๑,๒๔๒ รั้วโรงเรียน....


"วันนี้...ตัดสินใจเพื่อความมั่นคง ปลอดภัยและยั่งยืนของโรงเรียน นักเรียนและผู้ปกครอง จึงจะสร้างรั้วคอนกรีตต่อไปอีกเพียงด้านเดียว สูง ๑.๕ เมตร ยาวทั้งหมด ๑๔๐ เมตร เพื่อความเป็นโรงเรียนที่สมบูรณ์และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น"

         ปีพ.ศ. ๒๕๔๙ คือปีที่ก้าวเข้าสู่โรงเรียนขนาดเล็ก วันนั้นมีครู ๒ คน นักเรียน ๔๘ คน รู้ได้ทันทีว่าต้องอยู่โรงเรียนนี้ไปอีกยาวนาน ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นโรงเรียนใกล้บ้าน เด็กก็มีไม่มาก ผมเองไม่ได้จบด้านบริหารฯ  ช่วยครูสอนอีกคนหนึ่งจะเป็นไรไป

        ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พัฒนาวิชาการเป็นงานหลัก คือเน้นสอนมากกว่าเน้นงานก่อสร้าง..และไม่รู้จะสร้างอะไร เพราะเงินมีน้อยคนก็น้อยด้วย คิดไรไม่ออกเลยถือโอกาสตั้งหน้าตั้งตาสอนหนังสือเรื่อยไป...

          แต่ในใจลึกๆ ก็คาดหวังเล็กๆอยู่เหมือนกัน ว่าถ้าสอนลูกหลานชาวบ้านให้อ่านออกเขียนได้แล้ว สักวันเด็กต้องมากขึ้น จากนั้นผู้ปกครองจะได้เข้ามามีส่วนร่วมซ่อมสร้างตามที่ใจ ผอ.ปรารถนา

          ยังเคยนึกเลยว่า ได้ปฏิบัติการ “ระเบิดจากข้างใน” ประยุกต์ใช้คำสอนของพ่อหรือ”ศาสตร์พระราชา” ที่ไม่เคยมีคำว่าล้าสมัย

          จริงๆแล้วในช่วงแรก จะว่าไม่สร้างอะไรเลย ก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว แต่จะ”ทำให้ง่าย” โดยสร้างแหล่งเรียนรู้คู่ขนานกับการเรียนการสอน เพื่อให้ครูใช้เป็นสื่อปลุกเร้าความสนใจ ครูและนักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้นอกสถานที่ เด็กได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติบ้าง

          ที่จำได้ตอนนั้น เป็นความทรงจำเกี่ยวกับแปลงเกษตร บ่อปลา และบ่อปุ๋ยหมักใบไม้ ทำง่ายๆไม่ต้องลงทุนเยอะ ส่วนเรื่องใหญ่ๆที่เป็นสิ่งก่อสร้างแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีปัญญาจริงๆ

          งานก่อสร้างอาคารประกอบหลังแรก ริเริ่มขึ้นในปี ๒๕๕๗ จากน้ำใจของเพื่อนๆที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนปากเกร็ด ทำให้ “ห้องสมุด”ประสบความสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้

          แต่ก่อนหน้านี้มีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นแล้ว เป็นผลงานชิ้นแรกที่ร่วมสร้างกับชุมชน ยังอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม ที่ไม่ลืมเพราะแปลกใจว่าลงมือสร้างได้อย่างไร นั่นก็คือรั้วคอนกรีตหน้าโรงเรียน โดยใช้เงินอุดหนุนของทางราชการผสมผสานกับเงินบริจาคอีกส่วนหนึ่ง

         .ตอนนั้นข้าวของก็ยังไม่แพง งานก่อสร้างยังใช้เงินไม่มาก เหตุผลที่ต้องสร้างก็เพราะผมเห็นว่าสอนหนังสือมา ๔ ปีแล้ว ควรจะได้จัดระบบบริหารจัดการสถานที่ให้เป็นระบบระเบียบมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็น่าจะดีมิใช่น้อย

         เมื่อมองไปที่ประตูทางเข้าโรงเรียน ซ้ายและขวา เป็นกำแพงสั้นๆระบุชื่อโรงเรียนกับคำว่ายินดีต้อนรับ ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ แต่ทาสีใหม่สดใสมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ป้ายจะไม่ใหญ่โตอลังการ แต่ก็ดูภูมิฐานสมกับคำว่า..พอเพียง

          ถัดจากป้ายไปทางซ้ายและขวา ขนานไปกับถนน จะเป็นรั้วลวดหนามขึ้นสนิมยึดโยงไปกับเสาปูน ตลอดแนวเขตสี่เหลี่ยมผืนผ้าของโรงเรียน ตอนนั้นมองอย่างพินิจพิจารณา ก็เห็นว่าไม่ได้การเสียแล้ว เมื่อโรงเรียนอยู่ริมถนนก็ควรจะต้องมีกำแพงรั้วเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนบ้าง

           ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ผมจึงสร้างรั้วคอนกรีตด้านซ้ายมือยาว ๕๐ เมตร ทางขวามือ ๖๐ เมตร ทาสีน้ำเงิน-เหลือง ดูโดดเด่นเป็นสง่าเหลือเกิน รู้สึกอบอุ่นใจเมื่อมีรั้วรอบขอบชิดที่มั่นคงขึ้น ต่อจากกำแพงรั้วไปก็ยังคงเป็นรั้วลวดหนามเหมือนเดิม

          ๑๐ ปีผ่านไป...หลากหลายคำถามก็ตามมา ทำไม ผอ.ไม่สร้างรั้วคอนกรีตให้ตลอดแนว ขนานไปกับแนวถนน?.. ผอ.เสารั้วลวดหนามหักล้มแล้วนะ สงสัยโดนวัวชน...ผอ.ลวดหนามขาด วัวเข้าไปเหยียบย่ำต้นไม้ผอ.หมดแล้ว...คำตอบที่ผอ.มีให้ก็คือ สร้างพอแล้ว..ใกล้เกษียณแล้ว แต่แท้ที่จริง..ไม่มีตังค์

          วันนี้...ตัดสินใจเพื่อความมั่นคง ปลอดภัยและยั่งยืนของโรงเรียน นักเรียนและผู้ปกครอง จึงจะสร้างรั้วคอนกรีตต่อไปอีกเพียงด้านเดียว สูง ๑.๕ เมตร ยาวทั้งหมด ๑๔๐ เมตร เพื่อความเป็นโรงเรียนที่สมบูรณ์และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

          จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันบริจาคตามกำลังศรัทธา พัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กด้วยกันนะครับ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๓  พฤศจิกายน  ๒๕๖๔

         

 

    

   

  

    

หมายเลขบันทึก: 693509เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2021 21:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2021 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท