คิดบวก...อย่างไรให้ดีต่อใจตัวเอง

อาจเป็นจังหวะจักรวาลจัดสรร ให้เกิดความอยากดูซี่รี่ย์เกาหลี ที่หลายๆ คนพูดถึงอย่างแพร่หลายในช่วงเวลาหนึ่งที่ผ่านมาสักพักแล้วแหละ เรื่อง It's okay to not be okay

.

.

การดูหนัง มาตรงกับจังหวะกับการได้รับรู้เรื่องราวชีวิตเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งพวกเขา มีประเด็นคล้าย ๆ กัน คือ ตั้งใจคิดบวก เพื่อพัฒนาตนเอง ต้องการก้าวข้ามความยาก(ความท้าทาย)ของชีวิต จนอาจเผลอกลบ หรือตั้งใจคิดเพื่อลบแผลใจในอดีต(บางคนใช้คำว่า ต้องการลบ)

.

.

บางทีการคิดบวก ก็อาจเป็นการทำร้ายใจตัวเองอีกแบบหนึ่งโดยที่เราไม่รู้สึกตัวก็ได้นะ หากเราวางใจผิด เลยอยากมาชวนแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันประเด็นนี้ "คิดบวก อย่างไร ให้ดีต่อใจตัวเอง"

.

.

มีประโยค 2 ประโยคในหนังเรื่องนี้ ที่อยากนำมาแบ่งปัน

"อย่าลืม...อย่าลืม แล้วผ่านมันไปให้ได้

ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ เธอก็จะเป็น แค่เด็กน้อย

ที่จิตวิญญาณไม่เติบโต"

"จะเอาชนะแผลในใจ...ต้องเผชิญหน้ากับมัน"

.

.

ยิ่งเรารีบที่จะลืม ยิ่งอยากจะลบความทรงจำ ความรู้สึกที่่เลวร้าย

ยิ่งกลบ ยิ่งลบ สมองอาจช่วยท่านได้ เช่นการคิดบวก หรือสำหรับบางคนที่ฟังก็เหมือนจะลบได้ แต่ความจริงมันไม่เคยหายไป จิตใจไม่เคยลืม ตัวเราในอดีตเขารอคอยการดูแลจากตัวเราในปัจจุบัน อาจรอคอยการให้อภัย ความเข้าใจ การขอบคุณ ความรักอยู่

.

.

แผลใจ...เราควรเปิดใจ เพื่อ เห็น เรียนรู้และหาวิธีเยียวยาใจ(ดูแลใจ)

ไม่ใช่เมินเฉย หรือรีบด่วน บอกตัวเองบ่อยๆ ว่า "ไม่เป็นไร" ฉันไหว

ก็แค่เรื่องเล็กๆ (เรื่อยๆ ที่ปฏิเสธและสะสมไว้ อกกลัดหนอง)หรือ ชีวิตต้องคิดบวก รีบหาข้อดีกลบความรู้สึกไม่ดีที่มี หรือพอเผชิญเรื่องใหญ่ ก็สร้างตัวตนที่เข้มแข็งขึ้นมาทันที เช่น "ท้อเป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร" "ชีวิตต้องไปต่อ..สู้ๆ" มันก็เป็นความคิดที่ดีอยู่ ไม่ได้บอกว่าห้ามใช้ เลิกใช้ แต่ชวนให้ใช้เมื่อสมควรแก่เวลาที่จะใช้ ไม่ใช่ ทันที ณ ตอนนั้นดีมั้ย

.

.

เมื่อใจเรารู้สึกถึงอาการใจสะเทือน ดูใจหน่อย เกิดความรู้สึกอะไร

รับรู้ตามจริง เปิดใจ เห็นใจ จำได้ไหม ธรรมชาติของอารมณ์

ทุกอารมณ์นั้นเหมือนกันไม่ว่าดีร้าย คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป

.

.

ไม่มีอารมณ์ใดอยู่กับเราได้ตลอดเวลา หรือได้ยาวนาน ถ้าเราไม่เผลอปิดประตูใจ(ต้าน) เผลอเก็บรักษาโดยไม่รู้สึกตัว

.

.

"สิ่งใดที่เราผลักไสจะคงอยู่ สิ่งใดที่เราตระหนักรู้จะหายไป"

คาถา ที่แม่ดาวท่องไว้ เวลาใช้ดูแลใจตัวเอง

.

.

การคิดบวก ก็ดีอยู่ หากเราเรียนรู้ที่จะใช้ให้เป็น "คิดเมื่อพร้อม"

พร้อมคือ เราได้รับรู้ เห็นความรู้สึกตัวเองที่เกิดขึ้นตามจริงแล้ว

มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ผ่อนคลายแล้ว อารมณ์เริ่มปกติ ค่อยใช้สมองคิดก็ได้นะ

ไม่ต้องรีบนัก มิเช่นนั้น อาจกลายเป็นการคิดบวก ที่จวกจิ้มใจตัวเองโดยไม่รู้สึกตัว เหมือนจะดี เหมือนจะกลบ เหมือนจะหาย แต่กลายเป็นสะสมบ่มเชื้อร้ายอยู่ข้างใน ยิ่งแอบเอาไว้ ยิ่งกลบไว้ ซ่อนไว้ ยิ่งลึก จะดูแลรักษาได้ยากขึ้นเนาะ

.

.

บางทีก็มีแวบคิด อยากเปลี่ยนชื่อใหม่ จากคุณแม่...คิดบวก (facebook)

เป็น "คุณแม่...สิ้นคิด"

 

 เป็นการตั้งเป้าหมายใหม่ให้ตัวเองด้วย สื่อถึงการใส่ใจกับความรู้สึกตัวตามจริง มากกว่าใส่ใจกับความคิดใดๆ

.

.

แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิด ความรู้สึกกัน ในวันครบรอบการจากไปทางกายภายของคุณสมชัย ลิ่มมั่ง (พ่อของแม่ดาว) 31 กรกฎาคม

13 ปีได้แล้วมั้งที่ไม่เห็น ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้ยินเสียงของพ่อทางกายภาพ

ส่งความรัก รับความรักจากพ่อเรื่อยๆ ผ่านหัวใจและร่างกายตัวเอง

พ่อยังอยู่เสมอ

.

.

รักและยังใช้ชีวิตที่มี่เผื่อเสมอเช่นกัน

สุขสันต์วันครบรอบวันจากไปนะพ่อ

ลูกพ่อสมชัย ลิ่มมั่ง

31 กรกฎาคม 2564

ปล. ณ ขณะนี้ บรรทัดนี้ รู้สึกคิดถึงมากซินะ น้ำตาไหล มันธรรมาดาเนาะ

แม้เรามีพ่ออยู่ในใจ แต่ลึกๆ เราก็ยังปรารถนาอยากจะเห็นเขา

อยากได้ยินเสียงเขา

อยากใช้ชีวิตอยู่กับเขาบนโลกใบนี้

มันเป็นความรู้สึกผูกพันธ์

ที่ผูกและพันเราไว้อยู่ รับรู้ รู้สึกตามจริง คิดถึงพ่อนะ ขอกอดหน่อย

 (กอดตัวเอง)

.

.

ขอบคุณภาพจากแม่โอ๋เจ้าเก่า