@chokdeemeechai
วิชาชีวิตเพื่อความมั่นคงทางจิตใจ โชคชัย คงบวรเกียรติ

ประเภทของคน ตอนที่ 4. กิเลสนิสัย 19 อย่าง


4. กิเลสนิสัย 19 อย่าง กิเลสสันดานที่บ่งบอกความเป็นตัวตนหลักของเขา เป็นคนเห็นแก่ตัว อยากได้อยากมี อารมณ์ฉุนเฉียว นิสัยหลงยึดติดกับอบายมุข บวกกับ ผิดศีล และไม่มีคุณธรรม จึงสรุปมาเป็น สิบเก้ากิเลสนิสัย จุดประสงค์เพื่อแยกแยะว่าบุคคลประเภทใดที่ต้องหลีกเลี่ยงไม่คบหาสมาคมด้วย เพราะจะนำไปสู่ความเสื่อมเสีย นำพาเราไปสู่ทางที่ไม่ดี ทางเสียหายต่อตัวเรา

            "กิเลส หมายถึง สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ขุ่นมัว มีจิตอันไม่บริสุทธิ์ เร่าร้อน และขัดขวางความสงบทางจิตใจ "

http://thaihealthlife.com/กิเลส/

                กิเลส หลัก 3 กลุ่ม โลภะ โมหะ โทสะ

                โลภะ กิเลสแห่งความโลภ ความอยากได้อยากมี(ตัณหา) รวมถึงความต้องการทางเพศ (กามราคะ) อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน

                โมหะ กิเลสแห่งความหลง ในประสาทสัมผัสทั้งห้า บริโภค รับหามา เสพติดยึดติดมากเกินความพอดี หลง (การกิน ดื่ม ความรัก เที่ยวเตร่สถานที่อโคจร)

                โทสะ กิเลสแห่งความโกรธ การควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หงุดหงิดไม่พอใจ ขุ่นเคือง อิจฉา ริษยา รังเกียจ ดูหมิ่นเหยียดหยาม โมโห โกรธ ก้าวร้าว คุกคาม ข่มขู่ ทำร้าย มุ่งร้ายพยาบาท เคียดแค้น

                กิเลสวัตถุ ตามหลัก พระพุทธศาสนา มี 10 แต่กระผมนำมาเพียงบางข้อ เพื่อผสมกับ อบายมุข  ศีล คุณธรรม  รวมเป็น กิเลสนิสัย

กิเลสนิสัย 19 อย่าง คนกิเลสหนา ไม่ควรคบหาสมาคม จะนำพาเสื่อมเสียหาย

กลุ่ม คนโลภะ (ความอยากได้อยากมี)

                1. คนเห็นแก่ตัว คิดเอาตนเป็นใหญ่ หาเหตุผลเข้าข้างตนเอง ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น คำนึงถึงแต่ตนเอง ไม่คิดคำนึงถึงผู้อื่นหรือไม่สนใจว่าจะผิดหรือถูก ขอแค่กระทำตามใจตนเองตามที่ตนต้องการเท่านั้น ไม่สนใจว่าจะส่งผลกระทบเสียหายต่อคนรอบข้างตัวของเขา จนทำให้ใครเดือดร้อน แม้แต่คนในครอบครัว หรือคนรัก ทำตัวไม่เหมาะสมกับคนในสังคมส่วนรวม กระทบต่อความสัมพันธ์ต่อผู้อื่นในระยะยาว เพราะคนอื่นเมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก จนไม่คำนึงถึงผู้อื่นเลย คิดถึงแต่ตนเองเป็นใหญ่ คนอื่นก็จะเลิกคบหาสมาคมกับเขา

                คนทุกคนก็มีความเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง เห็นแก่คนในครอบครัวตัวเองต้องมาก่อนผู้อื่นอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่คนเห็นแก่ตัวนั้น ไม่คำนึงถึงคนอื่นเลย ว่าจะทำให้ใครเดือดร้อน หรือ ไม่สนใจว่ากระทำผิดต่อใครคนอื่นหรือไม่ คิดแต่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น

