นึกย้อนไปถึงวันที่เริ่มต้นเป็นคุณแม่มือใหม่ ขนาดเอาลูกกลับบ้าน เจอขี้เทาของลูก ยังทำอะไรไม่ถูก มาถึงวันนี้ ลูกตัวน้อยเริ่มกลายเป็นลูกตัวใหญ่ (ชักอุ้มไม่ไหว) จากทารกที่คอยังไม่แข็ง มาตอนนี้เข้าโรงเรียน ต่อล้อต่อเถียงกับแม่ได้ เพียงแค่เวลา 4 ปีเศษ ความมหัศจรรย์ของชีวิตมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
หลังจากลูกเริ่มเข้าโรงเรียน ดิฉันก็กลับมาเทเวลาให้กับการทำงานได้มากขึ้น และด้วยความเป็นคนบ้างาน (แต่น้องๆ ที่ทำงานเรียกว่า เป็นคน 'alert' ตลอดเวลา - เหมือนจะชมนะน้องๆ) ก็จะทำให้ให้เวลากับลูกน้อยลง หรือไม่งั้น ก็ต้องหอบหิ้วลูกไปรอเวลาทำงานข้างนอก เขาก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ ว่า แม่ต้องทำงาน เมื่อแม่ทำงาน ก็จะทำให้ได้เงิน เมื่อได้เงิน เขาก็จะมีนม มีข้าว มีของเล่น ไว้กินไว้เล่นได้
แต่ด้วยความที่เราบ้างานเกินไป ทำให้มีเวลากับเขาน้อยไปนิด สองสามวันนี้ เขาเริ่มพูดว่า "เดี๋ยวจูจะเล่นไปก่อน หม่ามี๊ทำงานไปนะ จูอยากให้หม่ามี๊รวยๆ จะได้ไม่ต้องทำงานแล้วมาอยู่กับจูได้" หรือ จะบอกว่า "จูจะโตไวๆ จะมาช่วยหม่ามี๊ทำงาน หม่ามี๊จะได้อยู่กับจูได้"
แม้จะรู้ว่าเขาแก่แดด แต่คำพูดเหล่านี้ เหมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจ เหมือนลูกรับรู้ถึงความเหนื่อยยากของเรา เขาอยากช่วย แต่ก็มีขีดจำกัดที่ทำให้เขายังช่วยไม่ได้
หวังว่า เมื่อเขาโตเป็นหนุ่มขึ้นมา เขาคงจะไม่ทิ้งแม่แก่ๆ คนนี้นะคะ คนเป็นแม่ก็คงจะฝันไว้ได้แค่นี้เอง