้นก็ถือว่ายังมาไม่ถึงบ้านรักไทย ลี ไวน์ รักไทย เป็นบ้านดินท่ามกลางไร่ชาสลับกับต้นท้อ ปลูกไล่ระดับขึ้นไปตามเนินเขา บรรยากาศสวยสุดยอด หากมาเที่ยวในช่วงที่อากาศหนาวก็อาจหลงคิดว่าอยู่ในประเทศจีน

ลีไวน์คอฟฟี่ เป็นอีกที่หนึ่งซึ่งหากพลาดไปก็ถือว่าผิด ตัวอาคารมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นผสมผสานความเป็นจีนฮ่อ สามารถนั่งจิบกาแฟชมวิวทะเลสาบและหมู่บ้านรอบๆทะเลสาบ และมีท่าเรือสำหรับเหมาเรือล่องในทะเลสาบได้ด้วย แต่ถ้าไม่อยากล่องเรือจะเหมารถสามล้อตกแต่งด้วยศิลปะแบบจีนพาไปชมรอบหมู่บ้านรักไทยก็ได้ หรือจะสมัครใจเดินช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ที่มีหลายร้าน ก็จะได้รับความเพลิดเพลินเช่นกัน

ผู้ที่มีโอกาสมาท่องเที่ยวบ้านรักไทยคงจะกลับไปพร้อมกับความประทับใจ และจะกลับมาที่ชุมชนท่องเที่ยวแห่งนี้อีกครั้งเมื่อมีโอกาสอย่างแน่นอน  

 

ขอขอบคุณ

  • บริษัททัวร์ฟ้าใสและทีมงานที่บริการอย่างดีเยี่ยมตลอดการเดินทางท่องเที่ยว
  • น้ำใจไมตรีจากเพื่อนร่วมเดินทางทุกท่าน
หมายเลขบันทึก: 693641เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2021 20:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2021 18:23 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท