ช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาไปประชุมวิชาการสมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทยมาค่ะ...
ในวันแรกพวกเราได้ฟังปาฐกถาจาก ผศ.(พิเศษ)สมทรง สุวรรณเลิศซึ่งถือว่าท่านเป็นนักจิตวิทยาคลินิกไทยคนแรก..จากวันนั้นถึงวันนี้กว่าห้าสิบสามปีที่อาจารย์ได้ทำงานและผลักดันให้กับวิชาชีพนี้จนถึงวันนี้ที่พวกเราได้รับการยอมรับว่ามีลักษณะความเป็นวิชาชีพ(ไม่ใช่งานเสมียนธุรการดังเคยถูกเข้าใจผิดมาก่อนหน้านั้น)และมีการสอบใบประกอบโรคศิลป์.
.ปีนี้อาจารย์อายุเจ็ดสิบสองปีแล้วแต่ความสนใจใส่ใจและไฟแห่งการทำงานยังไม่ลดน้อย..เพราะเมื่อถูกเชิญให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิตามกฏหมายกระทรวงในการที่เราจะต้องมีสมาชิกในสภาวิชาชีพอาจารย์ก็กรุณาที่จะอยู่ช่วยพวกเราต่อ..หรือเมื่อท่านอธิบดีขอแรงช่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยสามจังหวัดชายแดนหรือโปรเจ็คสำรวจระดับเชาวน์ปัญญาเด็กไทย(นอร์มเด็กไทย)อาจารย์ก็ยินดีให้ความร่วมมือ...
ในฐานะเป็นลูกศิษย์รุ่นกลางๆได้เห็นและเรียนรู้จากอาจารย์ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนรู้สึกภาคภูมิใจและเคารพรักในความเป็นตัวอย่างที่ดีของอาจารย์อย่างบอกไม่ถูก...
อาจารย์เข้มงวดพวกเราในการเคารพและรักษาสิทธิแห่งผู้รับบริการ.พวกเราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาเรียนและฝึกหัดงาน...อจ.จะเตือนให้ตระหนักและประพฤติอยู่ในจรรยาบรรณวิชาชีพแม้ว่าตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้เห็นว่ามันจำเป็นตรงไหนเลยแต่การที่เชื่อและทำตามก็เป็นเกราะแก้วคุ้มกายให้แก่เราเสมอมา...เอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ไม่หวงแหนความรู้ที่มีทั้งต่อเพื่อนร่วมและระหว่างวิชาชีพแต่ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมให้ถูกละเมิดโดยไม่ชอบธรรม...
อาจารย์เป็นแม่แบบให้ฉันมองเห็นภาพชีวิตของตนว่าจะเป็นผู้สูงอายุแบบใด..ฉันอยากเป็นผู้สูงอายุที่ทรงคุณวุฒิและวัยวุฒิแบบอาจารย์ที่มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขสงบภายในแม้จะวุ่นวายกับภาระหรือปัญหาความวุ่นวายภายนอก...
เรามีพิธีแสดงมุฑิตาจิตกราบขอพรจากอาจารย์ซึ่งปีนี้พี่ๆได้ทำสไลด์มัลติวิชั่นประวัติและรูปถ่ายของอาจารย์ไว้ฉันดูภาพอาจารย์ในอดีตกับปัจจุบันบอกได้ว่าท่านยังคงสวยสง่าไม่เปลี่ยน......
สำหรับพวกเราชาวจิตวิทยาคลินิกไทยเรามีภาพในใจเกี่ยวกับอาจารย์สมทรงไม่ใช่เพียงแต่การเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ไปเรียนวิชาจิตวิทยาคลินิกมาเท่านั้นหากแต่อาจารย์เปรียบเหมือนครูใหญ่ของพวกเราตั้งแต่รุ่นแรกๆจนถึงรุ่นน้องๆหลานๆและยิ่งถ้าเป็นพวกรุ่นสามสิบห้าอัพอาจเรียกว่าอาจารย์เป็นเหมือนแม่คนหนึ่งของพวกเราได้เลยทีเดียว..
ข้อคิดที่อจ.เคยให้เราว่า"ไม่มีอะไรที่จะตอบแทนหรือทำให้ครูชื่นใจได้เท่ากับการที่เห็นพวกเรารักกันและช่วยกันทำงานทำให้วิชาชีพของพวกเราประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับ"..ในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งจะตั้งใจทำตามที่อจ.สอนค่ะ...
มาร่วมแสดงมุฑิตาจิต...ผศ.(พิเศษ)สมทรง สุวรรณเลิศ...ด้วยคะ....
(^_____^)
กะปุ๋ม
กะลังจะเปนนักเรียนจิตวิทยาค่ะ
ชอบและรักในงานที่จะได้ทำมากๆๆๆๆ
กะลังจะเปนน้องปี1 ไงฝากพี่ช่วยชี้แนะด้วย
ขอบคุนค่า
ได้เป็นถึงอาจารย์ระดับสูง ทำไมใจดำจัง บังคับให้นักจิตวิทยาคลินิกต้องฝึกงานเพื่อหาเงินเข้าสมาคม
ปากก็บอกว่าเพื่อเป็นการยกระดับ แล้วคนที่ฐานะไม่ดี อาจารย์รับผิดชอบชีวิตพวกเขาได้หรือเปล่า
ต้องลาออกจากงานมาinternship ต้องจ่ายเงินให้สมาคม งานก็ไม่ได้ทำ internจบแล้วจะมีงานทำหรือเปล่า
ใจดำ
ที่สำคัญต้องหาเงิน 25,000บาท เพื่อชำระค่าฝึกงาน และไหนจะต้องมึีค่าใช้จ่ายระหว่างฝึกงาน 6 เดือนอีก.. รวมแล้วต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท ถ้าทางครอบครัวยากจนจะทำอย่างไร?
ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับทุกข้อความ เคารพผู้บุกเบิก แต่ก็เห็นใจกับคนที่ประสบชะตากรรมคล้ายๆตนเองคือลาออกไปฝึกไม่ได้ เพราะต้องทำงานหาเงินประทังชีวิต เพราะเป็นลูกจ้างชั่วคราว ก่อนหน้าที่จะมีฝึกลงทุนลาออกจากเอกชนทั้งที่เงินเดือนดีมาเพื่อต้องการจะไปสอบใบประกอบฯซึ่งตอนนั้นเงื่อนไขคือต้องทำงาน 6 เดือนด้านจิตวิทยาคลินิก จึงตัดสินใจลาออกตอนปลายปี 50 และเข้าทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราในรพ.ของรัฐบาล แต่แล้วในปี 51 ออกเงื่อนไขต้องไปฝึกก่อน แล้วดิฉันเป็นลูกจ้างน่ะค่ะ เขาไม่ให้ไปค่ะมีอย่างเดียวคือต้องลาออก ดิฉันจึงตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต คือ ไม่ยอมลาออกทำงานต่อไปในตำแหน่งนักจิตวิทยา ที่ดิฉิันบอกว่าผิดพลาดที่สุดในชีวิตก็เพราะว่าการที่ดิฉันทำงานต่อมามันเหมือนศูนย์เปล่าในตอนนี้เนื่องจากมีการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการแต่ไม่ใช่ตำแหน่งนักจิตวิทยา แต่เป็นนักจิตวิทยาคลินิกเท่านั้น คือต้องมีใบประกอบฯ ไม่อย่างนั้นอดค่ะ...เท่ากับที่คุณทำมาเท่ากับเปล่าประโยชน์น้องๆที่ทำงานทีหลังแต่เขามีใบกลับได้เป็นข้าราชการ...ดังนั้นดิฉันถึงได้เสียใจว่าทำไมตนเองไม่ไปกู้หนี้ยืมสินจากใครมาก็ได้หรือจะเป็นหนี้นอกระบบก็ตาม เพราะนั่นทำให้อนาคตการทำงานข้าราชการของคุณเป็นอันจบสิ้น กระทรวงไม่ได้คิดว่ามีตำแหน่งนี้อยู่ และทางสมาคมนักจิตวิทยาคลินิกเขาก็ต้องดูแลคนที่เป็นนักจิตวิทยาคลินิก ตอนนี้ดิฉันกำลังตัดสินใจว่าจะลาออกไปฝึกและจะไปกู้หนี้จากนอกระบบเพื่อจะได้ฝึกและจะได้มีโอกาสไปสอบใบฯ และจะได้เป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่สมเกียรติและศักดิ์ศรี ไม่ใช่นักจิตวิทยา ที่ไม่...สักอย่าง