การรู้จักใช้สติ วาจาและความรับผิดขอบจะทำให้เรื่องร้ายกลับกลายเป็นดีได้


ถ้าในวันนั้นบุคลากรขาดความรับผิดชอบ และท่านผู้อำนวยการก็ตัดสินใจผิดพลาดขาดความรักความศรัทธาจากชาวบ้าน สื่อสารกันไม่เข้าใจตรงกัน ข้อมูลไม่ชัดเจน ไม่มีสติหรือคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเหตุการณ์นี้คงไม่จบลงง่ายๆได้ และมีดแกะสลักคงจะเป็นมีดปักอกท่านผอ. ไปจนตลอดชีวิต

การรู้จักใช้สติ วาจา และความรับผิดขอบ

จะทำให้เรื่องร้ายกลับกลายเป็นดีได้

ดร. ถวิล  อรัญเวศ

    สติ การระลึกได้ และระลึกดี ระลึกชอบ การใช้คำพูด พูดจาอย่างนิ่มนวล และการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ จะทำให้เรื่องร้ายกลาย
เป็นดีได้ โดยเฉพาะเวลาเกิดเหตุการณ์วิกฤติในชีวิต ปัญหาจะผ่านพ้นไปด้วยดีนั้น เราจำต้อง มีความสุขุมรอบคอบ ไม่ผลีผลาม ไม่ใช้อารมณ์หรือการปะทะแบบใช้อารมณ์รุนแรง หรือพูดจาขวัญผ่าซาก เพราะแทนที่เหตุการณ์จะดีก็อาจจะบานปลายได้ถ้าไม่มีสติคิดให้รอบคอบและมีความรอบคอบ

    สิ่งสำคัญถ้าเจอเหตุการณ์คับขัน สถานการณ์วิกฤติชีวิต ที่ควร

จะมีไว้ คือ สติ คิดให้รอบคอบ  การพูดจา ไม่ใช้อารมณ์ พูดแบบ

ฟังสบายหู สัมมาคารวะ และแสดงความรับผิดชอบไว้ก่อน จะรับผิดชอบ

มากน้อยเพียงใด เอาไว้ที่หลังค่อยคุยกัน จะทำให้เรื่องที่เราคิดว่าร้ายแรง

อาจกลับกลายเป็นดีได้ เพราะสังคมเรา ยังพอมีคนมีคุณธรรม ที่พอจะ

อภัย อโหสิกรรมให้เราได้อยู่เราต้องมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน เพราะ

อุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก แต่เมื่อมันเกิดแล้ว จำต้อง คุยกัน

แสดงความเห็นอกเห็นใจ กราบขอโทษขออภัยในเหตุการณ์ที่เราไม่ได้

จงใจ ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิด

        ผู้เขียนเองเคยได้รับการบอกเล่าเรื่องประทับใจจากการที่ผู้บริหาร

ด้วยกันท่านหนึ่งสมัยไปเรียนวิชาชีพบริหารการศึกษาได้แก้ปัญหาให้กับ

คุณครูที่ผู้ปกครองจะเอาเรื่องกับครูและโรงเรียน แต่ในที่สุดด้วยการใช้วิธีการที่นิ่มนวลมีสติรอบคอบ และมีความรับผิดชอบ ก็สามารถแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไปด้วยดี
        สำหรับเรื่องที่เป็นกรณีศึกษานั้น มีอยู่ว่า

        เช้าวันหนึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว  เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา

(2551) สายลมเย็นพัดกอไผ่ริมรั้วโรงเรียนให้ไหวเอนไปมา อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว

         “ท่านรองครับ วันนี้ผมได้รับแจ้งจากหน่วยเหนือให้ไปประชุมสัมมนาคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่โคราชนะ”

ผอ.ท่านที่บอกเล่าพูด

         จากนั้น ท่าน ผอ.ก็หิ้วกระเป๋าเอกสารเดินไปขึ้นรถส่วนตัวที่

จอดอยู่ใต้ต้นหูกวาง มุ่งสู่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อเข้าประชุมสัมมนา

คณะกรรมการสถานศึกษาที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด

       บรรยากาศการประชุมก็เป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากมีผู้เข้าประชุมเป็นจำนวนมาก 

       พอเริ่มประชุมผ่านไปประมาณ  2 ชั่วโมง   เสียงโทรศัพท์มือถือที่เหน็บอยู่ข้างเอวของท่าน ผอ.ก็ดังขึ้น 

       ท่าน ผอ.กดรับโทรศัพท์ด้วยความแปลกใจเพราะปกติเวลาประชุม

จะไม่เคยได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้นอย่างนี้

       “ผอ.ครับ  เด็กนักเรียนชั้น ป.4  แทงกันครับ” ครูพูด

       ผอ.ถามกลับไปยังเจ้าของเสียงด้วยคำพูดสั่นเครือและตกใจ

       อะไรนะ! ลองพูดชัดๆอีกทีซิ ...

