ครม. มีมติให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ (๑) ตามมาด้วยเสียงคัดค้านของกลุ่มผลประโยชน์ (๒) (๓)
ขั้นตอนต่อไปคือ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพื่อตราออกมาเป็นพระราชบัญญัติ ผมภาวนาให้ผ่านไปได้ เพราะรอมานานหลายปี แม้ พรบ. นี้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็เปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการศึกษาแห่ง(คริสต)ศตวรรษที่ ๑๙ มาเป็นศตวรรษที่ ๒๑ และจะก่อคุณูปการในการพัฒนาพลเมืองไทยในอนาคตอย่างที่สุด หลังจากคุณภาพการศึกษาไทยค่อยๆ ตกต่ำลงเรื่อยๆ เป็นเวลาประมาณ ๓๐ ปี
ที่จริงสาระใน ร่าง พรบ. นี้ไม่มีอะไรใหม่สำหรับโรงเรียนที่พัฒนาตัวเองล้ำหน้าไปแล้ว แต่โรงเรียนแบบนั้นน่าจะมีราวๆ เพียง ๑ พันโรงเรียน ที่เหลืออีกกว่า ๓ หมื่นโรงเรียนคงจะดำเนินการแบบเดิมๆ คือสอนแบบถ่ายทอดความรู้ เน้นเพื่อให้สอบ O-NET ได้คะแนนสูง ไม่ได้คำนึงถึงการหนุนให้นักเรียนพัฒนาตนเองครบด้าน ผมหวังว่า พรบ. ใหม่นี้จะทำหน้าที่สร้างการเปลี่ยแปลงใหญ่ หรือ transformation ในระบบการศึกษาไทย
ผมอ่านร่าง พรบ. นี้แล้ว บอกตนเองว่าเป็นกฎหมายที่ลงรายละเอียดมาก เริ่มด้วยเหตุผลในบันทึกหลักการและเหตุผล ก็ร่ายยาวถึง ๒๑ บรรทัด ซึ่งที่จริงสาระชัดเจนครบถ้วนดีมาก
ที่ยาวมากคือมาตรา ๘ ที่ระบุสมรรถนะที่ต้องการพัฒนาตามช่วงวัย ซึ่งมีรายละเอียดดีมาก แต่คนไม่รู้อย่างผมอดคิดไม่ได้ว่า กฎหมายต้องลงลึกขนาดนี้เชียวหรือ ปล่อยให้มีการตีความเพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนตามสภาพ VUCA ของสังคมไม่ดีกว่าหรือ
แต่เมื่ออ่านถึงมาตรา ๙ และ ๑๐ ผมก็ชมคณะผู้ร่าง ว่ามีความรอบคอบครบถ้วนดีมาก กล่าวได้ว่า พรบ. นี้ครอบคลุมคนทุกช่วงอายุ และครอบคลุมเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาด้วย แถมในมาตรา ๑๑ ยังให้สิทธิของพ่อแม่ในการจัดการศึกษาแก่บุตรเองได้ด้วย ไม่ให้รัฐผูกขาดฝ่ายเดียวอย่างสมัยก่อน
ข้อที่น่าชื่นชมมากคือ ร่าง พรบ. นี้ให้ความคล่องตัวในการจัดการโรงเรียนสูงมาก ในหลากหลายด้าน และนิยามคุณภาพการเรียนรู้ไว้ชัดเจนดีมาก
โดยรวม ร่าง พรบ. นี้จะนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษา มีข้อกังวลอยู่อย่างเดียวว่า การโอนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ให้มาทำหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะทำให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติเริ่มด้วยความอ่อนแอหรือไม่
ผมลองจินตนาการว่า เปรียบเทียบระหว่างการใช้ พรบ. เก่า กับ พรบ. ตามร่างใหม่ ผลต่อคุณภาพการศึกษาจะแตกต่างหรือไม่ ผมเชื่อว่าจะแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ในด้านการส่งมอบผลลัพธ์การเรียนรู้คุณภาพสูงให้แก่ประเทศ แต่การมี พรบ. ใหม่ ก็จะต้องมีการบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มข้น
วิจารณ์ พานิช
๒๗ มิ.ย. ๖๔
ไม่มีความเห็น