๑,๑๙๑ "ความเชื่อจะสร้างพลังได้..ในโรงเรียนเล็กๆ”


" เมื่ออายุมากขึ้น..ประสบการณ์ย่อมสะสมทับถมอยู่เต็มกายและใจ ผมจึงตั้งใจจะให้ความเชื่อเหล่านี้ อยู่กับผม ติดตัวไปจนกว่าจะเกษียณอายุราชการ จากนั้น..อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่เสียใจ เพราะถึงอย่างไร..ความเชื่อก็ไม่มีวันหมดอายุ..."

        ครั้งหนึ่งสมัยหนึ่ง..ผู้บริหารบางส่วน มองโรงเรียนขนาดเล็กด้วยสายตาแห่งความยุ่งยาก เต็มไปด้วยความขาดแคลนและยากลำบาก กาลต่อมา..ทุกสิ่งเปลี่ยนไป...

       ผู้บริหารรุ่นใหม่ ไฟแรง หันมามองโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ไม่มีให้เลือกแล้ว โรงเรียนเล็กๆที่เหลือจึงไม่ใช่ตัวเลือกสุดท้าย

       ปัจจุบัน..ทุกพื้นที่มีแต่โรงเรียนเล็กๆเต็มไปหมด จึงเป็นความเสี่ยงของคนที่อยู่และคนที่จะเข้ามา เมื่อรู้ว่าอนาคตอันใกล้ ผู้เป็นใหญ่ในกระทรวงฯจะทำให้โรงเรียนเล็กนั้นใหญ่ขึ้น

        เมื่อใหญ่โตแล้ว ก็จะไม่มีโรงเรียนเหลืออยู่ในชุมชนของหมู่บ้านอีกต่อไป

        ความเชื่อที่ผมเชื่อมาตลอด เกือบ ๑๕ ปี กำลังสั่นคลอนในความรู้สึก แต่ส่วนลึกก็ยังทำงานได้แบบไม่ต้องคาดหวัง..อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

        ความเชื่อแต่เดิมนั้น เชื่อว่า"เราจะเป็นได้จริงในทุกสิ่ง..ก็ต่อเมื่อเรามีความคิดและเชื่อว่าเราทำได้" เพราะความเชื่อจะสร้างพลังการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความเชื่อ ๕  ประการ ดังนี้

1. .Believe in "Giving"

    การเป็นผู้ให้อย่างไร้เงื่อนไขตอบแทน เชื่อว่า..ทุกความสุขบนความสำเร็จ นั้น เริ่มต้นจากรากฐาน..การเป็นผู้ให้ และพร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไร้เงื่อนไขตอบแทนคืน

          ผมจึงเลือกที่จะอยู่และพัฒนา ให้เวลาและให้โอกาสตัวเอง ในการขับเคลื่อนโรงเรียนเล็กๆ ให้ก้าวเดินอย่างไม่หยุดยั้ง..   

  

2. Believe in "Learnning "

       การเรียนรู้เพื่อเติบโตต่อเนื่อง เชื่อว่า...คนเราจะสามารถก้าวหน้าและเติบโตได้ ก็เพราะเราคือ..ผู้ที่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

          ผมกับโรงเรียนและชุมชน จึงเติบโตไปพร้อมๆกัน สร้างการเปลี่ยนแปลงจากการเปิดใจให้กว้าง เพื่อศึกษาและเรียนรู้ในทุกเรื่องราว..

๓. Believe in"Synergy "

        ความร่วมมือร่วมใจผนึกพลังเป็นหนึ่ง.เชื่อว่า..ไม่มีความสำเร็จใดๆ..ที่เกิดขึ้นมาได้จากคนเราเพียงผู้เดียว..โดยไม่มีผู้เกี่ยวข้องแต่ต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจผนึกกำลังกันเป็นหนึ่ง

          ผมได้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนกรรมการสถานศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน ผมไม่เคยทำงานอย่างโดดเดี่ยวเลย

๔.Believe in "Sharing "

         การใส่ใจพร้อมแบ่งปันด้วยความเอื้อเฟื้อ เชื่อว่า..คนเราไม่มีใครจะได้ทุกสิ่ง..จะเป็นทุกอย่างได้..และมีทุกสิ่งอย่างมั่นคงได้..โดยไม่รู้จักการแบ่งปันเอื้อเฟื้อมีน้ำใจต่อผู้อื่น

          หากผมใจแคบ หรือ “เค็มปี๋” รับรองจะไม่มีวันนี้แน่ ขอบคุณโรงเรียนหลังเล็กที่สอนให้ผมรู้จักที่จะเอื้อเฟื้อและแบ่งปันน้ำใจให้ผู้ร่วมงาน

๕.Believe in "Effort "

        ความเพียรพยายามมุมานะ ไม่ท้อถอย เชื่อว่า..ทุกสิ่งที่มีคุณค่านั้น ย่อมอยู่สูง จึงต้องใช้ความเพียรอย่างสม่ำเสมอ..ในทุกวันจึงจะคว้ามาได้

          ผมจึงล่วงทุกข์มาได้เพราะความเพียร มองเห็นและสัมผัสความสุขบ้างแล้ว เมื่อความสำเร็จเล็กๆน้อยๆทะยอยเข้ามา..อย่างไม่ขาดสาย

          เมื่ออายุมากขึ้น..ประสบการณ์ย่อมสะสมทับถมอยู่เต็มกายและใจ ผมจึงตั้งใจจะให้ความเชื่อเหล่านี้ อยู่กับผม ติดตัวไปจนกว่าจะเกษียณอายุราชการ จากนั้น..อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่เสียใจ เพราะถึงอย่างไร..ความเชื่อก็ไม่มีวันหมดอายุ...

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๕  กุมภาพันธ์  ๒๕๖๔

         

หมายเลขบันทึก: 688773เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2021 23:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2021 23:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท