[review] รีวิว จอมโจรลูแปง Lupin (2021 part1 TV-seriee Netflix)

[review] รีวิว จอมโจรลูแปง Lupin (2021 part1 TV-seriee Netflix) จอมโจรลูแปง หนึ่งในวรรณกรรมอมตะของโลก เป็นเรื่องราวของโจรที่ฉลาดที่สุดจากฝรั่งเศส และไม่เคยถูกจับได้ แล้วถือว่าเป็นคู่ปรับคนสำคัญของ Sherlock Holmes จากฝั่งอังกฤษ เรื่องราวของเขาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่มาครั้งนี้ การตีความของลูแปงนั้นเปลี่ยนแปลงไป แล้วเมื่ออยู่ในมือการสร้างของ netflix ด้วยแล้ว เรื่องราวของลูแปงนั้นจะเข้มข้นและน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน เชิญติดตามรับชมรับฟังได้เลยครับ

ดูคลิปรีวิว จอมโจรลูแปงได้ที่นี่

ลูแปง เปิดเรื่องในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ยามค่ำคืนได้มีกลุ่มพนักงานทำความสะอาดเข้าไปจัดการดูแลภายในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งในขณะนั้นมีการจัดนิทรรศการสร้อยประดับเพชรของพระนางมาเรีย แองโตเน็ต พระราชินีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ของฝรั่งเศส ซึ่งสร้อยคอเส้นนี้ได้หายไปถึง 25 ปี แล้วเมื่อมันกลับมา สร้อยเพชรจะถูกประมูลในราคาเริ่มต้น 20 ล้านยูโร ในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์นั่นเอง

แต่แล้วในวันประมูลก็เกิดเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นคือ มีชายหนุ่มชื่อว่า พอล แซร์นีน ได้ประมูลสร้อยเพชรเส้นนี้ในราคา 60 ล้านยูโร ระหว่างการตรวจสอบและส่งมอบสร้อยเพชรนั้น เกิดเหตุการณ์ชิงสร้อยเพชรเกิดขึ้น

แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเหตุการณ์บังหน้า เพราะ พอล แซร์นีน ไม่ใช่เป็นตัวตนที่แท้จริง แต่เป็นฮัสซาน ปลอมตัวมา การปล้นก็คือการวางแผนทั้งหมดของเขา อันเนื่องมาจากเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เพื่อคืนความยุติธรรมกับครอบครัวของเขา ครั้งนั้นนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมอันเลวร้าย ทำให้ฮัสซานต้องหาทางแก้แค้นและสะสางบัญชีโดยการขโมยสร้อยเพชรเส้นนี้

ฮัสซาน เขาเกิดในครอบครัวเซเนกัล แล้วเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศฝรั่งเศสกับพ่อของเขา พ่อเขาขับรถให้กับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่รายหนึ่ง ที่ทำธุรกิจส่งออก ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ มีอิทธิพลมากในประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นเจ้าของสร้อยเพชรของพระราชินีด้วย แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้แจ้งความว่าสร้อยเพชรเส้นนี้ถูกขโมยไป แล้วก็โยนความผิดให้กับพ่อของฮัสซานว่าเป็นผู้ขโมย พ่อของฮัสซานจึงถูกจับตัวไปอยู่ในเรือนจำ ถูกบังคับให้เซ็นคำสารภาพ เพื่อหวังว่าจะถูกปล่อยตัวมาเร็วได้มาดูแลลูกชาย ซึ่งขณะนั้นฮัสซานเองมีอายุเพียงแค่ 14 ปี แต่ก็เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นพ่อของฮัสซานฆ่าตัวตายในคุกซะก่อน

ตำรวจสืบเรื่องราวการปล้นสร้อยเพชร ก็พบว่ารูปแบบของการปล้นสร้อยเพชรนั้น มีความคล้ายคลึงกับพฤติกรรมของจอมโจรที่โด่งดังที่สุดในโลกวรรณกรรมเรื่อง อาร์แซน ลูแปง แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่มีความคล้ายคลึงกันนั้นก็เพราะ พ่อของฮัสซาน ให้เขาอ่านหนังสือเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก และเมื่อเขาโตขึ้นก็มี อาร์แซน ลูแปงเป็นต้นแบบ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะมีการวางแผนที่แนบเนียน มือของเขาไวมาก เขาสามารถแปลงโฉมได้ทุกรูปแบบ และก็ไม่เคยถูกใครจับได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการวางแผนปล้นสร้อยเพชรพระราชินีนั้นมันจึงแนบเนียน แล้วที่สำคัญการปล้นสร้อยเพชรนั้นไม่ใช่เป็นเพราะเขาอยากได้ แต่เขาต้องการแก้แค้นมหาเศรษฐีคนนั้นแล้วคืนความยุติธรรมให้กับพ่อ

แต่มันไม่จบเพียงแค่การปล้นเท่านั้น เพราะสร้อยเพชรปล้นมาได้กลับกลายเป็นว่าสร้อยเพชรปลอม มันก็ยิ่งสร้างความสงสัยให้กับฮัสซานว่า หากเป็นสร้อยเพชรปลอม แล้วสร้อยเพชรของจริงนั้นอยู่ที่ไหน และเพราะเหตุใดมหาเศรษฐีผู้นั้นจึงต้องใส่ความพ่อของเขาว่าเป็นผู้ขโมย

ต่อจากนี้เป็นต้นไป ลูเปง จะนำคุณเข้าสู่โลกแห่งอาชญากรรม การวางแผน การสืบสวนสอบสวน และการสืบหาความจริง หนังจะมีวิธีการเล่าเรื่องถึงความสามารถของ ฮัสซาน ผู้ที่ดำเนินตามจอมโจรอาร์แซน ลูแปงอย่างไร แล้วเขาจะสามารถคืนความยุติธรรมให้กับพ่อเขาได้หรือไม่ สามารถติดตามรับชมได้ทาง Netflix

Lupin เวอร์ชั่นนี้ได้นำเรื่องราวการโจรกรรม สร้อยเพชรสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตอนหนึ่งจาก The Queen’s Necklace: The Arsène Lupin วรรณกรรมของ มอริส เลอบล็อง มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของพล๊อตเรื่อง จากนั้นก็เพิ่มเรื่องราวชีวิตของฮัสซาน ชายหนุ่มชาวเซเนกัล ที่ต้องการจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับข้อของเขา ที่ต้องมาฆ่าตัวตายด้วยคดีการขโมยสร้อยเพชร เล่าถึงวิธีการและกระบวนการสืบสวนสอบสวนหาความจริงเพื่อการแก้แค้น และเล่าเรื่องราวชีวิตของครอบครัวไม่สมบูรณ์ของเขาไปพร้อม ๆ กัน

หากคุณชอบดูภาพยนตร์ที่มีบทฉลาดฉลาดมีการวางแผนที่แยบยล ซึ่งหากจะให้ผมคิดเร็ว ๆ ตอนนี้ก็คิดออกเพียง 2 เรื่องก็คือ ซีรีส์ Prison Break ว่าด้วยเรื่องราวของน้องชายที่มีการวางแผนอย่างแยบยลเพื่อเข้าไปช่วยพาพี่ชายหลบหนีจากเรือนจำแห่งหนึ่ง และจัดรวาลหนัง Ocean เป็นหนังรวมดาราฮอลลีวูดอันดับต้น ๆเกี่ยวกับการวางแผนปล้นที่แนบเนียน มีบทที่ฉลสดสุดเรื่องหนึ่งของวงการก็ว่าได้ ดังนั้นหากนำมาเปรียบเทียบกับซีรีส์เรื่องลูแปแล้ว บอกเลยว่าสู้สองเรื่องที่กล่าวมาไม่ได้เลยครับ ถึงแม้ว่าเธอเป็นซีรีส์แนวบทฉลาด แต่เขาก็ไม่ได้ใส่มามากจนเกินไปนัก แต่ทุกครั้งที่มีก็ทำให้เรารู้สึก Wow ได้ไม่น้อย

เอาเท่าที่ผมรู้สึกก็คือ หลายจุดมีช่องโหว่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องการปลอมตัวนั้น ค่อนข้างที่จะไม่แนบเนียน แล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนจำหน้าเขาได้ เพราะในซีรีส์ทำให้เห็นเลยว่า เขาแทบจะไม่ได้ปลอมตัวอะไรมากนัก เพียงแค่ใส่แว่นหรือใส่เสื้อที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่ในเนื้อเรื่องกลับบอกว่าไม่มีใครจำหน้าเขาได้เลย

พฤติกรรมของตัวละครเอกนั้น เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการวางแผนที่แยบยลและมีความฉลาด ซึ่งคนที่จะวางแผนแบบนี้ได้ก็ต้องเป็นคนที่ฉลาดมาก ไม่ควรที่จะพลาดอะไรง่าย ๆ แต่ในเรื่องนี้มีหลายจุดที่เรามองแล้วกลับรู้สึกว่า ปล่อยให้เรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักข่าวสาวรุ่นใหญ่ที่เขาไปขอความน่าช่วยเหลือ หรือเหตุการณ์ในช่วงท้ายของเรื่อง

แต่ที่หน้ารู้สึกรำคาญใจก็คือความไม่สูสีกันระหว่างตำรวจกับฮัสซาน ที่ทางตำรวจไม่สามารถทำอะไรทันเกมได้เลย มันแทบไม่มีความสูสีอะไรเลย แล้วก็เป็นไปตามสูตรที่ว่าแม้จะมีตำรวจหนึ่งนายสามารถพอที่เดาทางเชื่อมโยงบางอย่างออกมาได้ แต่ตำรวจทุกนายก็ไม่มีใครเชื่อ แน่ละใครมันจะไปเชื่อว่า ในโลกแห่งความเป็นจริง จะมีโจรคนหนึ่งเลียนแบบตัวละครในนิยาย

แล้วที่รู้สึกขัดใจอีกเล็กน้อยก็คือ ทุกครั้งอัสซานหลบหนีเจ้าหน้าที่มันง่าย ๆ เกินไป แก้ไขสถานการณ์ง่ายเกินไป แต่หากเราลองมองภาพรวมกลับไปแล้ว ในจุดที่เขาทำผิดพลาดนั้น มันดูแล้วก็จะย้อนแย้งในหลายประเด็น

ในที่นี้อาจจะพอเข้าใจได้ว่า แน่ล่ะถ้าหากซีรีส์ทำให้ตัวละครเอกของเรื่องมีความฉลาดเกินไป มันก็จะไม่สนุก มันก็จะไม่มีการชิงไหวชิงพริบกัน แต่ผมรู้สึกว่ามันมีช่องโหว่เกินไปไหนเท่านั้นเอง

ซีรีส์มีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างดี มีการเล่าเหตุการณ์ในปัจจุบันในปี 2020 ไม่ว่าจะเป็นวิธีการวางแผนของตัวละครเอก รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ ที่ลงมือทำ การไปสืบหาข้อมูลกับใคร หรือแม้กระทั่งเล่าเรื่องราวส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขาในปัจจุบันนั้น ก็จะเล่าเรื่องคู่ขนานกับเหตุการณ์ในอดีตในปี 1995 ไปพร้อมกันด้วย ในจุดนี้ผมว่าเขาสามารถปรับความสมดุลได้ดี ดูแล้วไม่น่าเบื่อหรือขัดจังหวะจนเกินไปนัก ยิ่งเราดูเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตของฮัสซาน ก็ยิ่งสร้างความผูกพันระหว่างเรากับตัวละครตัวนี้มากยิ่งขึ้นทำให้เราเอาใจช่วยเดี๋ยวนี้มากยิ่งขึ้น

ลูแปง มีการเล่าเรื่องที่เร็ว และค่อนข้างกระชับ ซึ่งในภาคที่ 1 นี้มีเพียง 5 ตอนเท่านั้น เป็น 5 ตอนที่ดูแล้วรู้สึกไม่น่าเบื่อเลย แต่ละตอนทำให้เราเห็นเป็นการวางแผนที่ชาญฉลาด มีการดำเนินไปตามแผน แต่ก็มีบ่อยครั้งบ้างที่ผิดแผน ซึ่งก็เป็นการแสดงความจริงไปตามอัตวิสัยของโลกมนุษย์ใบนี้ก็คือไม่มีอะไรที่เป็นไปตามอย่างที่เราหวังเสมอ ดังนั้นความสนุกของลูแปงก็อยู่ตรงที่ว่า เขาจะแก้ไขสถานการณ์ที่มันเกิดการผิดแผนนั้นได้อย่างไร

หัวใจสำคัญที่สุดของเรื่องของ ลูแปง ก็คือ เป็นการเรียกร้องความยุติธรรมคืนมา เป็นการตั้งคำถามกลับไปว่า เราจะต่อกลอนกับผู้ที่มีอำนาจล้นฟ้า ผู้สามารถควบคุมทุกอย่างได้ แม้กระทั่งสามารถควบคุมกฎหมาย ควบคุมสื่อได้อย่างไร ซึ่งก็แน่นอนว่าหากใช้วิธีการแบบปกติมันคงไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราต้องการจะสู้กับโจร ก็ต้องใช้โจรต่อสู้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววิธีการแบบนี้เป็นวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ ท่านผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสินครับ

ส่วนเรื่องในการแสดงนั้น สำหรับผมมองว่าตัวละครเอกที่รับบทเป็นอัสซานเล่นได้ดี เป็นการตีความว่าเขานั้นเลียนแบบการใช้ชีวิตและวิธีการปล้นมากจาก อาร์แซน ลูแปง ถึงแม้อัสซานจะเป็นโจร แต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษจอมโจร เหมือนกับลูแปงด้วย ส่วนการที่เขาเป็นนักแสดงผิวดำได้มารับบทลูแปงนั้น บอกตามตรงว่าผมไม่รู้สึกขัดอะไรเลย เขามีฝีมือการแสดงที่ดีมาก ทุกอย่างมันออกมาทางสีหน้าแววตาอากัปกิริยาของร่างกายแบบพอดิบพอดีเลยครับ

กล่าวโดยสรุป จอมโจรลูแปง Lupin (2021 TV-seriee Netflix) แม้จะมีช่องโหว่อยู่บ้างเล็กน้อย แต่ด้วยบทที่ชาญฉลาดและวิธีการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมนั้น ก็ทำให้จอมโจรลูแปงเวอร์ชั่นนี้ สามารถทำให้เราดูได้แบบ 5 ตอนรวดแบบไม่เสียดายเวลา แล้วก็ตั้งตารอชมภาค 2 เป็นอย่างยิ่ง เพราะซีรีส์ได้ทิ้งท้ายตอนจบไว้น่าติดตามเหลือเกิน

7.5/10

วาทิน ศานติ์ สันติ

#SuperReviewChannel

#Lupin2021 #จอมโจรลูแปง2021

#TVSeries #NetflixOriginal

#รีวิวจอมโจรลูแปง #รีวิวLupin

#สปอยจอมโจรลูแปง #สปอยซีรีส์ลูแปง