ในการลงสู่ชุมชน ทำไมเราต้องเข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชน และนักศึกษามีความเข้าใจระบบสุขภาพชุมชนที่นักศึกษาได้ไปเรียนรู้อย่างไร
ในการลงชุมชนสิ่งที่เราควรเตรียมไปนอกจากความรู้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ การทำความเข้าใจกับวิถีชุมชนที่เราจะไปให้บริการ เนื่องจากชุมชนแต่ละที่นั้นก็มีวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อที่แตกต่างกันไป ปัจจัยเหล่านี้เราสามารถพบได้ในตัวของผู้รับบริการซึ่งจะส่งผลต่อการวางแผนการทำงานและกระบวนการให้การรักษาของเรา หากเราไม่ทำความเข้าใจในส่วนนี้เราจะไม่เข้าใจผู้รับบริการในทั้งหมด เราจะเอาความเป็นตัวเอง ความคิด ความเชื่อของเราใส่เข้าไปให้เขา โดยที่ไม่ได้สอดคล้องกับบริบทของเขาซึ่งไม่ส่งผลดีทั้งต่อการสร้างสัมพันธภาพและการให้การบำบัดฟื้นฟู รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับนโยบายหรือบริการสุขภาพที่มีอยู่ในชุมชนจะช่วยให้เราสามารถให้คำเเนะนำแก่ผู้รับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตรงกับความต้องการหรือเป้าประสงค์
จากระบบสุขภาพชุมชนที่ได้ไปศึกษาที่ศชุมชนบ้านหัวอ่าวซึ่งประกอบอาชีพหลักคือการเกษตร จะเห็นได้ว่าสุขภาพของคนในชุมชนจะมีความสอดคล้องและเกี่ยวเนื่องกับสภาพแวดล้อมภายในชุมชน ภายใต้คำบอกเล่าว่าเมื่อก่อนนี้สุขภาพของคนในชุมชนไม่ค่อยดี เนื่องจากการทำการเกษตรมีการใช้สารเคมี ซึ่งหากเราไม่ได้รับผลทางตรง เราก็ได้รับผลทางอ้อม เช่น การบริโภค การสูดอากาศที่ปนเปื้อน เป็นต้น เมื่อมีแนวความคิดเกี่ยวกับการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการงดใช้สารเคมีเข้ามา การดูแลสุขภาพก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น คนในชุมชนก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ชัดเจน นอกเหนือจากการได้สุขภาพที่ดีคืนมาแล้ว การมีนโยบายเช่นนี้ยังทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและเกิดความยั่งยืน เนื่องจากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันอยากมีสุขภาพที่ดี มีการช่วยเหลือเกื้อกูลให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน ตระหนักถึงพิษภัยของสารเคมี และเห็นความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี
ไม่มีความเห็น