เส้นทางการบรรลุธรรมมีศรัทธา 4 ข้อดังนี้
1.เชื่อในตถตาด้วยความชื่นชมยิ่ง
2.เชื่อในพระคุณอันยิ่งของพระพุทธเจ้าหรือเชื่อในพุทธคุณ
3.เชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหรือเชื่อในธรรมคุณ
4.เชื่อในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติถูกต้องดีงามหรือเชื่อในสังฆคุณ
ทิศทางพระธรรมเพื่อน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติมี 5 ข้อดังนี้
1.การบำเพ็ญทาน มี 3 ข้อคือ อามิสทานเพื่อขจัดความโลภ อภัยทานเพื่อขจัดความโกรธและธรรมทานเพื่อขจัดความหลง
2.การรักษาศีล มี 3 ข้อคือ เพื่อรักษากายกรรม เพื่อรักษาวจีกรรมและเพื่อรักษามโนกรรม
3.การมีความอดทน เพื่อวางตนเป็นกลางจากโลกธรรม 8 ข้อ มีลาภเสื่อมลาภเป็นต้น
4.การมีความเพียรพยายาม เพื่อสร้างคุณงามความดีอยู่ทุกขณะจิต
5.การฝึกสมาธิภาวนา เพื่อน้อมจิตถวายเป็นพุทธบูชาอย่างไม่เสื่อมคลาย เป็นการเจริญสมถภาวนาเพื่อให้จิตตั้งมั่นและวิปัสสนาภาวนาเพื่อให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริงในปรมัตถธรรม
สำหรับการอธิบายอย่างแจ่มชัดของสมถและวิปัสสนานี้อยู่ที่แนวคิดของพุทธนิกายเทียนไถในประเทศจีน
สมถภาวนานั้นเป็นการฝึกอบรมสมาธิกรรมฐาน ผู้ฝึกต้องหาสถานที่สงบเงียบตั้งใจเป็นหนึ่งเดียวดุจหินศิลาแท่งทึบยากที่จะเคลื่อนไหวได้ เมื่อจิตเกิดสัมผัสก็ปล่อยวาง เพราะสิ่งใดปรากฏอยู่ล้วนเป็นเพียงจิตเท่านั้น การเปลี่ยนอิริยาบถใด ๆ ก็ควรมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกขณะ เมื่อสมาธิเข้มแข็งควบคุมได้แล้ว เราย่อมสามารถดื่มด่ำเอิบอาบเข้าสู่ ตถตาสมาธิซึ่งถือว่าเข้าสู่ประตูแห่งผู้บรรลุธรรม
ด้วยเส้นทางของผู้บรรลุธรรมนี้มีกลลวงของมารเยอะและมากวิธีที่มารคอยดักจับจิตผู้ทำผิดมีบาปกรรมติดตัวทำให้เกิดอุปสรรคมากถึงขั้นเป็นบ้าได้ ดังนั้นหากผู้ใดต้องการเดินเส้นทางธรรมนี้ต้องยึดหลักศรัทธา 4 หลักปฏิบัติ 5 พร้อมมีสหายธรรมเดินทางร่วมกันคอยช่วยเหลือกันต้องหมั่นสังเกต ตั้งอยู่ในสัมมาทัศนะรักษาตนให้คงอยู่ในเส้นทางธรรมนี้ หากทำแต่สมถภาวนาอย่างเดียวก็จะจมอยู่แบบไม่สร้างกุศลใด ๆ ดังนั้นผู้สนใจจึงต้องทำวิปัสสนาภาวนาด้วย
วิปัสสนาภาวนาคือการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน จงคิดดูว่า ในสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ล้วนไม่คงที่แม้จิตก็เกิด ๆ ดับ ๆ ทุกสิ่งที่เราผ่านพบในอดิตเลือนลางเหมือนความฝัน สิ่งที่พบในปัจจุบันเหมือนประกายไฟหรือสายฟ้าแลบ และสิ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตเหมือนเมฆหมอกเกิดขึ้นฉับพลัน รูปกายนี้ล้วนไม่สะอาด เป็นสิ่งไม่ควรแสวงหา คนถูกอวิชชาครอบงำจิตจึงหลงอยู่ในสังสารวัฏน่าสงสารยิ่งนักเว้นแต่ผู้รู้หาเกี่ยวข้องอยู่ไม่ สาธุชนควรปลุกจิตกล้าเดินทางสายกลางเป็นอิสระจากอคติ มุ่งตรงสู่เส้นทางเพื่อบรรลุสัมโพธิญาณนั้น.
....................................................
แง่คิด..ความจริงดอกบัวงอกพ้นน้ำคอยท่าแสงตะวันก็จะเบ่งบานวันนี้ ดอกใดอยู่เสมอน้ำจะบานในวันพรุ่งนี้ดอกใดอยู่ใต้น้ำจะบานในอีกสามวัน สำหรับดอกใดงอกใหม่จากเง่านั้นไม่แน่ว่าจะบานได้เพราะอาจเป็นอาหารของเต่าปลาหรือสัตว์น้ำได้.
ขอบคุณครับ คุณศุภณัฐ เจตน์ครองสุข