นักแม่นปืนที่เป็นทหารยิงและฆ่าคน 30 คนในศูนย์การค้า โดยอาวุธที่ใช้ เขาขโมยไปจากค่ายทหารที่อยู่ใกล้ๆ
หลังจากการฆ่าคนตายอย่างน้อย 30 คน ในศูนย์การค้ากลางเมือง กองทัพไทยก็มีปัญหาเรื่องการพิจารณาเรื่องความสามารถในการเก็บอาวุธ และควบคุมกองกำลังในฐานที่มั่นหรือค่ายทหาร
การฆ่านำไปสู่พาดหัวของสำนักข่าวต่างๆแบบถึงลูกถึงคน และอาจถือกันว่าเป็นการฆ่าพลเมืองที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่ในราชอาณาจักรที่ดำรงตนด้วยความเหี้ยมโหด ทางการกล่าวว่าอย่างน้อยก็มีคนถึง 57 คนที่ได้รับบาดเจ็บ
นักวิจารณ์กล่าวว่า กองทัพไทยอาจตรวจสอบภูมิปัญญาของเจ้าหน้าที่อาวุโสในการมีธุระยุ่งเรื่องการเมือง, บริหารกระทรวงต่างๆ, เฝ้าแต่ปฏิวัติบ่อยครั้ง แทนที่จะสร้างวินัยในหมู่ทหารประจำการที่ไม่มียศใหญ่โต
นักแม่นปืนคือจ่าสิบเอกจักรพันธุ์ ถมมา ได้แสดงวิธีการใช้และบรรยายในหน้าเฟซบุ๊กของตนเองถึงการฆ่าก็ได้สร้างคำถามขึ้นมาถึงบทบาทของสื่อสังคมออนไลน์ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทางการกล่าวว่าเพจของจักรพันธุ์ถูกลบโดยเฟซบุ๊กไปเรียบร้อยแล้ว
มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ หากจะหยุดนักแม่นปืนที่มาคนเดียวตั้งใจจะยิงคนบริสุทธิ์ ที่ใดก็ตามแต่ในโลก การฆ่าพลเมืองเป็นสิ่งที่หาได้ยากในประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจากสหรัฐ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ที่การฆ่าพลเมืองนี้แพร่หลายมากกว่า
การกวาดล้างพลเรือนในโคราช ซึ่งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ชื่อเป็นทางการคือนครราชสีมา ได้แสดงให้เห็นถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ไม่มีอาวุธ เขาคุ้มกันคนเดินห้างที่หวาดกลัวไปสู่ที่ปลอดภัยในระยะเวลา 17 ชั่วโมงแห่งความเจ็บปวด
กองกำลังที่ติดอาวุธที่ได้เข้าในศูนย์การค้าก็ได้แสดงให้เห็นถึงเทคนิคที่น่าประทับใจในการไล่ล่ามือปืนเช่นเดียวกัน พวกเขาเข้าไปในห้างโดยดูจากโทรทัศน์วงจรปิด รวมทั้งการเคลื่อนไหว และในที่สุดได้สังหารจ่าอายุ 32 ปีคนนี้
พวกเขายังใช้โดรนในการสืบเสาะความเคลื่อนไหวของมือปืนผ่านตึกที่มีอยู่หลายชั้น การกระทำที่เด็ดขาดในการสังหารนักฆ่าเกิดขึ้น เมื่อกองกำลังรักษาความปลอดภัยหมอบราบบนกระเบื้องขัดเงาของห้าง 1 ชั้นเหนือจักรพันธ์
โดยการมองผ่านเลนส์ที่ได้ในระยะไกลของปืนไรเฟิล กองกำลังรักษาความปลอดภัยเล็งไปที่บันไดเลื่อนที่ว่างเปล่า ที่จักรพันธ์ยืนอยู่ที่ชั้นล่าง ในที่สุดกองกำลังได้ยิงและฆ่าจักรพันธ์ ใต้ฐานประภาคาร ตามที่วิดีโอที่พวกเขาแสดงให้เห็นหลังจากการล้อมสิ้นสุดลง มันช่างเป็นชั่วเวลาเพียงนิดเดียวที่น่าสยดสยองเต็มไปด้วยเลือดจากประภาคาร ที่ใครบางคนเขี่ยร่างจักรพันธ์ออกไป.
ความโกรธของมือปืนเกิดขึ้นหลังจากที่การขายที่ดินที่เขาคาดหมายว่าจะได้รับค่านายหน้า โดยมากแล้วทหารไทยเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทนี้
คน 3 คนที่ถูกฆ่าที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์คือผู้บังคับบัญชา ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดิน แต่รายละเอียดของความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจนนัก
ทำไมเขาจึงไปยิงกราดที่ห้างสรรพสินค้า ในเพจหน้าเฟซบุ๊กของเขา เขาเขียนว่า “ไม่มีใครหนีความตายพ้น”
การถูกแทรกแซงทางการเมืองขนาดหนักในประเทศไทย และวัฒนธรรมทหารที่หย่อนยานด้านวินัยยังไม่ถูกนำเสนอว่าเกี่ยวข้องกับการฆ่านี้อย่างไร แต่เจ้าหน้าที่, ผู้เห็นต่าง, นักการเมือง, และคนอื่นๆต้องวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องการขาดไปซึ่งวินัยทหาร
เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง และหน่วยของเขา มีการรัฐประหารมา 18 ครั้ง และความพยายามก่อการกบฏตั้งแต่ปี 1932 ซึ่งเป็นปีสิ้นสุดของระบอบกษัตริย์เป็นใหญ่ โดยการเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่ความมืดมัว บ่อยครั้งก็ขี้โกงอย่างซึ่งหน้า และการเมืองว่าด้วยการขายชาติ ช่องว่างที่อันตรายจึงปรากฏตัวในจุดที่อ่อนแอที่สุดของทหาร นักวิจารณ์กล่าว
กองโจรมาเลย์อิสลามที่เป็นชนกลุ่มน้อยสามารถโจมตีค่ายทหารและป้อมยามสามารถขโมยอาวุธและกระสุนเป็นจำนวนมาก
ด้วยการฆ่าพลเรือนที่มากมายเช่นนี้ กองทัพจึงต้องหนุนการรักษาอาวุธ ไม่ใช่ที่ทางภาคใต้เท่านั้น แต่ยังทั้งประเทศอีกด้วย
ใบอนุญาตให้พกปืนเป็นล้านๆแผ่นได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาไทย แต่มันไม่ใช่ง่ายๆที่คนไทยจะสามารถซื้อและครอบครองปืนที่น่าเชื่อถือและทำมาเป็นอย่างดี
อาวุธปืนเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเพลง และพวกชนชั้นกลางและสูงชอบซื้อและใช้พวกมัน โดยพื้นฐานแล้วคือการป้องกันตนเอง และบางครั้งอาจมีเรื่องกีฬา และการสะสมด้วย
ราคาอาวุธจะมีราคาสูง เพราะประเทศเชิงพุทธนี้ขาดโรงงานอาวุธปืนในท้องถิ่น และนำเข้าจากต่างชาติแทน จากสมาคมยิงปืนให้ข้อมูล ด้วยภาษีนำเข้าที่สูงมากและกำไรจากการขายปลีก ปืนพกแบบ Glock อาจมีราคาถึง 500 เหรียญสหรัฐ แต่สูงถึง 2,500 เหรียญในไทย
ราคาที่เย้ายวนใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมตลาดมืดค้าอาวุธจะเป็นที่มาให้พวกพม่าที่เป็นชนกลุ่มน้อยแยกดินแดนจากพม่า
ในเวลาเดียวกัน ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องการฆาตกรรม, การฆ่าตัวตายด้วยปืน, ความตายที่เกิดจากลูกหลงโดยปืน และการตายด้วยปืน เป็นสาเหตุในเอเชีย โศกนาฎกรรมในโคราชอาจทำให้ลำดับขึ้นสูงก็เป็นได้
แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก
Richard S Ehrlich. Thai mass shooting shows lack of military discipline.
https://asiatimes.com/2020/02/thai-mass-shooting-shows-lack-of-military-discipline/
ไม่มีความเห็น