                2. คนเอาเปรียบหรือ คนเห็นแก่ได้ เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำจนเป็นนิสัยปกติของเขา คิดอยากมีมากกว่าที่ตนเองมี ด้วยความไม่พอใจในตนเอง จึงมีความอยากได้ของคนอื่นหรือเบียดเบียนหน้าด้าน ไม่มีความเกรงใจผู้อื่น เพียงเพื่อที่จะได้มากกว่าคนอื่น ตัวอย่างเช่น พื้นที่ส่วนรวม แต่นำสิ่งของตนเองไปวางในที่ส่วนรวมรุกล้ำเกินที่ของคนอื่น ยึดถือเป็นที่ของตนเองทั้งที่ไม่ใช่ของตนเอง เมื่อคนอื่นไม่ต่อว่ากล่าว ก็ยึดเป็นของตนเอง ทำจนเคยชินเป็นสันดานเอาเปรียบผู้อื่น เห็นแก่ได้ ว่ากล่าวตักเตือน ก็ยังทำเฉยหน้าด้านคิดว่าตนเองทำถูกคิดเข้าข้างตนเอง (ไม่รู้จักขอบเขตความสามารถที่ตนกระทำได้ และไม่มีคุณธรรมประจำใจ) โดยไม่สนใจ ไม่คำนึงถึงผู้อื่น คนรอบข้างจะถูก รบกวน ก่อให้เกิดความไม่สะดวก เสียหาย เดือดร้อนจากการกระทำที่เขาเห็นแก่ได้ คิดเอาปรียบเบียดเบียน จะยึดเป็นของตนเอง ซึ่งความจริงเขาไม่มีสิทธิ์ยึดครอง เพราะเป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน เป็นต้น

                3. คนขี้โกงคนอยากได้ของคนอื่น ใช้กลอุบายหลอกลวง หลอกล่อฉ้อฉล เอาให้ได้มาเป็นของตน หรือมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ของตน เอาความโลภ ความอยากมีอยากได้ของคนเรามาหลอกล่อ โกหกหลอกลวง เอาผลประโยชน์มาล่อใจ ยกตัวอย่าเช่น ให้เอาเงินมาลงทุนกับเขาจะได้กำไรมากมาย เห็นผลรวดเร็ว เขาหลอกให้เชื่อตายใจ ให้ผลกำไร งวดแรกงวดสองก็โอนเงินให้ครบจำนวนตรงเวลา หลอกให้ตายใจ พองวดต่อมา ก็หว่านล้อมให้เอาเงินมาลงทุนเพิ่มกับเขา เราก็อยากได้มากขึ้นจนตาพ่องโต ความโลภบังตามัวเมา หลงจนมองไม่เห็นความจริง เมื่อถึงงวดต่อไป เขาก็ชิ่งหนี หายหน้าหายตัว สาบสูญตามตัวไม่เจอ เงินหายหมดสิ้นไปพร้อมกับตัวเขา ต้องมานั่งเสียใจเพราะความโลภของตนเอง เป็นต้น

                4. คนขี้ขโมยลักทรัพย์ ลักขโมย เอาของคนอื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งผิดกฏหมาย

                5. คนโกหก มุสาวาทา โกหกเพื่อเอาตัวรอด หรือโกหกเพื่อเอาเปรียบเบียดเบียน หลอกลวง หวังได้ของคนอื่น เอาดีเข้าตัวเอง รวมถึงพูดเกินจริง ปิดบังซ่อนเร้น ไม่พูดถึงสิ่งไม่ดีข้อบกพร่อง เสนอแต่ส่วนดี แต่ไม่พูดถึงข้อเท็จจริง

กลุ่ม คนโมหะ หลงผิด ยึดมั่นถือมั่น เชื่อในสิ่งที่ผิด เชื่อมากเกินพอดี บริโภคเสพติด มัวเมา เกินพอดี ไม่สมเหตุสมผล

                6. คนขี้เมาชอบดื่มสุราเมรัย นำพาให้ขาดสติ ทะเลาะวิวาท เสียงานการ เสียเงินทอง เมาแล้วขับก่อให้เกิดอุบัติเหตุและผิดกฏหมาย และเป็นอมายมุขอันดับต้นที่นำพาไปสู่อบายมุขอื่นที่ฉิบหายมากขึ้น

                7. คนขี้ยาเสพยาเสพติด ผิดต่อตนเองที่ไม่รักตนเอง ผิดต่อคนในครอบครัวที่รักเขาและห่วงใย รวมทั้งผิดกฏหมายด้วย

