เที่ยวเวียดนามกับอ.สุภัชชา.แกมนาค เรื่องประวัติศาสตร์และการเมืองเวียดนามตอนจบ
ในปี พ.ศ. 2498 โง ดินห์ เดียม ได้จัดการลงประชามติเพื่อขับไล่พระจักรพรรดิเบาได๋ ออกจากราชบัลลังก์และเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐโดยเขาเป็นประธานาธิบดี พระองค์จึงต้องสละราชบัลลังก์อีกครั้งและลี้ภัยไปที่ปารีสและพำนักอยู่ที่นั่นตลอดพระชนม์ชีพการปกครองของประธานาธิบดี โง ดินห์ เดียม เป็นการปกครองแบบครอบครัวและได้มีการปราบปรามประชาชน ผู้ที่มีความเห็นแตกต่างทางด้านการเมืองและศาสนาอย่างหนักทำให้คนในชาติความแตกแยกทางความคิด และมีการดึงเอาศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องจนเหตุการณ์แตกหักในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2506 หลวงพ่อ ทิด กว๋าง ดึ๊ก (Hòa thựợ ng Thich Quảng Đức) ได้ตัดสินใจพลีชีพเพื่อประท้วง โดยการจุดไฟเผาตัวเอง และมรณภาพด้วยความสงบ ซึ่งโหมความเกลียดชังและโกรธแค้นให้แก่ชาวพุทธในเวียดนามออกมาต่อต้านรัฐบาลมากขึ้นและถูกรัฐประหารยึดอำนาจในที่สุดส่วนประธานาธิบดีใหม่คือนายพล เหงียน วัน เทียว ขึ้นปกครองประเทศช่วงนี้เกิด สงครามระหว่างชนชาติเดียวกันฆ่ากันเอง เริ่มรุนแรงขึ้นเป็นลำดับสหรัฐอเมริกาจึงร่วมกับอีก 7 มิตรประเทศเข้าร่วมสงครามเวียดนามเต็มรูปแบบแต่ก็ไม่อาจจะสู้รบกับสงครามกองโจร หรือสงครามจรยุทธของเวียดกงในสมรภูมิที่ไม่คุ้นเคยได้ ทหารอเมริกันที่ถูกส่งเข้าไปในเวียดนามถึง 2,500,000 นาย เสียชีวิตไปกว่า 58,000 เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามไปมากกว่านี้ จึงได้ทำ สนธิสัญญาสันติภาพ (Paris Peace Accords) ในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 โดยสหรัฐอเมริกาโอนภารกิจทั้งหมดให้รัฐบาลเวียดนามใต้เป็นผู้รับผิดชอบในปีพ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) เมื่อกองทัพเวียดกงบุกเข้าถึงกรุงไซ่ง่อน (เมืองหลวงของเวียดนามใต้ในขณะนั้น) ไซ่ง่อนแตกการสู้รบสิ้นสุดลง เดือง วัน มินห์ ประธานาธิบดีเวียดนามใต้ประกาศยอมแพ้ จึงเป็นการสิ้นสุดอำนาจของสหรัฐอเมริกาในเวียดนาม โดยประเทศเวียดนามเรียกสงครามนี้ว่า “สงครามปกป้องชาติจากอเมริกัน”และวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้รวมเป็นประเทศเดียวกันในชื่อ “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” มีการปกครองแบบสังคมนิยม โดยมี “ฮานอย” เป็นเมืองหลวง และเปลี่ยนชื่อเมืองไซ่ง่อนเป็นโฮจิมินห์ซิตี้ ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์
ไม่มีความเห็น