เมตตาธรรม...ค้ำจุนโลก


หลายคนพร่ำบ่นว่าโลกนี้ช่างโหดร้าย โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน 

เคยถามตัวเองไหม ว่าจริงมั้ย กับความคิดนี้ 

เคยได้ยินคำกล่าวนี้ไหม "โลกภายนอกที่เราเห็น สะท้อนโลกภายในที่เราเป็น"

โลกก็เป็นไปเช่นนั้นเองแหละ เป็นธรรมดาของโลก

+

ฉันนึกถึงอีกประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาและจำมาไว้ใช้ในใจ

"ไม่สำคัญว่าอะไรเกิดขึ้นกับเราแต่สำคัญที่ใจเราตอบสนองต่อโลกใบนี้อย่างไร?"

เห็นความคิดต่อไปอีกประโยค

❤

เมตตาธรรม...ค้ำจุนโลก

❤

เป็นประโยคที่ฉันเคยได้ยินมาตั้งแต่สมัยวัยเรียน ได้ยินบ่อย แต่ไม่ค่อยรู้สึกถึงใจเท่าไหร่ในช่วงต้นของชีวิต ฉันไม่อินกับความเมตตา เพราะคิดว่ามันคือความอ่อนแอ ที่ไม่สามารถช่วยให้ฉันอยู่รอดบนโลกนี้ได้  แต่ก็ไม่ถึงกับต่อต้าน แต่ไม่รับคุณธรรมนี้มาใส่ใจนัก ก็คิดว่าดีนะ แต่ไม่ได้เข้าถึงขั้วหัวใจ วันเวลาผ่านไป ผ่านการเรียนรู้โลกภายนอกจนเกือบถึงวัยชรา ถึงได้รู้ว่า ข้อความที่เคยได้ยิน ได้รับการสอนมานี้ มันจริง

เมตตาธรรม...ค้ำจุนโลก ใครนะ ช่างคิดคำ ฉันรู้สึกประทับใจ ชื่นชมและได้รับประสบการณ์ที่ดีต่อใจจริงเช่นนี้ เมื่อฉันมี "เมตตา" มันช่วยค้ำจุนโลกภายในของฉันได้ และยังสามารถค้ำจุนโลกภายนอกได้ด้วยตามกำลังของฉัน

ในบางขณะที่ฉันสั่นไหว เกิดอาการไม่มั่นคงภายใน ใจสะเทือน เจ็บใจ ทุกข์ใจ นั่นเพราะฉันเผลอลืมความเมตตา แล้วคว้า อัตตา มาใส่ไว้ในใจ เมื่อเห็น เช่นนี้ ฉันจะเรียกประชุมภายในกับตัวเอง เตือนตัวเอง "พฤติกรรม/เหตุการณ์ที่เราเห็น อาจไม่ใช่ความจริงที่เป็นก็ได้" มันอาจเป็นเพียงการตัดสินตีความของเราในมุมของเรา ตามชุดความเชื่อประสบการณ์ของเรา 

บางคนทำเรื่องบางเรื่องเหมือนไร้เหตุผล แต่เขาก็มีเหตุผลของเขา ที่เราแค่ไม่รู้ ยังไม่เข้าใจ เราไม่รู้ว่าลึกลงไปเขาทำไปเพื่ออะไร เพราะอะไร แต่ลึกสุดใจแล้วเขาล้วนปรารถนาความสุขและมีความดีงามเช่นเรา แน่นอนสิ่งที่เขาทำส่งผลต่อเราก็จริง แต่เราสามารถเลือกตอบสนองกลับได้ด้วยเมตตา 

ไม่ใช่เพื่อเขาหรอกแต่เพื่อตัวเราเอง

รถถูกชน ถูกกรีด ถูกปล่อยลมยาง หากเราเลือกโกรธ เราก่นด่า ท้าตีต่อย เราได้อะไร เราแก้ปัญหาได้จริงไหม มันช่วยให้รถหายบุบ หายพัง รอยหาย ลมยางเต็มได้หรือเปล่า หรือแค่ได้ระบายอารมณ์เสีย สะใจ ได้เอาคืน คุ้มไหมที่จะทำ ถามตัวเองดี ๆ กำลังเพิ่มทุกข์ที่ไม่จำเป็นให้ตัวเองหรือเปล่า

ของหาย เงินเพื่อนยืมไม่คืน ของถูกขโมย สามีนอกใจ เราเลือกทางเลือกไหน ในการจัดการชีวิต ตอบสนอง หรือตอบโต้ เมตตา หรือ อัตตา+พระอาจารย์ที่แม่ดาวเคารพสอนเสมอว่า พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้เราแค่ทำจิต แต่กับบางเรื่องเราก็ต้องทำกิจด้วย แต่ทำจิตให้เป็นปกติ/เมตตาก่อน แล้วค่อยคิดทางออกจากปัญหาได้อย่างมีปัญญา แล้วค่อยทำกิจ

ตึกๆๆๆ หัวใจเต้นโครมครามคำราม เพราะอัตตาหรือ ตึก..ตึก...ตึก....ตึก หัวใจเต้นด้วยอัตราความสงบสุข จังหวะเมตตาลองจับใจตัวเองดูนะคะ

ใจเรียบร้อยดีไหมนะ รู้สึกอย่างไรนะ ความสงบสุขภายในสร้างได้ แค่สร้างเหตุปัจจัยที่ตรงกับผลที่อยากได้ใส่ใจในเหตุ ปล่อยวางในผล เกิดผลรู้สึกดีก็รู้ยังไม่เกิดผล ก็รู้ และทำต่อไปมีความหวัง แต่ปล่อยวางความคาดหวัง  

เพื่อตัวเองนะ เพื่อความสงบสุขของตัวเองรักตัวเอง ก็ดูแลตัวเองนะ

ไม่มีใครขโมยความสงบสุขในใจเราได้หากเราไม่เปิดช่องเปิดทางให้เขาเข้ามาเอาไป รับผิดชอบตัวเองนะ

ด้วยรักจากฉันเพื่อนผู้มีศรัทธาต่อเมตตา แต่ว่าก็มีเผลอบ่อยให้อัตตาเข้ามาครองใจ

ค่ะ ฝึกตนบ่มเพาะเมตตาของตัวเองต่อไป

คำสำคัญ (Tags): #เมตตา
หมายเลขบันทึก: 677894เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2020 10:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2020 18:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท