มาตานุสติ : จิตสุดท้ายของแม่


แม้ตัวจะตาย แต่จิตสุดท้ายของแม่จะกลับไปหาลูกให้ได้ในที่สุด

ชื่อเรื่อง : มาตานุสติ
ผู้แต่ง : แดนอรัญ แสงทอง
จำนวนหน้า : ๒๒๓

เรื่องราวของผู้หญิงวัยสามสิบห้าที่แบกรับคำว่า ‘แม่’ มาตั้งแต่อายุยี่สิบ เป็นแม่คนที่มีความรักและความหวังในตัวลูกสาว ทั้งยังเป็นแม่ที่มีความต้องการปกป้องลูกด้วยจิตใจอันแรงกล้าเสมอ และในสายตาของลูกสาววัยสิบห้า เธอก็มองว่าแม่ของเธอนั้นเป็นแม่ที่ไม่ย่อท้อ ไม่เคยยอมแพ้แม้จะรู้ว่าตนนั้นต่ำด้ออยวาสนาเพียงไร ชีวิตคนหาเช้ากินค่ำที่มีแต่ความลำบากของสองแม่ลูกนั้นทำให้ทั้งสองมีความฝันที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง
สองแม่ลูกย้ายข้าวของไปอยู่บ้านสองชั้นเก่าแก่ทรุดโทรมกลางทุ่งเปลี่ยว เพื่อนบ้านใกล้ที่สุดอยู่ห่างไปเกือบสามกิโลเมตร ในคืนแรกนั้นฝนตกหนัก ฟ้าคำราม ลมกรรโชก ไฟฟ้าก็ยังไม่มีใช้ด้วยยังไม่ได้ไปติดต่อทางการ ในคืนแรกนั้นมีเสียงผิดปกติบ่งบอกการบุกรุกจากชั้นล่าง แม่จึงถือมีดลงไปดูและสั่งลูกสาวว่า อย่าเปิดไฟฉาย อย่าจุดเทียน อย่าเคลื่อนไหว อย่าส่งเสียงเป็นอันขาด "แม่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้"
เด็กหญิงจิตใจเปราะบางที่ต้องรอแม่อยู่เดียวดายในความมืดท่ามกลางพายุฝน ขณะเงี่ยหูฟังสรรพเสียงต่างๆ จากชั้นล่าง จิตใจของเธอมีแต่ความหวาดกลัว ความกลัวนั้นมีอำนาจทำให้เธอจินตนาการไปต่างๆ นานา ผู้บุกรุกนั้นจะเป็นสัตว์ร้าย หรือเป็นคน หรือเป็นภูตผีปีศาจที่เธอเคยพานพบ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เธอกับแม่ต้องย้ายบ้านอยู่บ่อยครั้ง
เธอนึกย้อนไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เธอกับแม่ได้พานพบ แม่พยายามทำทุกวิถีทางที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางอโคจรเพื่อเธอ ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาดเพียงใด แต่กระนั้นแม่ก็พยายามทำให้เธอกับแม่ขึ้นมาอยู่ในสังคมได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็น "คน" อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าในความเป็นจริงจะเป็นได้แค่พลเมืองชั้นล่างก็ตาม
เรื่องราวจบลงที่เด็กหญิงที่สติกำลังเตลิด นั่งรอแม่ด้วยความกังวลและความกลัวว่าแม่จะเป็นอันตราย เสียงการต่อสู้กันระหว่างแม่กับผู้บุกรุก และเสียงกรีดร้องของแม่ดังแข่งกับเสียงฝนขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน หลังจากเสียงร้องของแม่เงียบไป ความกังวลและความกลัวของเด็กหญิงก็ยิ่งมากขึ้น ๆ เงาดำของแม่ที่เดินโซเซขึ้นบันไดมุ่งตรงมาหาเธอ เธอกอดแม่ด้วยความดีใจที่แม่กลับมาหาเธอตามคำที่แม่พูดไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้บุกรุกได้ฆ่าแม่โดยใช้มีดฟันคอจนแม่หมดลมหายใจไปตั้งแต่สิ้นเสียงกรีดร้องแล้ว

ในสังคมที่ผู้คนเอาแต่กดขี่ข่มเหงกัน ผู้น้อยต้องเป็นเหยื่อของผู้มากมีร่ำรวย ผู้มีความรู้หลักแหลมใช้ความรู้เพื่อทำร้ายคนอื่น วรรณกรรมเรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดแก่ผู้อ่านว่า หากเรากระทำการใดให้ผู้อื่นต้องทุกข์ทรมานกายและใจมากเพียงใด เราก็จะได้รับความทุกข์ทรมานมากกว่าหลายเท่า ดังนั้นการจะอยู่ร่วมกันในสัมคมที่เริ่มเสื่อมในด้านจริยธรรมให้มีความสุขขึ้นนั้น คนในสังคมต้องรู้จักสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน

มาตานุสติ เป็นวรรณกรรมที่สะท้อนให้เห็นด้านโสมมในสังคม ทั้งความเป็นอยู่ของหมู่บ้านที่มีแต่หญิงอาชีพโสเภนี หมู่บ้านที่มีแต่อันธพาล ขี้เหล้า ขี้ยา ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหา ผู้เยาว์ถูกทารุณกรรมทางเพศ สะท้อนให้เห็นชีวิต “ปากกัดตีนถีบ” ของคนหาเช้ากินค่ำ และสะท้อนให้เห็นแง่มุมของความรักของแม่ ที่ทำได้ทุกอย่างต่อสู้ได้กับทุกสิ่งเพื่อลูก

‘มาตานุสติ’ ไม่ใช่วรรณกรรมสะท้อนสภาพสังคมหรือชะตากรรมของคนเล็ก ๆ เพียงด้านเดียว หากแต่ยังแฝงไว้ด้วยคำถามให้เราต้องขบคิดใคร่ครวญกันต่อ ว่าจะทำเช่นไรเพื่อไม่ให้เรื่องราวเลวร้ายเกิดขึ้นอีกกับครอบครัวใด และผู้เขียนมีการนำเรื่องระทึกขวัญมาแทรกกับอารมณ์โศกเศร้า ถึงแม้จะดูไม่เข้ากันแต่เมื่ออ่านแล้วทำให้สนุกและหวาดกลัวในคราเดียวกัน

“แม่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้” เป็นประโยคที่ตัวละคร ‘แม่’ พูดกับลูกทุกครั้งที่ต้องห่างกัน และในทุก ๆ ครั้งแม่ก็จะกลับมาตามที่บอก กระทั้งถึงโอกาสสุดท้ายของชีวิตถึงแม้ตัวจะตายแต่จิตสุดท้ายของแม่ก็จะกลับไปหาลูกให้ได้ในที่สุด

หมายเลขบันทึก: 687742เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2020 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2020 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท