ข้อมูลผู้รับบริการ
ชื่อ : เอ (นามสมมติ)
เพศ : หญิง
อายุ : 92 ปี
ปีเกิด : พ.ศ. 2471
ลักษณะทั่วไป : ผู้สูงอายุเพศหญิง ผมสั้น ผมขาว ไม่ใส่แว่น นั่งรถเข็น
อาชีพเดิม : เป็นลูกจ้างทั่วไปที่วิทยาลัยทับแก้ว ทำหลายหน้าที่ เช่น ช่วยปรุงอาหาร ช่วยทำสวน
โรคประจำตัว : ความดันโลหิตสูง
ยาที่รับประทานปัจจุบัน : ยาลดความดัน
ประวัติการเจ็บป่วย/การรักษา :
- เคยผ่าตัดต้อกระจกที่ตาทั้งสองข้างปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันมองเห็นปกติ
- เคยล้ม ทำให้ต้นขาขวาหัก ตอนอายุ 88 ปี ปัจจุบันนั่งรถเข็น
การรักษาปัจจุบัน : ทำกายภาพ 5 วันต่อสัปดาห์ (ยกเว้นวันพุธและอาทิตย์)
Values : ผู้รับบริการให้คุณค่ากับการรับประทานอาหารเจ
Clinical reasoning
Diagnostic reasoning
- การให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ด้านการวินิจฉัยทางการแพทย์ : ผู้รับบริการเป็นความดันโลหิตสูง (I10-I15, ICD10) ทานยาลดความดัน และไปพบแพทย์สม่ำเสมอ (จาก 1 เดือนต่อครั้ง ลดลงเป็น 2 เดือนต่อครั้ง และปัจจุบันไป 4 เดือนต่อครั้ง)
- การให้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ด้านการวินิจฉัยทางกิจกรรมบำบัด : Occupational Imbalance ผู้รับบริการสามารถทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตได้เอง แต่มีการรับประทานนมเป็นอาหารหลัก ซึ่งอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร
Procedural reasoning
นักศึกษาทำการประเมินเพื่อหาปัญหา แล้วนำไปวางแผนการบำบัดรักษาต่อไป ดังนี้
1) ประเมินการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตในแต่ละด้าน
- ประเมิน ADLs จากการสัมภาษณ์และขอให้ผู้รับบริการสาธิตให้ดู พบว่าผู้รับบริการสามารถทำกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐานได้เองทั้งหมด แต่ผู้รับบริการมีการรับประทานนมเป็นอาหารหลัก (รับประทานเวลา 8.00 น., 12.00 น., 16.00 น., 20.00 น.) ซึ่งอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร
- ประเมิน IADLs จากการสังเกต ผู้รับบริการช่วยตักและป้อนอาหารให้เพื่อน, จากการสัมภาษณ์ ผู้รับบริการทราบเวลาที่ต้องทานยา จำนวนยาที่ต้องทานในแต่ละมื้อ และสามารถทานยาได้เอง
- ประเมิน Rest and sleep จากการสัมภาษณ์ ผู้รับบริการสามารถนอนหลับได้ปกติ ไม่มีตื่นกลางดึก มีการใส่แพมเพิสก่อนนอน
- ประเมิน Leisure จากการสัมภาษณ์ ผู้รับบริการจะใช้เวลาว่างไปกับการดูโทรทัศน์ และพูดคุยกับเพื่อน
- ประเมิน Social participation จากการสัมภาษณ์ ญาติมาเยี่ยมผู้รับบริการเดือนละ 1 ครั้ง เนื่องจากญาติอาศัยอยู่ไกล, จากการสังเกต ผู้รับบริการชอบพูดคุยและมีการช่วยเหลือเพื่อน
2) ประเมินทักษะด้านการรับรู้ ความเข้าใจ (เนื่องจากผู้รับบริการเป็นผู้สูงอายุจึงอาจจะมีปัญหาในด้านนี้) โดยใช้หัวข้อในแบบคัดกรองทางกิจกรรมบำบัดสำหรับผู้สูงอายุ ผ่านการสัมภาษณ์และทดสอบ ได้ผลดังนี้
- Orientation ผู้รับบริการสามารถรับรู้ วันเวลา สถานที่ บุคคลได้
- Short term memory ผู้รับบริการจำได้ว่าตอนเช้ารับประทานอะไร ซึ่งนักศึกษาได้ทำการสอบถามผู้ดูแลอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
- Working memory ผู้รับบริการจำตัวเลขที่นักศึกษาให้จำได้และตอบได้ถูกต้อง
- Attention ผู้รับบริการมีความสนใจจดจ่อขณะพูดคุยและทำกิจกรรมกับนักศึกษา
- Naming ผู้รับบริการสามารถบอกชื่อสิ่งของที่นักศึกษาถามได้ถูกต้อง
- Calculation (20-3, 17-3, 14-3) ผู้รับบริการสามารถคำนวณตัวเลขได้ถูกต้องทั้งหมด
3) ประเมิน 2Q (เนื่องจากผู้รับบริการเป็นผู้สูงอายุ และอาศัยอยู่ที่บ้านพักผู้สูงอายุ ไม่ได้อาศัยอยู๋กับครอบครัว จึงอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า) แปลผลตามแบบประเมิน พบว่า ปกติ ไม่เป็นโรคซึมเศร้า
นักศึกษาเลือกกรอบอ้างอิงในการบำบัดรักษาทางกิจกรรมบำบัด ดังนี้
- ใช้ PEO model เพื่อวิเคราะห์ผู้รับบริการแบบองค์รวม มองอย่างรอบด้าน และใช้เป็นข้อมูลในการค้นหาปัญหาและให้การบำบัดรักษา
- ใช้กรอบอ้างอิง Teaching and Learning process เพื่อส่งเสริมให้ผู้รับบริการรับประทานอาหารเจชนิดอื่นที่มีสารอาหารครบถ้วน ไม่เพียงแต่รับประทานนมเป็นอาหารหลักในแต่ละมื้ออาหาร
Interactive reasoning
นักศึกษาใช้ therapeutic use of self ในการสนทนากับผู้รับบริการ มีการขออนุญาตพูดคุยกับผู้รับบริการก่อน สร้างสัมพันธภาพด้วยสีหน้าท่าทางเป็นมิตร ยิ้มแย้ม แจ่มใส ใช้น้ำเสียงอ่อนโยน พูดชัดเจน สร้างความคุ้นชินกับผู้รับบริการก่อนที่จะค่อย ๆ สอบถามข้อมูลกับผู้รับบริการ ใช้คำถามปลายเปิดประกอบ เพื่อช่วยให้เข้าใจผู้รับบริการ และมองเห็นข้อจำกัดต่าง ๆ ของผู้รับบริการได้มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบำบัดรักษา ตั้งใจรับฟังสิ่งที่ผู้รับบริการเล่า รวมทั้งให้กำลังใจและคำแนะนำแก่ผู้รับบริการ
Narrative reasoning
นักศึกษาได้ทำการพูดคุยกับผู้รับบริการ มีประโยคที่ผู้รับบริการพูด ซึ่งนำไปสู่การจัดกิจกรรมเพื่อการบำบัดรักษา ได้แก่
“เคยช่วยปรุงอาหารมาก่อนตอนทำงานที่วิทยาลัย”
“กินนมเป็นหลัก”
“มีคนเอาขนมมาให้กินก็กินได้ ใส่ฟันปลอมกิน”
“ทำอาหารได้ แต่ไม่รู้จะอร่อยรึเปล่า ขึ้นอยู่กับคนกิน”
จากคำกล่าวของผู้รับบริการ ทำให้นักศึกษาวางแผนจัดกิจกรรมทำอาหารให้แก่ผู้รับบริการเพื่อส่งเสริมให้ผู้รับบริการรับประทานอาหารเจที่มีสารอาหารครบถ้วน
Conditional reasoning
นักศึกษานำปัญหาที่พบมาวิเคราะห์และทำการเลือกกรอบอ้างอิง หรือโมเดล ดังนี้
- ใช้ PEO model เพื่อวิเคราะห์ผู้รับบริการแบบองค์รวม มองอย่างรอบด้าน และใช้เป็นข้อมูลในการค้นหาปัญหาและให้การบำบัดรักษา ร่วมกับกรอบอ้างอิงอื่น ๆ
Person - ผู้สูงอายุหญิง นั่งรถเข็น สามารถทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตได้ แต่มีการรับประทานนมเป็นอาหารหลักซึ่งมีสารอาหารน้อย
Environment - Physical - บ้านพักผู้สูงอายุคามิลเลียน ซึ่งผู้รับบริการอยู่อาศัยมา 5 ปี
- Social - เพื่อนผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ บุคลากรที่บ้านพัก ญาติที่มาเยี่ยม
Occupation - ผู้รับบริการสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง ในอดีตเคยทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไปที่วิทยาลัยทับแก้ว ทำหลายหน้าที่ เช่น ช่วยปรุงอาหาร ช่วยทำสวน
- จากการประเมินกิจวัตรประจำวัน ผู้รับบริการมีการรับประทานนมเป็นอาหารหลัก ซึ่งอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร นักศึกษาจึงเลือกใช้กรอบอ้างอิง Teaching and Learning process ; Technique : Health promotion and prevention, Education เพื่อส่งเสริมให้ผู้รับบริการรับประทานอาหารเจที่มีสารอาหารครบถ้วน และป้องกันภาวะขาดสารอาหารที่อาจเกิดขึ้น โดยจะอธิบายให้ผู้รับบริการทราบประโยชน์ของการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย พร้อมทั้งแนะนำอาหารเจที่มีสารอาหารครบถ้วนและทานง่ายให้ผู้รับบริการ เช่น ซุปกะหล่ำปลีเห็ดหอมเจ เต้าหู้กับผักใบเขียว ผลไม้ชนิดต่าง ๆ นักศึกษาชวนผู้รับบริการทำและทานอาหาร แนะนำให้ผู้รับบริการรับประทานอาหารเจที่มีสารอาหารครบถ้วนอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งบอกผู้ดูแลให้ค่อย ๆ เปลี่ยนจากนมเป็นอาหารเจที่หลากหลาย ทานง่ายให้ผู้รับบริการแทน และติดตามผลจากผู้ดูแล
Pragmatic reasoning
นักศึกษาได้ทำการประเมินผู้รับบริการ แล้วนำมาปรึกษากับอาจารย์กิจกรรมบำบัดซึ่งเป็นผู้ที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์มากกว่า ได้ข้อสรุปว่าผู้รับบริการมีลักษณะการรับประทานอาหารหลักที่มีสารอาหารน้อย จึงเน้นไปที่การส่งเสริม สร้างเสริมสุขภาพของผู้รับบริการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร นักศึกษาจึงได้จัดกิจกรรมให้ผู้รับบริการทำอาหาร ได้แก่ สุกี้โรล และให้ผู้รับบริการทานอาหารที่ตนเองทำ แล้วแนะนำและส่งเสริมให้ผู้รับบริการรับประทานอาหารเจที่มีสารอาหารครบถ้วน รวมทั้งบอกผู้ดูแลให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนอาหารให้ผู้รับบริการ
Ethical reasoning
- นักศึกษามีการระมัดระวังความปลอดภัยของผู้รับบริการขณะทำการประเมิน และให้กิจกรรมในการบำบัดรักษา
- นักศึกษามีการสร้างสัมพันธภาพให้ผู้รับบริการไว้วางใจ มีการรับฟังอย่างตั้งใจ เพื่อค้นหาปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการ (ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ 2 ในมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะสาขากิจกรรมบำบัด)
- นักศึกษามีการบันทึกข้อมูล ปัญหา แผนการให้บริการ การปฏิบัติตามแผนและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นของผู้รับบริการ (ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ 4 ในมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะสาขากิจกรรมบำบัด)
SOAP NOTE ครั้งที่ 1 7 ต.ค. 2563
S : pt. f-male 92 y., short and white hair, use w/c for mobility b/c she has old age and easy to movement
O : ADLs assess from interviewing and pt. doing = indep., 2Q test = pt. hasn’t depression
A : pt. drinks milk every meal that risk malnutrition
P : OTS will cooking food with pt., OTS will promote pt. eats food that have more nutrition
SOAP NOTE ครั้งที่ 2 28 ต.ค. 2563
S : pt. f-male 92 y., smile and nice to see OTS, use w/c for mobility b/c she has old age and easy to movement
O : pt. interests cooking with OTS, pt. knows the name of ingredient that use in activity, pt. can cut and shred ingredient
A : pt. can’t remember sequence of cooking, she often asks OTS
P : OTS will assess MMSE test, OTS will promote cognitive skills by used activity that pt. interested
Story telling
เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีกรณีศึกษาเดี่ยว ซึ่งได้ไปที่บ้านผู้สูงอายุคามิลเลียน 2 ครั้ง โดยครั้งที่หนึ่งได้ไปทำการประเมินกรณีศึกษา ซึ่งฉันรู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากอาจารย์ไม่ได้บอกลักษณะของกรณีศึกษาไว้ก่อน จึงต้องมีการเตรียมแบบประเมินที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ และเตรียมตัวไปพอสมควร พอไปถึงก็ได้เจอกับข้อจำกัดต่าง ๆ หน้างาน ทำให้ต้องมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น กิจวัตรประจำวันบางอย่างกรณีศึกษายังไม่สามารถแสดงศักยภาพให้ดู ณ ขณะนั้นได้ จึงใช้เป็นการสอบถามจากกรณีศึกษาและผู้ดูแลเพิ่มเติม แล้วนำกลับมาคิดวิธีการจัดกิจกรรมที่เหมาะกับกรณีศึกษานี้ร่วมกับอาจารย์กิจกรรมบำบัด เมื่อไปครั้งที่สองจึงได้ให้กิจกรรมทำอาหารแก่ผู้รับบริการ ซึ่งผู้รับบริการอยากทำ และสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว หลังจากนั้นฉันก็ได้นำกรณีศึกษานี้มาพูดคุยกับอาจารย์ในรายวิชาการให้เหตุผลทางคลินิกอีกครั้ง ทำให้มองผู้รับบริการได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยใช้เหตุผลมาจับประเด็นความสำคัญ และตระหนักได้ว่าเราควรประเมินให้ครอบคลุมในปัญหานั้น ๆ เพราะการที่เราทำการประเมินมาไม่ครบถ้วนอาจทำให้เราวิเคราะห์ปัญหาที่แท้จริงออกมาได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร โดยการที่เราจะทำสิ่งใดกับผู้รับบริการเราควรมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเสมอ และมองผู้รับบริการในหลายมิติ ซึ่งฉันจะนำคำแนะนำ และความรู้ที่ได้รับเพิ่มเติมจากอาจารย์ไปพัฒนาตัวเองต่อไป
references
1. https://www.phoubon.in.th/download/icd10tmSim.pdf
2. https://www.cozxy.com/read-our...
3. https://hd.co.th/benefit-of-ea...
4. http://ot.ams.cmu.ac.th/ckfinder/userfiles/files/OT%20Standard.pdf
ไม่มีความเห็น