       “นักเรียนชั้นป.4 หยอกล้อกันขณะเรียนแกะสลักผลไม้ มีดเลยไปโดนด้านหลังเป็นแผล  ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ   ผมนำนักเรียนส่งโรงพยาบาลแล้ว หมอก็เย็บบาดแผลเรียบร้อยแล้วและบอกให้กลับบ้านได้

        แต่ว่าผู้ปกครองนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ยอมครับ จะไปแจ้งความท่าเดียวครับ ผมจึงขอร้องให้รอท่าน ผอ.ก่อน”   ครูตอบ ผอ.

        ผอ. ก็รีบเดินลงบันไดโรงแรมขับรถกลับโรงเรียนทันทีด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลและห่วงใยเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากมีด 

พร้อมกับภาวนาไปตลอดทางว่า ขออย่าให้เด็กเป็นอะไรเลยและขอให้ผู้ปกครองได้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเถอะ  ผอ.คิดในใจ  

         เมื่อถึงโรงเรียนท่าน ผอ.ก็พยายามตั้งใจให้มั่น มีสติ สัมปชัญญะ  นั่งคิดว่าจะทำอย่างไรดีนะ จะทำอะไรก่อนอะไรหลัง  นึกถึงหลักการบริหารที่ได้เล่าเรียนและอบรมมา  จะใช้เทคนิค ทฤษฎีอะไรใน

การแก้ปัญหาครั้งนี้ เพื่อจะไม่ให้มีผลกระทบต่อโรงเรียน และครู บุคลากรก็ไม่เสียขวัญกำลังใจในการทำงาน และผู้ปกครองก็เข้าใจและไม่ทะเลาะกัน

        ผอ. ใช้เวลานั่งคิดครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเดินทางเข้าไปพบผู้ปกครองเพื่อเยี่ยมนักเรียนและแสดงความเสียใจและยอมรับผิดทุกอย่างกับ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมยินดีที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดใน

การรักษาพยาบาลจนกว่านักเรียนจะหายเป็นปกติดี   

        ตอนแรกผู้ปกครอง จะไม่ยอมท่าเดียว จะไปแจ้งความอย่างเดียว  

        แต่เห็นว่า ท่าน ผอ.คนนี้เป็นคนดี ตั้งใจทำงานดีเสมอต้นเสมอปลาย  เสียสละเพื่อโรงเรียนและชาวบ้านก็ให้ความเคารพนับถือศรัทธา

จึงไม่ติดใจเอาความ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เนื่องจากเด็กนักเรียนคู่กรณีดังกล่าวเคยมีนิสัยก้าวร้าวชอบกลั่นแกล้ง

และทะเลาะกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นอยู่บ่อยๆ  

         ท่าน ผอ.จึงเรียกผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมาทำความเข้าใจกัน

โดยให้ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ให้ติดใจเอาความซึ่งกันและกัน

 แต่ขอให้ฝ่ายที่กระทำผิดได้ดูแลผู้บาดเจ็บบ้าง ทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจกันและกันและยอมรับด้วยดี

       เหตุการณ์นี้ ก็เป็นอุทาหรณ์ให้กับท่านผอ.คนนี้ได้เป็นอย่างดีชั่วชีวิตในการทำงาน   

        ถ้าในวันนั้นบุคลากรขาดความรับผิดชอบ และท่านผู้อำนวยการก็ตัดสินใจผิดพลาดขาดความรักความศรัทธาจากชาวบ้าน  สื่อสารกันไม่เข้าใจตรงกัน  ข้อมูลไม่ชัดเจน ไม่มีสติหรือคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเหตุการณ์นี้คงไม่จบลงง่ายๆได้ และมีดแกะสลักคงจะเป็นมีดปักอกท่านผอ. ไปจนตลอดชีวิต



แหล่งข้อมูล

https://goo.gl/TRtpkC

https://goo.gl/iPXTGm

หมายเลขบันทึก: 688851เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2021 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2021 17:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท