มืดแปดด้าน


มืดแปดด้าน

ความหมายของสำนวน มืดแปดด้าน
หมายถึง คิดไม่ออก จนปัญญา ไม่รู้จะหาทางออกได้อย่างไร แก้ปัญหาไม่ได้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ตัวอย่าง
"...ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกและสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศทำให้ธุรกิจการบินมีปัญหาทางการเงินอย่างมาก ผู้บริหารมืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว หากไม่ได้รับการช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำตามยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลก็คงต้องปิดกิจการ..."

ที่มาของสำนวนมืดแปดด้าน  มาจากทิศทั้งแปด ได้แก่
ทิศเหนือ หรือ ทิศอุดร
ทิศใต้ หรือ ทิศทักษิณ
ทิศตะวันออก หรือ ทิศบูรพา
ทิศตะวันตก หรือ ทิศประจิม
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ทิศอีสาน
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ทิศอาคเนย์
ทิศตะวันตกฉียงเหนือ หรือ ทิศพายัพ
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือ ทิศหรดี
ทิศทั้งแปดที่มืดมนไปหมดทุกทิศ ปรากฎในมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี ในขณะที่พระมัทรีออกไปหาผลไม้ในป่า ได้เกิดลางร้ายขึ้นดังนี้
"...ปางนั้นส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา จำเดิมแต่พระนาวเธอลีลาล่วงลับพระอาวาส พระทัยนางให้หวั่นหวาดพะวงหลัง ตั้งแต่พระทัยเป็นทุกข์ถึงพระเจ้าลูกมิลืมเลย เดินพลางทางเสวยพระโศกพลาง พระนัยเนตรทั้งสองข้างไม่ขาดสายพรอัสสุชล ... ทิศทั้งแปดก็มืดมิดมัวมนทุกแห่งหน ทั้งขอบฟ้าก็ดาษแดงเป็นสายเลือด ไม่เว้นวายหายเหือดเป็นลางร้ายไปรอบข้าง..." 
เมื่อประสบกับเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา ไม่รู้ว่าจะแก้ไขได้อย่างไร จึงพูดเป็นสำนวนว่า มืดแปดด้าน

เกี่ยวกับทิศทั้งแปดนั้น ทิศที่ถือว่าเป็นทิศมงคลคือทิศตะวันออก ซึ่งถือว่าเป็นทิศแห่งการเกิด ส่วนทิศที่ถือว่าเป็นทิศอัปมงคลคือทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศแห่งการแตกดับ คนไทยมีความเชื่อเรื่องทิศมงคล เห็นได้จากการนอนจะหันหัวนอนไปทางทิศตะวันออก ไม่หันหัวนอนไปทางทิศตะวันตก เฉพาะคนที่ตายแล้วจึงจะนอนหันหัวไปทางตะวันตกอย่างเช่นการตั้งศพ เมื่อยืนหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านขวามือเป็นทิศตะวันออก ส่วนด้านซ้ายมือเป็นทิศตะวันตก ทำให้มือขวาเป็นมือข้างที่ถือว่าเป็นมงคลตรงข้ามกับมือซ้าย เวลาจะหยิบจับเสี่ยงทายอะไรจึงต้องใช้มือขวาเพื่อความเป็นสิริมงคล การเคลื่อนศพเวียนรอบเมรุจะเป็นการเวียนซ้ายทวนเข็มนาฬิกา ที่เรียกว่า ทักษิณาวรรต คือเวียนไปทางทิศใต้ ส่วนการเวียนเทียนหรือแห่นาคก่อนเข้าโบสถ์จะเวียนขวา คือเวียนไปทางทิศเหนือตามเข็มนาฬิกา เรียกว่า อุตราวรรต

ต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านจะเลือกต้นไม้ที่มีความหมายดีเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยในบ้าน การปลูกไม้มงคลทั้งแปดทิศมีหลักดังนี้

ทิศเหนือ ปลูกมะเดื่ออุทุมพร ไม้ต้นสูงได้ถึง 20 เมตร มีผลขึ้นตามลำต้น ผลกลมขนาด 2.5 - 4 เซนติเมตร มีรสฝาด กินกับอาหารได้ทุกประเภท มีทรงพุ่มขนาดใหญ่ ควรปลูกในพื้นที่กว้าง ใบมัน ผลสุกสีแดง รสหวานเจือฝาด เป็นไม้มงคลของชาวฮินดู ป้องกันภัยได้

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกมะตูม เป็นไม้ต้นสูงถึง 20 เมตร ยอดมะตูมใช้สำหรับพิธีมงคลต่างๆ โดยยอดมีกลิ่นหอมช่วยให้เจริญอาหาร ส่วนใบนำมาทัดหูแก่คู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานพระราชทานเพื่อความเป็นมงคล ผลของมะตูมนำมาทำมะตูมเชื่อมหรือฝานเป็นแว่น ตากแห้ง นำมาต้มเป็นน้ำมะตูมดื่มแก้กระหาย แก้ร้อนในได้

ทิศตะวันออกปลูกไผ่สีสุก ซึ่งเป็นไผ่ที่ชอบขึ้นตามที่ราบ กอใหญ่ ลำต้นยาว สูงประมาณ 20 - 25 เซนติเมตร ใช้หน่อเป็นอาหาร เป็นไผ่ที่มีลำหนา แข็งแรง มีหนามตามลำต้น ใช้ในงานจักสาน ด้วยชื่อที่เป็นมงคลเชื่อว่าปลูกแล้วจะสร้างมงคลในบ้าน ทำให้ผู้อยู่สุขสบาย

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ปลูกสารภี ไม้ต้นสูง ดอกใช้บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง ปลูกตามชายทะเลได้เพราะทนเค็มได้ดี ดอกสีขาวเกสรสีเหลือง เชื่อว่าเป็นการเสริมมงคลผู้อยู่อาศัยให้ได้รับการสรรเสริญ

ทิศใต้ปลูกมะพลับ ต้นไม้ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง 8 - 15 เมตร ผลมีรสหวานปนฝาด ทรงพุ่มรูปกรวย ให้ร่มเงาได้ มีความเชื่อว่าปลูกแล้วร่ำรวย มีฐานะดี อายุยืนยาว

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ปลูกราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติของไทย เป็นไม้เหนือไม้ทั้งหลาย เชื่อว่าปลูกแล้วเป็นสิริมงคล เพราะใช้เป็นยาสมุนไพรและใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ยอดกินได้ มีสรรพคุณเป็นยาระบาย

ทิศตะวันตกปลูกกุ่มบก ต้นไม้ขนาดกลางสูง 10 - 15 เมตร มักขึ้นใกล้แหล่งน้ำ ทรงพุ่มโปร่ง ใบอ่อนและยอดอ่อนทำอาหารได้โดยนำมาลวกกินกับอาหารรสจัดต่างๆ ให้แคลเซียมและใยอาหารสูง ทุกส่วนของต้นกุ่มบกยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรอีกด้วย ผลมีสีเหลืองถึงน้ำตาล

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือปลูกมะพูด ต้นไม้ขนาดกลาง ใบใหญ่ ผลดกออกตามกิ่ง รสเปรี้ยวอมหวาน  เชื่อว่าปลูกแล้วทำให้คนในบ้านช่างพูดช่างเจรจา

หากบริเวณบ้านมีพื้นที่เพียงพอ การปลูกต้นไม้มงคลประจำแต่ละทิศ นอกจากจะให้ความร่มรื่น ยังสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆ ของต้นไม้ได้ นอกจากนี้ยังนำความเป็นสิริมงคล ความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ผู้อยู่อาศัยด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

หมายเลขบันทึก: 691778เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2021 13:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2023 21:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท