นานมาแล้วเคยฟังนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ของประเทศพูดถึงการดำรงชีวิตอยู่ สิ่งมีชีวิตที่จะสูญพันธุ์เป็นลำดับท้ายๆ
หมายถึงหากเกิดอุบัติภัยต่างๆ ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถจะอาศัยอยู่บนโลกนี้ได้เลยสักสปีชีส์ สายพันธุ์ทรหดอดทนที่จะไปเป็นพวกหลังๆคือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวทั้งหลาย
พวกนี้กินง่ายอยู่ง่าย ระบบการทำงานของร่างกายไม่ซับซ้อน พัฒนาการน้อย จนสัตว์ชั้นสูงอย่างคนชอบดูหมิ่นเป็นแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ
ด้วยความที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงเซลล์เดียว ไม่ว่าจะกิน ขับถ่าย หรือแลกเปลี่ยนแก๊สจึงใช้วิธีการแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์โดยตรง เป็นต้น
นึกถึงต้นไม้ที่ปลูก แทบทุกชนิดจะซื้อพันธุ์มา เกรงจะได้ผลผลิตที่ไม่ดี ประกอบกับไม่มีความรู้และไม่เคยปลูกต้นไม้มาก่อน
แต่มีอยู่อย่าง..มะขามเทศ ซื้อจากตลาดมากินแล้วถูกใจ จึงเก็บเมล็ดมาทดลองเพาะแบบทิ้งๆขว้างๆ ไม่ค่อยได้เอาใจใส่
จนรากถึงกับทะลุถุงดำหยั่งลงดิน จึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีต้องนำไปขุดหลุมปลูก เผลอแผล็บเดียว โตเร็วมาก ได้ทั้งร่มเงาและออกดอกออกฝักมาให้ชิม
แม้ไม่หวานเท่า ขนาดเมล็ดก็ไม่ใหญ่เหมือนต้นฉบับ แต่เมื่อหักลบกลบหนี้กับที่ไม่ค่อยได้ดูแลตั้งแต่แรกแล้ว ต้องถือว่าสอบผ่าน ที่สำคัญมะขามเทศเป็นอีกประเภทที่กินง่ายอยู่ง่าย
หวนนึกถึงคำพูดของนักวิทยาศาสตร์ สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่เคยได้ยิน เปรียบเทียบกับมะขามเทศที่เราเห็น พร้อมมองในมุมกลับ
ประเภทกินยากอยู่ยากหรือเรื่องมากอย่างพวกเราๆนี่แหละ ที่จะไปก่อนหรือสูญพันธุ์เป็นลำดับแรกๆ หากโลกเกิดอะไรขึ้นมา
สังขารไม่เที่ยงแท้ ถ้ากินง่ายจะอยู่นานจริงๆครับ
การดำรงชีวิตอยู่ของคนเราที่สามารถสังเกตเห็นได้เอง ไม่พ้นวิถีวิวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเลยนะครับ
ขอบคุณอาจารย์ขจิตมากครับ