๑,๐๘๓ ในสิ่งดี..ย่อมมีสิ่งไม่ดี


“เมื่อเราคิดดี..ความดีนั้นก็อยู่กับเรา..เมื่อเราพูดดี..ความดีนั้นก็อยู่กับใจเรา..เมื่อเราทำดี..ความดีนั้นก็อยู่กับตัวเรา..ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่ที่เรา..หาใช่ผู้อื่นไม่...”

        อันนี้ก็พูดกันไป..บางคนอาจไม่เข้าใจ แต่หลายคนก็จะประสบพบเจอเข้ากับตัวเอง..คงเป็นคำพูดประมาณว่าอย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้มันมากเกินไป..

    อย่างน้อยก็เตือนว่า..อย่าติดดี..ให้มากนัก ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกสรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลง จะได้ไม่ต้องเสียใจและให้ท่องจำเอาไว้ ความพอดี..งดงามเสมอ

        แต่บางทีผมก็เผลอ..ทำในสิ่งดีๆ ให้โรงเรียนในวันหยุดจนเพลิน เกินเลยไปจนถึงมืดค่ำ ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสลัวลาง ฟ้าไม่หมดแสงสว่างก็ไม่ยอมกลับบ้าน

        รู้สึกไม่ดีเลย..ที่ลืมตัวว่าชราภาพไปมากมายแล้ว มิใช่เด็กหนุ่มแบบเมื่อก่อน กำลังวังชาถดถอย มีแต่แรงใจเท่านั้นที่ยืนหยัดสู้ต่อไม่ยอมท้อถอย..

        ในสิ่งดีที่ผมมี ก็คือ ผมทำงานได้ตามเป้าหมายต่างๆในชีวิต และมีความพยายามที่จะพุ่งชนตรงไปให้ถึงเป้าหมายนั้นให้ได้...อันนี้ก็ถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร...

        เพราะทุกสิ่งมีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเสมอ หากผมใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไปและนิ่งพอ ก็จะได้เรียนรู้และวางแผนที่จะพุ่งไปอย่างมีทิศทาง..

        ผมก็จะไม่พลาดเป้า และจะบรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยที่ไม่เสียเวลา และไม่เสียกำลังกายกำลังใจ เพียงแค่รู้เท่าทันตัวเองและทำสิ่งดีๆอย่างมีทิศทางเท่านั้น

        นับว่ายังดีที่ไม่ต้องการความเด่นดัง..แค่หวังเล็กๆว่า ผู้ปกครองผู้ซึ่งเป็นลูกค้าคนสำคัญ จะเชื่อมั่นและศรัทธาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ปกครองนอกเขตบริการที่มีผลต่อปริมาณของเด็กที่จะเพิ่มขึ้น..

        ผมไม่ได้คาดหวังเลิศเลอ..และไม่ได้กังวลใจ แต่พื้นฐานของความต้องการจำเป็น มันมีทางที่เป็นไปได้ ถ้าโรงเรียนสะอาด สวยงามสดใส และร่มรื่นปลอดภัย ไม่ว่าใครก็อยากส่งลูกมาเรียน..แม้ว่าจะไกลแค่ไหนก็ตาม..

        ในสิ่งที่ดีที่เห็นและเป็นอยู่ ผมไม่ได้ทำเพื่อเอาใจเจ้านายหรือศึกษานิเทศก์ ผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าบุคคลเหล่านี้ จะมานิเทศติดตามหรือตรวจเยี่ยมในวันไหน เท่าที่รู้เวลาที่เหลือในภาคเรียนนี้ไม่มีปฏิทินหรือกำหนดการด้วยซ้ำ

        ผมไม่มีโครงการส่งโรงเรียนเข้าประกวดประชันขันแข่ง และโรงเรียนไม่ได้อยู่ในโครงการสถานศึกษาที่มีดีในประเภทต่างๆ ผมจึงทำให้ดีได้โดยที่ไม่ต้องติดในเงื่อนไข..

        สิ่งที่สำคัญที่สุด ผมต้องการทำให้โรงเรียนดีเป็นปัจจุบัน ให้สมกับที่ผมเป็น “ข้าราชการ” ทำงานในโรงเรียนที่เป็นสถานที่ “ราชการ” จึงต้องทำงานแบบไม่ว่างเว้น

        ผมโชคดีที่ไม่มีอาการอยากโชว์อยากเด่นดังแต่อย่างใด ถ้าเป็นเช่นนั้น กิจกรรมดีๆคงไม่เกิดขึ้นและเป็นจริงได้ จะเป็นได้ก็แค่โชว์ของแบบขอไปที เมื่อจบโชว์ก็ทิ้งขว้างไม่ยั่งยืน

        ผมคิดว่า..โรงเรียนขนาดเล็กไม่ควรจะคิดเช่นนั้น รวมทั้ง..ทุกองค์กรและทุกชุมชน..ก็ต้องจริงจังกับการทำในสิ่งที่ดี มิใช่ทำแบบมีเงื่อนไข ถ้าทำเพียงให้เด่นดัง บ้านเมืองสังคมจะย่ำอยู่กับที่อย่างแน่นอน..

        ในความรู้สึกส่วนตัวผม ในสิ่งดี..ย่อมมีสิ่งที่ไม่ดี ถ้าเราทำเกินพอดีและหวังแต่ผลประโยชน์จนเกินงาม ทำดีเพื่อหวังรางวัล ทำดีเพื่อเอาเปรียบคนอื่น..อันนี้ก็เรียกว่าดีไม่จริง..ผมจึงต้องเตือนตนด้วยตนเองอยู่เสมอ..

        “เมื่อเราคิดดี..ความดีนั้นก็อยู่กับเรา..เมื่อเราพูดดี..ความดีนั้นก็อยู่กับใจเรา..เมื่อเราทำดี..ความดีนั้นก็อยู่กับตัวเรา..ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่ที่เรา..หาใช่ผู้อื่นไม่...”

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๙  มกราคม  ๒๕๖๓


       

       

หมายเลขบันทึก: 674558เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2020 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม 2020 20:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ถึงวันนี้ ผมมีความเห็นว่า … ปศพพ. นั้น ยากยิ่งต่อคนส่วนใหญ่ในวัยเลยประถม… หากได้ปลูกไว้ในวัยเด็ก … หลังจากผ่านวัยคะนอง พวกเขาจะกลับมาศึกษาในคันลองของความพอเพียงได้ ….

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท