ความลับของเรื่องสั้น : คุณสมบัติเบื้องต้นที่คนอยากเขียน ต้องเรียนรู้
ก่อนได้รับหนังสือเล่มนี้จากมิตรสหาย ทนายหนึ่ง ผู้เคยเรียนมนุษย์ศาสตร์ วิชาเอกภาษาไทยมาด้วยกัน ผมกำลังเคาะสนิมเขียนแบบเรียนภาษาไทย ระดับ ป.1 และ ป.3 ของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง โดยอยู่ในขั้นตอนผ่านการตรวจรอบแรกจากสำนักวิชาการฯของกระทรวงแล้วนำมาปรับแก้ หลังจากเคยเขียนหนังสือเรียนภาษาไทยระดับ ป.1-2 ในหลักสูตร 2544 และคู่มือภาษาไทย ป.1-3 และ ป.4-6 ให้สำนักพิมพ์อีกแห่งหนึ่ง หนังสือความลับของเรื่องสั้นเล่มนี้ช่วยให้ผมได้เคาะสนิม ฟื้นความรู้ได้อย่างดี
ย้อนกลับไปในวัยนักศึกษา กลุ่มเราชายหนุ่มสามคน ที่มีความฝันอยากขีดเขียนเรียงร้อยถ้อยคำเป็นเรื่องสั้น บทกวี รวมเล่มสักเล่มหนึ่ง ในวัยหนุ่มสาวของพวกเรา ได้รับการเติมต่อฝันจากอาจารย์ที่พวกเราเคารพรักท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้จุดประกายฝันการเขียนให้พวกเรา คอยพร่ำสอน แนวทางการเขียน ปลูกฝังความรู้เรื่องวรรณกรรมปัจจุบันให้พวกเราได้ซึมซับ
เมื่อเปิดอ่านหนังสือ “ความลับของเรื่องสั้น” ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับสู่โลกของการเรียนอีกครั้ง เพียงแต่มุมมองในการเขียนครั้งนี้ ไม่ใช่การรีวิวหรือแนะนำหนังสือ แต่เป็นการสรุปย่อใน “คุณสมบัติเบื้องต้นที่คนอยากเขียน ต้องเรียนรู้” เท่านั้น โดยไม่ได้ลงรายละเอียดที่สามารถอ่านได้ในหนังสือเล่มนี้
ในการเขียนเรื่องผู้เขียนคือท่านอาจารย์ไพฑูรย์ ธัญญา นักเขียนซีไรต์ และศิลปินแห่งชาติ ได้กล่าวไว้ว่า
“พรสวรรค์จะมีหรือไม่มี ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญก็คือ ไม่มีใครก็เกิดมาก็เขียนหนังสือได้เลย แต่ทุกคนต้องเรียนรู้และฝึกฝนอย่างหนัก...หนามย่อมแหลมคมได้ด้วยตัวมันเอง จงเชื่อมั่นและฝึกฝนอย่างหนัก”
แนวทางการสร้าง “ธาตุ” ของนักเขียนให้เกิดขึ้นในตัวเรา
1. ช่างสังเกต คุณสมบัติพื้นฐานของคนที่อยากเขียน ต้องรู้จักสังเกต จดจำสิ่งที่อยู่รอบตัว
2. ช่างคิด ความเป็นนักคิด หรือช่างคิด ถือเป็นธาตุที่เป็นหัวใจของคนเขียนหนังสือ “คุณคิด คุณจึงเขียน” ถือเป็นคาถาหัวใจของการเขียนที่ควรท่องเอาไว้
3. ช่างอ่าน นักเขียนหลายคนมีนิสัยรักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก การอ่านเรื่องสั้นดี ๆ จะช่วยให้เราเรียนรู้โดยวิธีลัด ควรอ่านเรื่องสั้นทั้งไทย และต่างประเทศ รวมถึงอ่านหนังสือแนวอื่นด้วย
4. ช่างทำ การเขียนหนังสือเป็นงานที่โดเดี่ยว ในยามค่ำคืน คนอื่น ๆ พากันนอนหลับ หรือไปเที่ยว แต่คนเขียนหนังสือกลับนั่งทำงานเขียนของเขาตามลำพังในห้องแคบ ๆ จมอยู่กับความคิดและจินตนาการ การเขียนหนังสือคือการลงมือทำ การเขียนบ่อย ๆ จะนำมาซึ่งทักษะและความเชี่ยวชาญ นอกจากช่างทำแล้วคนที่อยากจะเขียนต้องมีระเบียบวินัย คือสามารถจัดการตนเองให้สามารถทำงานได้โดยไม่วอกแวกเสียสมาธิ
5. ช่างเล่า นักเขียนก็คือนักเล่าเรื่อง ที่มีลีลาหรือท่วงทำนองเฉพาะตัว เราสามารถเรียนรู้วิธีการเล่าเรื่องจากการอ่าน และจากหนังสือเรื่องสั้น นวนิยาย แล้วนำมาประยุกต์ใช้
การเขียนหนังสือไม่มีทางลัด จะต้องมาจากการฝึกฝน ทำนองเดียวกับหนามแหลมคมได้ด้วยตัวของมันเอง
6. ช่างฝัน คงต้องขอเติมต่อธาตุอีกตัวที่ควรมี ความช่างฝันจะช่วยให้เรามีความพยายามและความอดทนที่จะเขียน คนที่อยากเขียนต้องมีความพยายาม ฝึกฝนบ่อยๆ ตามใจฝัน
ก่อนเขียนเรื่องสั้นเราควรทำความรู้จักมักคุ้นเรื่องสั้น เพราะงานประพันธ์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ โดยเริ่มจากการตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า “เรื่องของใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร และอย่างไร” เพื่อผูกโยงไปกับโครงเรื่อง ตัวละคร ฉากและบรรยากาศในเรื่อง รวมถึงแก่นเรื่อง(Theme)
จากวันวานของคนอยากเขียนสามคน เราสามคนต่างได้ก้าวสู่งานเขียน คนหนึ่งเป็นนักข่าวและจัดรายการข่าวในสถานีโทรทัศน์แนวหน้า คนหนึ่งเคยเป็นนักข่าว เป็นนักเขียนเรื่องสั้นและประกอบธุรกิจส่วนตัว อีกคนมีผลงานกลอนและเขียนหนังสือแบบเรียน ทุกคนล้วนก้าวสู่ฝัน
ในหนังสือความลับของเรื่องสั้น ได้ลงรายละเอียดให้ผู้สนใจได้ใช้ศึกษาแนวทางการเขียนเรื่องสั้น พร้อมตัวอย่างเรื่องสั้น และเบื้องหลังงานเขียนเรื่องสั้นของผู้เขียนเอง หนังสือเล่มนี้จดพิมพ์โดยคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมไม่มีจำหน่าย ผู้สนใจสามารถของรับได้ที่สำนักพิมพ์นาคร
Best >>> 20200922162737.pdf
ไม่มีความเห็น