                8. คนผีพนัน ไพ่ ไฮโล เล่นม้า เล่นหวย เล่นหุ้นเกร็งกำไร พนันมวย โดยเฉพาะ พนันบอล คาสิโนออนไลน์ หมดเสียเงินทอง มัวเมาเสพพนันจนเสียคน

                9. คนขี้เอาชอบเสพกามราคะมาก เจ้าชู้ ประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียของคนอื่น หรือติดหลงเพศตรงข้ามก็ส่อทางเสียเงินเสียทอง  หาเงินมาเลี้ยงเขาจนหมดตัว ยิ่งเลี้ยงเมียน้อย ผัวน้อย ยิ่งหนักเขาไปใหญ่ ผิดต่อคู่สมรสของตนเอง  พวกมักมากในกามราคะ (กามราคะจัดอยู่ในกลุ่มโลภะ แต่ถ้าเสพมากจนหลง ก็เป็นกลุ่มโมหะ)    

                10. คนทิฐิสูง คิดว่าตัวเองถูกต้องทุกอย่างคนอื่นผิด คิดว่าตนรู้หมดทุกอย่างคนอื่นคิดผิดโง่  ยึดมั่นในสิ่งผิด สำคัญตนเองผิดคิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ ชี้ขาดตัดสินเพียงผู้เดียว มีความคิดความเชื่อเข้าข้างตนเองอย่างมาก หัวดื้อรั้น ต้องการเอาชนะเพียงอย่างเดียว ยอมหักไม่ยอมงอ ไม่มีความประณีประนอมต้องเป็นไปตามที่เขาคิดเท่านั้น ไม่ตรงกับพื้นฐานความเป็นจริง โดยไม่สนใจ ไม่คำนึงถึงความคิดเห็นของใคร ตนเองถูก ตนเองดีกว่าคนอื่น ยึดมั่นในความคิดตนเองเป็นใหญ่

                11. คนเชื่อฝั่งใจเชื่อคนง่าย ศรัทธาตามคนอื่น โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์คุณงามความดี เชื่อศรัทธาผิดเกินพอดีและเกินจริงไม่มีเหตุผลสมควร เช่น บริจาคเงิน ที่ดินให้กับการกุศลจนหมดตัว ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย หรือที่ทำมาหากิน บริจาค ทาน ทำบุญ ให้พอดีตัว ไม่ใช่มีเท่าไรให้หมด จนตัวเองและลูกหลานเดือดร้อน เป็นต้น และ บูชา เคารพ ศรัทธา ในคุณงามความดี ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม ดีกว่าไปหลงเชื่อ เคารพ ศรัทธาที่ สถานะ ตำแหน่งของเขา ข้าราชการ นักการเมือง นักวิชาการ หมอ ครูบาอาจารย์  นักบวช พระ ก็เป็นคน ที่มีกิเลสอยู่กับตน จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่แต่ละคน มีดีมีชั่วปะปนกันไป ควรนับถือ เคารพในคุณงามความดีของเขา ให้ดูที่เขาเป็นคนดีจริง ๆ เสมอต้นเสมอปลาย (ถ้าตัดกิเลสไม่ได้ มัวเมาลุ่มหลง กิเลสในเงินตราก็ถือว่าเป็นคนอยู่ในผ้าเหลือง ไม่ใช่พระที่ตัดกิเลสแล้ว) ก็จงอย่าไปทุ่มเท ทำบุญบริจาคเกินตัว ให้ทำบุญตามกำลังที่ตนสามารถทำได้ ไม่เดือดร้อนกระทบเสียหายต่อตนเองและคนในครอบครัวก็เพียงพอแล้ว

กลุ่ม คนโทสะ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ขาดความยับยั้งชั่งใจ อารมณ์ปรวนแปรได้ง่าย และอารมณ์รุ่มร้อน ไม่มีความสงบสุข

                12. คนขี้โมโหหงิดหงุด ไม่พอใจ อารมณ์เสียง่าย ความอดทนต้านทานต่ำ อารมณ์ขึ้นง่าย โกรธโมโหง่าย ควบคุมตนเองไม่ค่อยได้ พาลอารมณ์เสียใส่คนรอบข้าง ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ

                13. คนพาลเกเรระรานโกรธรุนแรง ก้าวร้าวคุกคาม ข่มเหงรังแก ขู่กันโชก ทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือทำให้ทรัพย์สินเสียหาย พวกนักเลง พวกถือว่าพวกตนมากกว่า คิดข่มเหงรังแกคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงเรื่องถูกหรือผิดกฏหมาย

                14. คนคุ้มดีคุ้มร้ายแปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ฉุนเฉี่ยวง่าย เอาแน่ไม่ได้ บทจะดีดีใจหาย บทร้ายร้ายฉิบหาย

                15. คนเจ้าคิดเจ้าแค้นคนพยาบาทมาดร้าย ความคิดต้องการแก้แค้น คิดทำร้าย ทำลาย คนอื่น บ่อนทำลายให้คนอื่นไม่มีความสุข

                16. คนขี้อิจฉาริษยาไม่อยากเห็นคนอื่นดีกว่าตน และ ดูถูกเหยียดหยาม ว่าคนอื่นต่ำด้อยกว่าตน และไม่ชอบให้ใครดีเหนือกว่าตนเอง หาวิธีทำลายฝ่ายตรงข้ามกับตน พูดจาติฉินนินทาให้ร้าย ใส่ร้ายป้ายสี หรือพูดยุยงให้คนแตกแยกไม่สามัคคีกัน ทำให้คนอื่นเกิดความขัดแย้ง ทะเลาะกัน ปากให้ร้ายบ่อนทำลายผู้อื่น

กลุ่ม ผิดคุณธรรม ผิดศึลธรรม

                17. คนทรยศ หักหลัง ไม่รักษาสัญญา ไม่รักษาคำพูด ทรยศความไว้วางใจที่คนอื่นมีให้กับเขา              

                18. คนอกตัญญู หรือ คนเนรคุณ ไม่รู้บุญคุณคน ไม่ตอบแทนบุญคุณทดแทนพ่อแม่บรรพบุรุษที่เลี้ยงดูเรามา และผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเหลือเรามา เอาแต่รับแต่ไม่เคยให้กลับหรือตอบแทนคุณท่าน

                19. คนชั่วคนเลวทราม ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วผิดถูก (สติสัมปชัญญะ) ไม่รู้จักสำนึกผิด และ ไม่ละอายเกรงกลัวต่อบาป (หิริโอตตัปปะ) ผิดซ้ำ ๆ ไม่คิดที่จะเลิกทำ รู้ว่าผิดก็ยังทำอีก ไม่มีความคิดที่แก้ไขปรับปรุงพัฒนาตนให้ดีขึ้น กลับทำซ้ำหรือเลวร้ายเข้าไปอีก

                บุคคลที่มีกิเลสนิสัย ที่ต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างไม่คบหาสมาคมด้วยคนหนึ่งคนมีนิสัยไม่ดีหลายอย่างรวมกัน และมีอย่างหนึ่งจะนำพาไปสู่อีกหลายอย่างที่ต่อเนื่องรวมกันผูกมัดพันธนาการเหนี่ยวแน่นจนอยากที่จะคลายปมออกจากกัน นำพาไปสู่ทางฉิบหายพินาศวิบัติของชีวิต

                คนที่มีคำนำหน้าว่า

  • v คนขี้ หมายถึง คนที่น่าขยะแขยง มีนิสัยไม่ดี ไม่น่าคบหาสมาคมด้วย มีขี้ติดตัว
  • v  คนผี หมายถึง หลงติดเสพจนมัวเมาไม่ลืมหูลืมตา ขาดสติยับยั้งชั่งใจ เหมือนผีเข้าสิง ทำให้คนเปลี่ยนกลายเป็นคนละคน
  • v  คนสามัญ หมายถึง คนธรรมดาพบเห็นได้ทั่วไปในสังคม ที่เป็น คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ คำนึงถึงแต่ตนเอง ไม่คำนึงถึงผู้อื่น
  • v ถ้าคนนั้นไม่แก้ไขปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ยังกระทำเบียดเบียนผู้อื่นจนเป็นสันดาน (คนเลวทรามนำพาเสื่อมเสียหาย)
  • v คนสามานย์ คือ ทำผิดกฏหมาย ไม่รู้จักดีชั่ว ทำผิดแล้วยังกระทำผิดอีกซ้ำ ไม่สำนึกผิด ยิ่งกระทำเลวร้ายกว่าเดิม

ทำสิ่งไม่ดีอย่างหนึ่งนำพาไปสิ่งไม่ดีหนักเลวร้ายมากยิ่งเข้าไปอีก อบายมุข ทางแห่งความเสื่อมเสีย

                 ยกตัวอย่างเช่น คนเห็นแก่ตัวอยากได้อยากมี ก็กลายเป็นคนเห็นแก่ได้ เอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น ก็ต้องโกหก หลอกลวงผู้อื่น กลายเป็นคนโกหก และกลายเป็นคนขี้โกงเพื่อให้ได้ของคนอื่นมาเป็นของตน หรือต้องการได้มากกว่าที่ตนเองมีสิทธิ โดยเบียดเบียนสิทธิของผู้อื่น รวมทั้งเห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้ กลายเป็นคนขี้อิจฉาริษยาใส่ร้ายป้ายสี บ่อนทำลายฝ่ายตรงข้ามให้เสียหาย หนักเขาไปอีก กลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นผูกพยาบาทอาฆาตแค้น เพียงเพราะคนอื่นพูดความจริงทำให้เขาอับอายเสียหน้า

            ยกตัวอย่างเช่น คนขี้เมา กินเหล้าเบียร์ เที่ยวผับบาร์เธค เมามัวแล้วปล่อยเนื้อปล่อยตัว นำพามีเพศสัมพันธ์ทางชู้สวาทผิดลูกผิดเมียผู้อื่น คนขี้เมา ยังไม่พอ หันไปมัวเมา ยังนำพาเพื่อนไปที่เที่ยวอโคจรชักชวนเสพยา เป็น คนขี้ยาเมื่อเมาจนขาดสติก็เสียเนื้อเสียตัวให้กับคนอื่น ดีไม่ดีเสียทรัพย์ ถ้าเสพทั้งเหล้า ยา เสพเซ็กซ์จนติดในรสกามที่มากเกินไป คนขี้เอาจนถอนตัวไม่ขึ้น เมื่อเงินหมดในการเสพเหล้าเสพยา ก็กลายเป็นคนขี้โกหกโกหกหลอกลวงที่บ้านเพื่อให้ได้เงินมาซื้อยาเสพติดมาเสพ เมื่อหาเงินไม่ได้ก็หยิบยืมเพื่อนฝูงคนใกล้ตัว เมื่อเขามาทวงเงินคืน ก็ยืมคนโน้นมาโปะให้คนนี้ หมุนยืมเงินคนอื่นไปทั่ว จนไม่มีใครให้ยืมอีก เมื่อหาเงินไม่ได้ก็หากลอุบายฉ้อฉล หลอกลวงเป็นคนขี้โกงผู้อื่นให้ได้เงินมาเสพยา เมื่อหลอกลวงไม่ได้แล้วไม่มีใครเชื่อถือวางใจ ก็ไปเป็นคนขี้ขโมย ทรัพย์สินเงินทองของผู้อื่น หรืออาจผันตัวเป็นผู้ค้ายา เพื่อให้ได้เงินมากขึ้นและมียาให้เสพมากยิ่งขึ้น ซ้ำร้ายถูกตำรวจจับโทษฐานเสพยา ผิดกฏหมาย ติดคุกเสียเวลา เสียเงินประกันตัว เดือดร้อนที่บ้านคนในครอบครัวให้ต้องกลุ้มใจกับการกระทำไม่ดีเพราะหลงมัวเมา โลภอยากที่จะเสพเพื่อต้องการลืมเรื่องไม่สบายใจหรือระบายความคับข้องใจที่ผิดวิธี และผิดกฏหมาย ติดคุกก็ต้องมานั่งชดใช้กรรมที่ได้ทำผิดลงไป

                ยกตัวอย่างเช่น คนผีพนัน ชอบเสี่ยง ลุ้นระทึกตื่นเต้น สนุกกับการลุ้น เสพติดกล้าได้กล้าเสีย ทำให้เสียเงินทองหมดตัว กู้หนี้ยืมสินมาพนัน ยังไม่พอเมื่อไม่มีเงินติดหนี้พนัน ยิ่งถลำตัว อยากที่จะแก้มือให้เป็นฝ่ายชนะได้เงินคืนกลับมาในจำนวนมากกว่าเสีย ก็ยิ่งทุ่มเงินมากขึ้น เมื่อหมดหนทางออก ไม่กล้ารับความจริง จนถึงขนาดขโมยลักทรัพย์ เป็นคนขี้ขโมย และโกหก ฉ้อโกง หลอกลวงเป็นคนขี้โกหกและคนขี้โกง เพื่อให้ได้เงินมาเล่นพนันต่อ หรือต้องหาเงินคืนเจ้าหนี้ อีกทั้งยังเอาทรัพย์สินภายในบ้านไปขายเพื่อให้ได้เงินมาทั้งที่ไม่ใช่ของตนเอง กลายเป็นคนทรยศหักหลังคนที่บ้าน และเป็นคนอกตัญญูต่อพ่อแม่ให้เดือดร้อนกลุ้มใจ อีกทั้งเป็นคนเลว ที่ไม่รู้จักดีชั่วถูกผิด รู้ว่าผิดแล้วยังทำ เพราะบ้าพนัน มัวเมาจนโกหกหลอกลวงตนเองไม่ยอมรับความจริง ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายหนักเข้าไปกันใหญ่ยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเป็นต้น

                เมื่อทำผิด ก็ต้อง ยอมรับความเป็นจริง ยอมรับความผิด รู้จักสำนึกผิด หาทางแก้ไข ปรับปรุงตัวใหม่ คนในครอบครัวยังให้อภัย และช่วยประคองให้กลับตัวกลับใจมาเป็นคนดีเป็นปกติได้อีกครั้ง ต่อให้โดนถูกคนในบ้าน ด่าว่ากล่าว ทำโทษ ก็ต้องยอมรับ ถ้าทำผิดกฏหมายก็ต้องถูกจำคุกลงโทษทัณฑ์ ชดใช้กรรมที่ก่อ ถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส ทรมาน ไม่มีอิสระภาพ เมื่อพ้นโทษก็ต้องกลับตัวกลับใจ ไม่กระทำความผิดซ้ำอีก เลิกเด็ดขาด คิดถึงสิ่งที่ตนจะสามารถกระทำได้โดยสุจริตไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเสียหายอีก

                กิเลสนิสัย19 ประเภทนี้  โดยเฉพาะคนที่ทำผิดกฏหมาย นอกจากไม่คบค้าสมาคมด้วยแล้ว ก็ไม่ควรทำธุรกรรมต่าง ๆ ด้วย การโอนเงิน มีความเกี่ยวข้องการธุรกรรมการเงินด้วย อาจถูกตรวจสอบ ว่ามีความผัวพันกับสิ่งที่เขาทำผิดกฏหมาย แล้วนำเราไปสู่ความยุ่งยาก ดึงเราเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งที่เราไม่มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดของเขาเลยแม้แต่น้อย ก็ต้องมาถูกตรวจสอบทางการเงิน และถ้ามีการทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับเขาทุกเดือน ยิ่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ทรัพย์สินของเราอาจจะถูกยึด เพื่อรอการตรวจสอบ จนกว่าจะตัดสินแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง ถึงจะได้ทรัพย์สินของเราคืนมา แถมยังเสียชื่อเสียงให้ได้อับอายอีก โชคร้ายสามชั้น เพราะฉะนั้นจะคบใครต้องดูด้วยว่า เขาคนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับ สิ่งผิดกฏหมายหรือไม่ ถึงจะเป็นเพื่อนกันตอนเด็กไว้ใจได้ พอโตขึ้นไม่รู้ที่มาที่ไปว่าไปทำอะไรมาบ้าง แต่ถ้าเขามีส่วนเกี่ยวกับ เรื่องผิดกฏหมาย เมื่อรู้ก็ขอให้คบห่าง ๆ ไม่ไปสุงสิงมากนัก โดยเฉพาะไม่ควรให้มีการทำธุรกรรมทางการเงินกับเขาเด็ดขาด จะเดือดร้อนภายหลังได้

กิเลสนิสัยสิบเก้าอย่าง คนประเภทมีกิเลสที่ต้องหลีกเลี่ยงให้ห่าง และไม่คบหาสมาคมด้วย ชีวิตท่านจะมีความสงบสุข ปลอดภัย

http://thaihealthlife.com/กิเลส/

https://www.dmc.tv/pages//20120510-อุปกิเลส-16-อย่าง.html

http://www.watpitch.com/9-77-to-execute-ten-kinds-of-defilements.html

หมายเลขบันทึก: 674663เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2020 12:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มกราคม 2020 12:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท