ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี


“คุณไม่สามารถทำแบบเดิม คิดแบบเดิม หากคุณหวังว่าจะประสบความสำเร็จในโลกที่ไม่เหมือนเดิม” John C. Maxwell

ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี

Leadershift

พลตรี มารวย  ส่งทานินทร์

[email protected]

10 ธันวาคม 2562

บทความเรื่องผู้นำที่ปรับตัวได้ดี (Leadershift) นำมาจากหนังสือเรื่องLeadershift: 11 Essential Changes Every Leader Must Embrace ประพันธ์โดย John C. Maxwell จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์HarperCollins Leadership เมื่อวันที่ 02/05/2019

ผู้ทีสนใจเอกสารนี้แบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่  https://www.slideshare.net/maruay/leadershift-204031974

เกี่ยวกับผู้ประพันธ์

  • John C. Maxwell เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท EQUIP และ John Maxwell Company ที่ประสบความสำเร็จด้วยการฝึกอบรม 5 ระดับของความเป็นผู้นำ (5 Levels of Leadership) เขายังเป็น Christ Fellowship ใน Palm Beach Gardens, Florida และ Crystal Cathedral ใน Orange County, California
  • เขาเขียนหนังสือกว่า 40 เล่ม ที่ขายได้ประมาณ 20 ล้านเล่ม และแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 50 ภาษา เช่น The 21 Irrefutable Laws of Leadership, Leadership Gold, Failing Forward, The Five Levels of Leadership, The 360o Leader, Put Your Dream to the Test, Talent Is Never Enough, และ Thinking for a Change

ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี

  • ผู้นำ โดยคำจำกัดความเดิมคือ ผู้ที่มีบทบาทในการนำ และมองเห็นมากกว่าคนอื่น ก่อนที่ทุกคนจะมองเห็น
  • “คุณไม่สามารถทำแบบเดิม คิดแบบเดิม หากคุณหวังว่าจะประสบความสำเร็จในโลกที่ไม่เหมือนเดิม” John C. Maxwell เขียนในช่วงต้นของหนังสือ
  •  Maxwell กล่าวว่า ทุกวันนี้การมองไปข้างหน้าจะสั้นลง เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว แผนระยะสั้นคือสองปี แผนระยะกลางห้าปี และแผนระยะยาวสิบปี ที่เป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพขององค์กรที่ประสบความสำเร็จ ในตอนนี้ แม้แต่แผนระยะยาวสองปี ก็ดูไร้สาระ!

ภาวะผู้นำ 3 ประการในอนาคต

  • ในหนังสือของ Bruna Martinuzzi อ้างถึงการศึกษาล่าสุด ที่จัดทำโดยองค์กรที่เรียกว่า Economic Intelligence Unit ซึ่งศึกษาผ่านการสำรวจการระบุภาวะผู้นำสามอันดับแรก ที่มีความสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าดังนี้
  •  1. ความสามารถในการจูงใจพนักงาน (35%)
  •  2. ความสามารถในการทำงานได้ดีในหลายวัฒนธรรม (34%)
  •  3. ความสามารถในการจัดการการเปลี่ยนแปลง (32%)
  • คุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ Maxwell คิดว่าต้องอาศัย ความสามารถในการปรับตัว (adaptability) ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้

ความสามารถในการปรับตัว

  • จากการศึกษาหลายแห่งพบว่า “91% ของการสรรหาบุคลากรในอนาคต จะขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้คน ในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน” ผู้นำก็ไม่ได้รับการยกเว้น ในความเป็นจริง พวกเขาจำเป็นต้องปรับตัวได้มากกว่าพนักงานของพวกเขา
  • และนั่นคือ ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี (leadershiftingซึ่งไม่เกี่ยวกับการมีเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และความเป็นกัปตันของเรือ (leadership) อีกต่อไป แต่เกี่ยวกับความสามารถในการเปลี่ยนม้ากลางแม่น้ำ
  • “ผู้นำที่ดีต้องปรับตัว” Maxwell เขียน “พวกเขาปรับเปลี่ยน พวกเขาไม่อยู่นิ่ง เพราะพวกเขารู้ว่า โลกรอบตัวพวกเขาไม่คงที่ สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงในทุกวันนี้ และผู้นำต้องมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

หลักปฏิบัติ 7 ประการของ Leadershift

  • 1. เรียนรู้ต่อเนื่อง ปลดปล่อยความรู้เดิมและเรียนรู้ความรู้ใหม่ (Continually learn, unlearn and relearn)
  • 2. ให้คุณค่ากับวันวาน แต่อยู่กับวันนี้ (Value yesterday but live in today)
  • 3. เร็ว และถูกเวลา (Rely on speed but thrive on timing)
  • 4. เห็นภาพใหญ่ เพราะภาพจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ (See the big picture as the picture keeps getting bigger)
  • 5. อยู่กับวันนี้ แต่คิดถึงวันพรุ่งนี้ (Live in today, but think about tomorrow)
  • 6. ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ท่ามกลางความไม่แน่นอน (Move forward courageously in the midst of uncertainty)
  • 7. ตระหนักว่าสิ่งที่ดีที่สุดในวันนี้ อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับความท้าทายในวันพรุ่งนี้ (Realize today’s best will not meet tomorrow’s challenges)

ประการที่ 1. เรียนรู้ต่อเนื่อง ปลดปล่อยความรู้เดิมและเรียนรู้ความรู้ใหม่

  • บทเรียนที่เรียนในโรงเรียน อาจล้าสมัยก่อนที่เงินกู้ยืมของนักเรียนจะได้รับการชำระคืน
  • มีรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้จาก Harvard Business Review ว่า สารานุกรมในอดีตได้รับการปรับปรุงทุก ๆ สองสามปี สารานุกรมในวันนี้ มีการปรับปรุงหลายครั้งต่อนาที โดยมีการอัปเดตตัวเองอยู่ตลอดเวลา

ประการที่ 2. ให้คุณค่ากับวันวาน แต่อยู่กับวันนี้

  • Babe Ruth นักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเบสบอลกล่าวว่า ”การตี homerun ของเมื่อวาน ไม่ทำให้ชนะเกมในวันนี้”
  • บทเรียนคือ มุ่งเน้นความท้าทายในปัจจุบัน และทิ้งความรุ่งเรืองในอดีตไว้ในอดีต

ประการที่ 3. เร็ว และถูกเวลา

  • ในฐานะที่เป็นนักแม่นปืนของถิ่น Wild West (ดินแดนป่าเถื่อนในอดีต) พวกเขารู้ดีอย่างเต็มอกว่า ไม่เพียงเกี่ยวกับความรวดเร็วอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวกับความรวดเร็วในเวลาที่เหมาะสม
  • ดังนั้น ในเวลาที่ถูกต้องเหมาะสม ก็เป็นทุกอย่างในวันนี้ด้วยเช่นกัน

ประการที่ 4. เห็นภาพใหญ่ เพราะภาพจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

  • พยายามที่จะเรียนรู้ในหลายระดับ และอย่าหลอกตัวเองว่า คุณได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่ควรรู้แล้วอย่างครบถ้วน
  • มันค่อนข้างตรงกันข้ามคือ ยิ่งคุณเรียนรู้อะไรมากขึ้นเท่าใด - ถ้าคุณเรียนรู้อย่างถูกต้อง – คุณยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

ประการที่ 5. อยู่กับวันนี้ แต่คิดถึงวันพรุ่งนี้

  • แม้ว่าได้กล่าวถึงไว้ในข้อที่ 2 ข้างต้นมาแล้ว คุณต้องให้ความสำคัญกับวันนี้ ผู้นำก็คือผู้นำ เพราะพวกเขาสามารถคิดเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้ได้
  • แม้ว่าจะไม่ต้องมองไปไกลมาก แต่ให้วางแผนล่วงหน้าไว้เสมอ

ประการที่ 6. ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ท่ามกลางความไม่แน่นอน

