ผมกำลังเขียน ปรับปรุง เรียบเรียงใหม่ หนังสือ 'สุนทรียพลานามัย' ทฤษฎี แนวคิด การดำเนินการ การปฏิรูปและจัดระบบองค์กรดำเนินการในพหุภาคส่วน การวิจัยและพัฒนา กรณีศึกษาและตัวอย่างนำร่องจากประสบการณ์ประเทศไทย ทั้งหมดใช้แนวการเขียนแบบ Experienmental Reflexive Method และ Case Study and Exploaratory Learning Practice ที่เก็บเล็กผสมน้อยจากสังคมไทย 40-50 ปีที่ผ่านมา แล้วก็ใช้มอง ทบทวน ตรวจสอบ ไปในโลกกว้าง กระบวนการเขียนใช้เก็บข้อมูล ย่อยประเด็นเนื้อหา เปิดสู่การแลกเปลี่ยนทรรศนะ อภิปราย แลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อวิพากษ์เชิงทฤษฎี โดยใช้สื่ออนไลน์หลายทาง และใช้วิธีพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบข้อมูลภาคสนามของการวิจัยเชิงคุณภาพและวิธีทำงานตรวจสอบข้อมูลของนักวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างความรู้ในเชิงปฏิบัติการแบบพหุวิทยาการและพหุปัญญา ซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ชุมชนพหุสาขา ชุมชนพหุวิทยาการ ชุมชนปัญญาปฏิบัติพหุสาขา ชุมชนพหุภาคส่วน และกลุ่มการรวมตัวบนประเด็นส่วนรวมต่างๆของสังคมแต่มีความแตกต่างหลากหลายกันมาก สามารถพัฒนาสุขภาวะชุมชนและการอยู่อาศัยร่วมกันบนเงื่อนไขแวดล้อมต่างๆ ด้วยกระบวนการทางปัญญา การสื่อสาร การทำงานความรู้ และการหลอมรวมกันด้วยการน้อมใจผูกพัน (Community Engagement) ได้อย่างสอดคล้องกับสภาพความจำเป็น และในโลกสมัยใหม่ มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานเชิงสังคมโดยมีเครื่องมือเปิดออกสู่ความแตกต่างหลากหลาย ได้มากยิ่งๆขึ้น
งานเขียนที่เหมือนเป็นการสรุปบทเรียนชั่วคราวนี้ กำลังทำอยู่ 2-3 ชุด คือ (1) สุนทรียพลานามัย (2) สุขภาวะมูลฐาน (3) สุขภาวะนิเวศน์ บ้าน ชุมชน และเมืองในบริบทใหม่ของสังคมโลก (4) การสื่อสารสุขภาพและสุขศึกษาชุมชน (4) ปฏิบัติการเชิงวิจัยอย่างมีส่วนร่วม Methodological Driven Tools (5) ปัญญาปฏิบัติและการจัดการความรู้เสริมพลัง (6) สุขภาวะสถานและสุนทรียพลานามัยสถาน
บางเล่มปรับปรุงและเรียบเรียงเพื่อจัดพิมพ์ใหม่ การหาวิธีสื่อสาร รวบรวมการอภิปราย แลกเปลี่ยนกับท่านผู้รู้และผู้สนใจทุกท่าน จะเป็นวิธีการเพื่อนำมาใช้พิจารณาน้ำหนักขององค์ประกอบต่างๆ พิจารณาขอบข่ายเนื้อหา มิติข้อมูล และเห็นประเด็นความน่าสนใจ ที่จะสามารถนำเอาไปใช้ได้จริงงานเขียนทั้งหมด ส่วนใหญ่ได้เขียนเผยแพร่และอุทิศเป็นหนังสือออนไลน์สาธารณะ โดยเฉพาะใน gotoknow.org นี้ บางเล่มได้เป็นเนื้อหาตำราของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) และมหาวิทยาลัยต่างๆ อยู่แล้ว แต่จะนำมาเขียนเรียบเรียงใหม่ ให้เป็นตำรา และยกระดับปัญญาปฏิบัติบางส่วนที่มีอยู่ของสังคมไทย ให้เป็นศาสตร์สาขาอีกแขนงหนึ่ง ที่ยกระดับและหลอมรวมจากหลายวิทยาการเข้าด้วยกัน
การสร้างองค์ความรู้และพัฒนาศาสตร์สาขาใหม่ 'สุนทรียพลานามัย' Wellbeing-Health Aesthetic บนพื้นฐานของการถอดบทเรียนจากประสบการณ์ของสังคมไทยนี้ จะทำให้เกิดแนวทางและมิติใหม่ๆหลายด้านของการพัฒนา เปิดโอกาสไปสู่การพัฒนาระบบงานประจำและระบบการดำเนินงานในแนวทางใหม่ๆของงานในชุดมโนทัศน์นี้ มีแนวทางใหม่ๆเพื่อการพัฒนาคน พัฒนาการสร้างงานเพื่อบรรลุผลเชิงคุณค่าและก่อเกิดความหมายในมิติใหม่ๆแบบองค์รวม สร้างระบบงาน พัฒนาการศึกษา พัฒนาการเรียนรู้ พัฒนาแพทยศาสตร์ศึกษา พัฒนาการเรียนการสอนทางศิลปะเพื่อพัฒนาระบบวิธีคิดแนวบูรณาการและพหุวิทยาการ การพัฒนาการจัดการภาคสาธารณะ สร้างภาวะผู้นำกลุ่มประชากรใหม่ๆและในมิติใหม่ๆ สร้างรูปแบบบูรณาการการศึกษาและกระบวนการเรียนรู้ในเชิงพลวัตรและบูรณาการ สร้างการพัฒนารูปแบบประกอบกิจการในบางด้าน ของภาคศิลปะ ธุรกิจการสื่อสาร การบันเทิง สร้างเสริมภาวะการนำของชุมชนและสังคมไทย ทางด้านสุขภาพและสุขภาวะมูลฐานชุมชน ที่ยกระดับขึ้นจากสิ่งที่มีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ให้ยั่งยืนและดียิ่งๆขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะเป็นการเห็นแนวทางสร้างปัญญาปฏิบัติและสร้างเสริมภาวะการชี้นำการพัฒนา ส่งเสริมความยั่งยืนการพัฒนาทางด้านการสาธารณสุขมูลฐานของสังคมไทยในด้านที่เป็นที่ยอมรับของสังคมโลกและองค์การระหว่างประเทศดังเช่นองค์การอนามัยโลก สู่การมุ่งการจรรโลงมิติสุขภาพและสุขภาวะที่ไม่ใช่หมอและยา โดยบทบาทของภาคประชาชนและหลากหลายภาคส่วนของสังคม ที่นอกเหนือจากภาคส่วนทางสุขภาพ ยิ่งผสานให้การพัฒนาในมิติสุขภาพและสุขภาวะ ทั้งจากภาคส่วนสุขภาพ กับนอกภาคส่วนสุขภาพ ได้ส่งเสริมเกื้อหนุนกันให้ก่อเกิดโอกาสการพัฒนาในมิติใหม่ๆได้ดียิ่งๆขึ้น
ละเอียดละออมากเลยค่ะจะเป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากนะคะ
หนังสืออาจารย์หาได้จากไหนครับผม สนใจอ่านศึกษาและนำไปใช้ครับ ผมเป็น ผอ.รพ.สต.บัวเงิน อ.นำ้พอง จ.ขอนแก่น 40140