ฝรั่งขี้นก หกใบสตางค์
ฝรั่ง (Guava) เป็นผลไม้ที่คนไทยชอบรับประทานเป็นอาหารว่าง โดยรับประทานผลดิบจิ้มพริกเกลือ ฝรั่งมีต้นกำเนิดจากประเทศในทวีปอเมริกากลางและหมู่เกาะอินดีสต์ตะวันตก โดยหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่าฝรั่งมีมาตั้งแต่ 800 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนั้น มีบันทึกว่าพ่อค้าชาวสเปนและโปรตุเกสได้นำผลไม้ที่เรียกว่าฝรั่งนี้ไปเผยแพร่ทั่วโลก โดยในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Guava สำหรับทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เริ่มรู้จักฝรั่งเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 และคาดว่าน่าจะมีการนำฝรั่งเข้ามาในไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ที่มาของคำว่า "ฝรั่ง"
โดยมากมักสันนิษฐานว่า "ฝรั่ง" กร่อนมาจากคำว่า ฝรั่งเศส ซึ่งทับศัพท์มาจากชื่อประเทศฝรั่งเศสในภาษาฝรั่งเศสว่า"ฟรองเซ" แต่เชื่อว่าแท้ที่จริงแล้ว คำว่า ฝรั่ง น่าจะมาจากภาษาฮินดีว่า "ฟิรังกิ" แปลว่า คนต่างชาติ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกชาวตะวันตกในยุคที่จักรวรรดิอังกฤษปกครองอินเดีย หรืออาจจะมาจากภาษาเปอร์เชีย คำว่า ฟารัง หรือ ฟารังกี ซึ่งหมายถึง ชาวแฟรงก์ หรือชาวยุโรป ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวฝรั่งเศสในปัจจุบัน และเป็นที่มาของชื่อประเทศฝรั่งเศสในภาษาอังกฤษว่า france
คำว่า ฝรั่ง ใช้กันเป็นภาษาปากหรือภาษาลำลอง ใช้เรียกชาวต่างชาติที่มีเชื้อสายยุโรป หรือชาวผิวขาว โดยมิได้ระบุเชื้อชาติและสัญชาติ
จะเห็นได้ว่าคำว่า ฝรั่ง ยังเป็นคำที่ใช้เรียกต่อท้ายชื่อสิ่งของต่างๆที่มีที่มาจากต่างประเทศอีกด้วย เช่น น้ำหอมฝรั่ง หางนกยูงฝรั่ง ผักชีฝรั่ง มันฝรั่ง ขึ้นช่ายฝรั่ง และหมากฝรั่ง เป็นต้น
ผลไม้ที่ฝรั่งนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย จึงเรียกชื่อว่า "ฝรั่ง "
สายพันธุ์ฝรั่งที่นิยมปลูกในประเทศไทย ในปัจจุบันมีดังนี้
ฝรั่งแป้นสีทอง ผลกลมเรียบสีเขียวสด รสชาติหวานกรอบ มีเมล็ดน้อย
ฝรั่งกลมสาลี่ ผลกลมแป้น ผิวเขียวอมเหลือง รสหวานอมเปรี้ยว เนื้อหนา กรอบ
ฝรั่งกิมจู ผลกลม บนเปลือกมีสันนูน เนื้อหนา รสหวานกรอบ มีเมล็ดน้อย
ฝรั่งฮ่องเต้ เป็นฝรั่งพันธุ์ใหม่ มีผลยาวขนาดใหญ่ ผิวผลขรุขระ เนื้อกรอบอร่อย รสชาติดี ติดผลง่าย ให้ผลผลิตตลอดปี
ฝรั่งพิจิตร 1 กลายพันธุ์มาจากฝรั่งฮ่องเต้ ต้นแม่พันธุ์เกิดจากจังหวัดพิจิตรจึงตั้งชื่อพันธุ์ตามชื่อจังหวัดพิจิตร เป็นพันธุ์ที่ติดดอกออกผลดก ผลกลมคล้ายฝรั่งกลมสาลี่ เนื้อสีขาวนวล มีกลิ่นคล้ายแอปเปิ้ล รสหวานอร่อยมาก มีเมล็ดน้อย
ฝรั่งขี้นก เป็นฝรั่งที่มีผลเล็กกว่าฝรั่งพันธุ์อื่นๆ ผลค่อนข้างกลม เนื้อบาง เมล็ดมากและแข็ง เนื้อในมีสีชมพูอ่อน มีรสหวานอมเปรี้ยว เมื่อสุกมีผิวสีเหลืองอ่อน การที่เรียกชื่อว่า ฝรั่งขี้นก เข้าใจว่านกคงจะกินเมล็ดแล้วถ่ายมูลออกมา เมื่อได้รับความชุ่มชื้นที่พอเหมาะจากดินจึงงอกขึ้นมาเอง โดยไม่ได้มีใครเพาะขึ้นมา จึงเรียกว่า "ฝรั่งขี้นก"
นอกจากการนำผลฝรั่งมารับประทานสดๆกับพริกเกลือ ฝรั่งยังสามารถนำมาแปรรูปได้ดังนี้
ฝรั่งแช่บ๊วย
ฝรั่งดอง
แยมฝรั่ง
ฝรั่งหยี
น้ำฝรั่ง
ฝรั่งดอง
ฝรั่งขี้นก หรือ ฝรั่งสีชมพู ส่วนมากผู้คนไม่นิยมรับประทานเนื่องจากเนื้อค่อนข้างเละ และไม่กรอบเหมือนฝรั่งพันธุ์ใหม่ๆ ภายหลังมีการวิจัยพบว่าฝรั่งสีชมพูหรือฝรั่งขี้นกมีสารอาหารมากมายที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 5 เท่า และมีสารไลโคปีนมากกว่ามะละกอถึง 2 เท่า ทำให้แนวโน้มทางด้านการตลาดของฝรั่งขี้นกค่อนข้างดี ราคาผลผลิตสูงขึ้นจากเดิมที่ไม่เป็นที่นิยม ในปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพค่อนข้างแรง ทำให้ฝรั่งขี้นกกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก
คุณประโยชน์ดีๆ ของฝรั่งขี้นก
1. ในปริมาณ 100 กรัม ฝรั่งขี้นกมีไลโคปีนเป็นจำนวนถึง 5,204 ไมโครกรัม มากกว่ามะเขือเทศถึง 2 เท่า สารไลโคปีนจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ จึงลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาการ มะเร็งปอด
2. ฝรั่งขี้นกมีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันโรคหวัด เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
3. ฝรั่งขี้นกมีไฟเบอร์สูงช่วยป้องกันอาการท้องผูก ป้องกันโรคริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
4. ไฟเบอร์ในฝรั่งขี้นกช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
5. ฝรั่งขี้นกเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำและมีใยอาหารสูง จึงเป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
6.โพแทสเซียมในฝรั่งขี้นกสามารถลดระดับความดันโลหิตได้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิต โรคหัวใจและโรคหลอดเลือด
7. ฝรั่งขี้นกอุดมด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา
8. สารไลโคปีนที่มีอยู่สูงมากในฝรั่งขี้นกช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากรังสี UVA และ UVBในแสงแดด จึงช่วยให้ผิวไม่หมองคล้ำเสียง่าย
9. ใบฝรั่งขี้นกใช้เป็นส่วนประกอบของยาสีฟันสมุนไพรหลายยี่ห้อ
สำนวน "ฝรั่งขี้นก" หมายถึง คนที่ทำตัวเป็นฝรั่ง ผิดแผกจากคนไทยทั่วไป บางครั้งใช้ว่า "ฝรั่งขี้นก หกใบสตางค์"
ที่มาของสำนวน ฝรั่งขี้นก มาจากการที่ฝรั่งขี้นกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการที่นกมาถ่ายมูลไว้ ไม่มีใครเพาะปลูก เป็นผลไม้ไร้ค่า เก็บไปขายก็ไม่มีคนซื้อ เปรียบได้กับคนที่พยามวางท่าเหมือนชาวยุโรป ทั้งการแต่งกาย การวางตัว การพูดจา แต่ก็ทำได้แค่เลียนแบบไม่แนบเนียน ใช้ทำนองดูแคลนคนไทยที่พยามเลียนแบบฝรั่ง
ตัวอย่าง
บ้านเราเดี๋ยวนี้ฝรั่งขี้นกเยอะกว่าฝรั่งแท้ๆ เสียอีก ส่วนมากก็เป็นพวกที่ชอบเห่อฝรั่งนั่นแหละ
สำนวนนี้อาจมีความหมายผิดเพี้ยนไปตามเหตุการณ์ปัจจุบัน เพราะฝรั่งขี้นกหรือฝรั่งสีชมพูนั้นไม่ใช่ผลไม้ไร้ราคา “หกใบสตางค์” เหมือนแต่ก่อน ฝรั่งขี้นกที่เห็นนำมาขายบนห้างใหญ่ๆในกรุงเทพฯ มีราคาสูงกว่าฝรั่งพันธุ์ต่างๆหลายเท่า และไม่ใช่ว่ามีเงินก็ซื้อหาได้ เพราะผลผลิตฝรั่งขี้นกมีการจับจองกันไว้ล่วงหน้าหมดตั้งแต่ที่สวน ไม่เหลือสำหรับวางขายตามตลาดทั่วไป
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความเห็น