  • การเป็นผู้นำคือ การเสี่ยงต่อการออกนอก เขตความสบาย (comfort zone)
  • ไม่เพียงแต่เป็นความจริงที่ว่า ความสำเร็จได้มาอย่างอย่างยากลำบาก แต่ยังเป็นความจริงที่ว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงอย่างกล้าหาญ คือผู้ที่ได้รับรางวัลที่ใหญ่ที่สุด

ประการที่ 7. ตระหนักว่าสิ่งที่ดีที่สุดในวันนี้ อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับความท้าทายในวันพรุ่งนี้

  • ปรับตัวให้ทันสมัย ปรับตัวให้ทันสมัย และปรับตัวให้ทันสมัย
  • ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง นั่นเป็นวิธีเดียวที่คุณจะยังคงเป็นผู้นำในระยะยาว มีแต่ผู้มีเพียงสายตาสั้น ๆ มองที่คำสรรเสริญ

คำถาม 4 ข้อที่คุณควรถามตัวเอง

  • คำถามสี่ข้อต่อไปนี้ สามารถนำทางคุณสู่การพัฒนาตนเอง คือ
  •  1. เรียนรู้สิ่งใหม่ ถามตัวเองว่า “ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เรียนรู้บางอย่างใหม่เป็นครั้งแรกคือเมื่อใด?”
  •  2. ลองทำสิ่งที่แตกต่าง ถามตัวเองว่า “ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ทำอะไรเป็นครั้งแรกคือเมื่อใด?”
  •  3. ค้นพบสิ่งที่ดีกว่า ถามตัวเองว่า “ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้พบสิ่งที่ดีกว่าเป็นครั้งแรกคือเมื่อใด?”
  •  4. เห็นภาพที่ใหญ่กว่า ถามตัวเองว่า“ เมื่อครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นบางสิ่งที่ใหญ่กว่าเป็นครั้งแรกคือเมื่อใด?”

การเปลี่ยนที่สำคัญ 11 ประการที่ผู้นำทุกคนควรยอมรับ

  • 1. เปลี่ยนจุดเน้น จากศิลปินเดี่ยวเป็นผู้ควบคุมวงดนตรี (The Focus Shift: Soloist to Conductor)
  • 2. เปลี่ยนการพัฒนาส่วนบุคคล จากเป้าประสงค์สู่การเติบโต (The Personal Development Shift: Goals to Growth)
  • 3. เปลี่ยนคุณค่า จากการยกย่องเป็นการเสียสละ (The Cost Shift: Perks to Price)
  • 4. เปลี่ยนความสัมพันธ์ จากสร้างความพอใจเป็นสร้างความท้าทาย (The Relational Shift: Pleasing People to Challenging People)
  • 5. เปลี่ยนความสุขสบาย จากการคงเดิมเป็นการสร้างสรรค์ (The Abundance Shift: Maintaining to Creating)
  • 6. เปลี่ยนความก้าวหน้า จากปีนบันไดเป็นสร้างบันได  (The Reproduction Shift: Ladder-Climbing to Ladder-Building)
  • 7. เปลี่ยนการสื่อสาร จากชี้นำเป็นการเชื่อมโยง (The Communication Shift: Directing to Connecting)
  • 8. เปลี่ยนการปรับปรุง จากทีมที่เหมือนกันสู่ความหลากหลายของทีม (The Improvement Shift: Team Uniformity to Team Diversity)
  • 9. เปลี่ยนการมีอิทธิพล จากอำนาจของตำแหน่งสู่อำนาจของคุณธรรม (The Influence Shift: Positional Authority to Moral Authority)
  • 10. เปลี่ยนผลกระทบ จากการฝึกอบรมผู้นำสู่ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (The Impact Shift: Trained Leaders to Transformational Leaders)
  • 11. เปลี่ยนความชอบ จากอาชีพสู่เสียงเรียกร้องในใจ (The Passion Shift: Career to Calling)

ข้อที่ 1. เปลี่ยนจุดเน้น จากศิลปินเดี่ยวเป็นผู้ควบคุมวงดนตรี

  •  เมื่อสามสิบปีที่แล้ว การเป็นผู้นำคือการเป็นศิลปินเดี่ยว ที่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ในโลกทุกวันนี้ ความเป็นผู้นำนั้นคล้ายกับการเป็นผู้ควบคุมวงดนตรี เป็นผู้ที่ชี้นำทุกคนในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการประสานงานกัน
  •  ดังที่ Zig Ziglar เคยเขียนว่า “คุณสามารถได้รับทุกสิ่งในชีวิตตามที่คุณต้องการ หากคุณช่วยให้ผู้อื่นได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างเพียงพอ”

ข้อที่ 2. เปลี่ยนการพัฒนาส่วนบุคคล จากเป้าประสงค์สู่การเติบโต

  • Maxwell กล่าวว่า “เป้าประสงค์ (Goals) ช่วยให้ผมทำอะไรได้ดีขึ้น แต่ การเติบโต (Growth) ช่วยให้ผมเป็นในสิ่งที่ดีขึ้น
  • ในศตวรรษที่ 21 สิ่งสำคัญคือ การเติบโตควรมาก่อนเป้าประสงค์
  • สี่สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญมากที่สุดได้แก่ ทัศนคติ ทักษะภาวะผู้นำ การพัฒนาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และการเตรียมความพร้อมให้ผู้อื่นดำเนินการแทนคุณ

ข้อที่ 3. เปลี่ยนคุณค่า จากการยกย่องเป็นการเสียสละ

  • Adoniram Judson เป็นผู้สอนศาสนานิกายโปรเตสแตนต์คนแรก ที่ได้รับเลือกจากอเมริกาให้ไปเผยแพร่ศาสนาในพม่า กล่าวว่า “ไม่มีความสำเร็จหากปราศจากการเสียสละ หากคุณประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเสียสละ นั่นอาจเป็นเพราะมีใครบางคนทนทุกข์ทรมานก่อนหน้าคุณ หากคุณเสียสละโดยไม่ประสบความสำเร็จ นั่นเป็นเพราะบางคนอาจจะประสบความสำเร็จตามหลังคุณ”
  •  ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ต้องการผู้นำเช่นกัน พวกเขาไม่ได้เป็นผู้นำเพราะพวกเขาต้องการได้อะไร แต่เพราะพวกเขารู้ว่า พวกเขาสามารถให้อะไรได้
  • “สิ่งที่ทำให้ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แตกต่างจากผู้นำคนอื่น ๆ คือสิ่งนี้” Maxwell เขียน “พวกเขาทำก่อนหน้าคนอื่น และพวกเขาทำมากกว่าคนอื่น ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความสงสัย และพวกเขาก็ผ่านมันไปเพื่อปูทางให้ผู้อื่น”

ข้อที่ 4. เปลี่ยนความสัมพันธ์ จากสร้างความพอใจเป็นสร้างความท้าทาย

  • “ภาวะผู้นำทางธุรกิจ” ไม่ใช่“มิตรภาพทางธุรกิจ” หากคุณต้องการนำคนอื่น คุณต้องไม่ทำเพื่อเอาใจพวกเขา เพราะภาวะผู้นำตามคำนิยาม หมายถึงการท้าทายผู้อื่นให้ไปไกลกว่าเขตความสะดวกสบายของพวกเขา (แต่ผู้คนมักไม่ชอบที่จะอึดอัด)
  •  ลองใช้วิธีนี้ดูคือ ถ้าคุณนำพวกเขาไปในทางที่ถูก พวกเขาอาจไม่ชอบคุณในวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่พวกเขาจะรักคุณในอีกยี่สิบปีข้างหน้า

ข้อที่ 5. เปลี่ยนความสุขสบาย จากการคงเดิมเป็นการสร้างสรรค์

  • ไม่ว่าเราจะต้องการหรือไม่ ส่วนใหญ่เราทำสิ่งต่าง ๆ นั้นเป็นสิ่งที่เราควรทำ เพราะเป็นสิ่งได้รับการทดสอบและเคยมีมาแล้วหลายล้านครั้งในอดีต ซึ่งก็ควรจะได้ผลเช่นกันในวันนี้ใช่หรือไหม?
  • ผิด เพราะในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การรักษาแนวปฏิบัติที่ดีควรมีความสมดุลกับการสร้างใหม่ และผู้นำควรสอนให้พนักงานหยุดคิดในแง่ของ "ฉันทำในสิ่งที่ฉันเคยทำมาตลอด" และให้ยอมรับคำขวัญว่า "ความคิดสร้างสรรค์ คือฉันพยายามคิดในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อน"”

ข้อที่ 6. เปลี่ยนความก้าวหน้า จากปีนบันไดเป็นสร้างบันได

  • “ฉันจะไปได้สูงแค่ไหน” เป็นคำถามผู้คนในยุคก่อนที่เห็นแก่ตัว หลังจากนั้นก็มีความเป็นมนุษย์ขึ้นมาหน่อยว่า “คนอื่นจะไปได้สูงแค่ไหน ถ้าฉันจะให้ความช่วยเหลือบ้าง?” ผู้ที่ถือบันไดเหล่านี้กลายเป็นผู้ยื่นบันไดให้ และเริ่มตั้งคำถาม “คนอื่นจะไปสูงแค่ไหน ถ้าฉันให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่?”
  • Maxwell แนะนำให้กระทำในขั้นตอนสุดท้าย คือให้เป็นผู้สร้างบันได และคำถามใหม่ที่ผู้นำควรปรับตัวตามวัตถุประสงค์นี้คือ“ฉันสามารถช่วยพวกเขาสร้างบันไดของตัวเองได้หรือไม่”

ข้อที่ 7. เปลี่ยนการสื่อสาร จากชี้นำเป็นการเชื่อมโยง

  • Maxwell ถาม “เมื่อคุณเจรจากับบุคลากรในฐานะผู้นำ ความคิดของคุณคืออะไร คุณมีความตั้งใจที่จะ แก้ไข (correct) หรือต้องการ เชื่อมโยง (connect) กับพวกเขา?” ถ้าคุณต้องการแก้ไข คุณเป็นไดโนเสาร์ตัวหนึ่งในอดีต ที่เชื่อว่าผู้นำควรเป็นคนที่ “ฉันรู้จึงสั่ง คุณไม่รู้จงฟัง”
  •  ผู้นำในวันพรุ่งนี้ คือผู้นำที่เชื่อมโยงในวันนี้ พวกเขามีความไว้วางใจและช่างพูด พวกเขาฟัง พวกเขาถามคำถาม พวกเขามีคำตอบ จงทำตัวเป็นคนเชื่อมโยง

ข้อที่ 8. เปลี่ยนการปรับปรุง จากทีมที่เหมือนกันสู่ความหลากหลายของทีม

  • Malcolm Forbes กล่าวว่า “ความหลากหลาย (Diversity) คือศิลปะในการคิดอย่างอิสระด้วยกัน” และนี่คือจุดเด่นของผู้นำที่ยิ่งใหญ่
  •  ตัวอย่างเช่น ระหว่างสงครามกลางเมืองของอเมริกา Abraham Lincoln ใช้การรวมตัวกับคู่แข่งให้เป็นทีมเดียวกัน เพราะเขารู้ว่า วิธีเช่นนั้นเขาจะได้รับคำแนะนำที่ดีที่สุด และระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง Winston Churchill มักอภิปรายถกเถียงกับ Clement Attlee หนึ่งในศัตรูทางการเมืองตัวกลั่น
  •  จงอย่าหลีกเลี่ยงกับความขัดแย้ง ยอมรับมัน

ข้อที่ 9. เปลี่ยนการมีอิทธิพล จากอำนาจของตำแหน่งสู่อำนาจของคุณธรรม

  • ในศตวรรษที่ 21 เป็นยุคที่ Alexander Havard มองว่าเป็นยุคผู้นำที่มีคุณธรรม ไม่ใช่จากตำแหน่งที่ผู้นำได้รับอำนาจมา ปัจจุบันพนักงานมีแนวโน้มที่จะออกจากงาน หากผู้นำของพวกเขาไม่มีอำนาจทางคุณธรรม
  • ดังนั้น ให้ใช้อำนาจทางคุณธรรม “บุคลากรยอมรับอิทธิพลความเป็นผู้นำ โดยพิจารณาจากบุคคลที่พวกเขาเป็น มากกว่าตำแหน่งที่พวกเขาดำรงอยู่”

ข้อที่ 10. เปลี่ยนผลกระทบ จากการฝึกอบรมผู้นำสู่ผู้นำการเปลี่ยนแปลง

  • นี่อาจจะเป็นภาวะผู้นำที่สำคัญที่สุดในสิบเอ็ดประการ ผู้นำซึ่ง “จะนำการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาสู่ชีวิตของคุณ และชีวิตของคนรอบข้างคุณ” ต่างจากผู้นำที่ได้รับการฝึกฝนและสอนมาตามแนวทางปฏิบัติ ซึ่งผู้นำการเปลี่ยนแปลง เป็นผู้นำสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจผู้คนรอบตัวพวกเขาให้มากขึ้น ผ่านการดำรงอยู่ของพวกเขา
  • ดังนั้นอย่าลืมว่าภาษิตของคานธีแปลโดย Maxwell ที่ถอดความได้ว่า“ถ้าคุณต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลก บุคคลแรกที่คุณต้องเปลี่ยนคือคุณ ในฐานะผู้นำ คุณและฉัน ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง เพราะเราสอนสิ่งที่เรารู้ แต่เราทำซ้ำในสิ่งที่เราเป็น“

ข้อที่ 11. เปลี่ยนความชอบ จากอาชีพสู่เสียงเรียกร้องในใจ

  • โลกนี้มีคนสามประเภทคือ 1) คนที่เพียงแค่ทำงาน 2) คนที่ต้องการมีอาชีพ และ 3) ผู้ที่มีแรงบันดาลใจ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้จากประเภทที่สามเท่านั้น ดังนั้นมันไม่เกี่ยวกับการเป็นผู้นำ เพียงเพราะคุณต้องการเลียนแบบบุคคลตัวอย่างของคุณ แต่เพราะคุณไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้อีก และทักษะของคุณเหมาะสำหรับงานนี้
  • มันเหมือนกับที่ Aristotle กล่าวว่า “ความสามารถและความต้องการของโลก ทำให้เราข้ามกระแสเรียกของเรา” ดังนั้นตามคำนิยามการเรียกร้องในใจของคุณ ไม่เพียงแค่เกี่ยวกับคุณ แต่เกี่ยวกับโลกทั้งใบด้วยเช่นกัน “กระแสในใจ เปลี่ยนจากเราที่คิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งในโลก กลายเป็นช่องทางที่นำสิ่งดี ๆ สู่ผู้อื่น”

บทเรียนจากหนังสือ

  • 1. จากภาวะผู้นำสู่ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี (From Leadership to Leadershift)
  • 2. หลักปฏิบัติ 7 ประการภาวะผู้นำ (7 Fundamental Leadership Practices)
  • 3. การปรับตัว 11 ประการที่ผู้นำทุกคนควรกระทำ (11 Leadershifts Every Leader Should Make)

บทเรียนที่ 1. จากภาวะผู้นำสู่ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี

  •  ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวันนี้ มีเพียงผู้ที่ปรับตัวได้ดี จึงจะสามารถก้าวต่อไปได้
  • ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) คือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ผู้นำยุคใหม่ควรมี เพราะโลกมีการปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
  •  ดังที่ Maxwell เขียนไว้ว่า “ความก้าวหน้าทุกครั้งที่คุณทำในฐานะผู้นำ จะต้องมี Leadershift ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีที่คุณคิด กระทำ และการนำ”

บทเรียนที่ 2. หลักปฏิบัติ 7 ประการภาวะผู้นำ ของศตวรรษที่ 21

  • 1. เรียนรู้ต่อเนื่อง ปลดปล่อยความรู้เดิมและเรียนรู้ความรู้ใหม่
  • 2. ให้คุณค่ากับวันวาน แต่อยู่กับวันนี้
  • 3. เร็ว และถูกเวลา
  • 4. เห็นภาพใหญ่ เพราะภาพจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
  • 5. อยู่กับวันนี้ แต่คิดถึงวันพรุ่งนี้
  • 6. ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ท่ามกลางความไม่แน่นอน
  • 7. ตระหนักว่าสิ่งที่ดีที่สุดในวันนี้ อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับความท้าทายในวันพรุ่งนี้

บทเรียนที่ 3. การปรับตัว 11 ประการที่ผู้นำทุกคนควรกระทำ ได้แก่

  • 1. เปลี่ยนจุดเน้น จากศิลปินเดี่ยวเป็นผู้ควบคุมวงดนตรี (ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยเป็นนักบรรเลงเดี่ยว)
  • 2. เปลี่ยนการพัฒนาส่วนบุคคล จากเป้าประสงค์สู่การเติบโต (เป้าหมายนั้นยอดเยี่ยม แต่การเติบโตดีกว่า ให้มุ่งเน้นการเติบโต )
  • 3. เปลี่ยนคุณค่า จากการยกย่องเป็นการเสียสละ (ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้คิดว่าเขาจะได้อะไรจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่พวกเขาสามารถให้ได้)
  • 4. เปลี่ยนความสัมพันธ์ จากสร้างความพอใจเป็นสร้างความท้าทาย (หยุดทำให้ผู้คนถูกใจ เริ่มท้าทายพวกเขา)
  • 5. เปลี่ยนความสุขสบาย จากการคงเดิมเป็นการสร้างสรรค์ (แทนที่จะรักษาวิธีการเก่า ๆ ให้มุ่งเน้นไปที่การสร้างวิธีการใหม่)
  • 6. เปลี่ยนความก้าวหน้า จากปีนบันไดเป็นสร้างบันได  (สร้างบันไดให้กับพนักงานของคุณ ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเอง )
  • 7. เปลี่ยนการสื่อสาร จากชี้นำเป็นการเชื่อมโยง (หยุดสั่งคนรอบตัว เชื่อมโยงกับพวกเขา )
  • 8. เปลี่ยนการปรับปรุง จากทีมที่เหมือนกันสู่ความหลากหลายของทีม (นำคนในทีมของคุณที่แตกต่างจากคุณ มาเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับกลยุทธ์ของคุณ)
  • 9. เปลี่ยนการมีอิทธิพล จากอำนาจของตำแหน่งสู่อำนาจของคุณธรรม (คุณไม่ใช่ผู้นำเพราะตำแหน่งของคุณ แต่เป็นเพราะตัวของคุณ)
  • 10. เปลี่ยนผลกระทบ จากการฝึกอบรมผู้นำสู่ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (เป็นคนที่มีแรงบันดาลใจ และเป็นแรงบันดาลใจกระตุ้นคนอื่น ๆ )
  • 11. เปลี่ยนความชอบ จากอาชีพสู่เสียงเรียกร้องในใจ (ผู้นำที่ยิ่งใหญ่คือคนที่มีเสียงในใจเรียกร้องให้เป็นอย่างนั้น)

สรุป

  • ในโลกที่ช้าของเมื่อวาน การเป็นผู้นำเปรียบเสมือนการเป็นกัปตันเรือ ที่ต้องรักษาเส้นทาง วางแผนล่วงหน้า และจัดการลูกเรือ
  • อย่างไรก็ตาม ในโลกที่รวดเร็วของทุกวันนี้ การเป็นผู้นำนั้นเหมือนเสือชีตาห์ ที่ต้องมีความรวดเร็ว ว่องไว ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวได้ตลอดเวลา
  • John C. Maxwell กล่าวว่า เราใช้ชีวิตอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ที่ระบุนิยามของคำว่า ภาวะผู้นำ (Leadership) ขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจเปลี่ยนไปใช้คำว่า ผู้นำที่ปรับตัวได้ดี (Leadershift)

*****************************************************

หมายเลขบันทึก: 673682เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2019 16:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม 2019 16:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณครับ สำหรับสาระที่ดีที่แบ่งปัน เพื่อเรียนรู้ สู่การเป็นผู้นำที่ปรับตัวได้ดี ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท