แอ่วเหนือ62 [น่านเนินเนิบ 2]


11-17 พฤศจิกายน 2562 แอ่วเหนือสัมผัสหนาว เช้าวันจันทร์ที่ 11  พฤศจิกายน 2562 คณะของเราที่ร่วมเดินทางมีทั้งหมด  10 คน  ประกอบด้วย ผอ.จันทร อาจารย์ชนิดา พลสิงห์ , อาจารย์จิตวัต อาจารย์กัลยา ธนอัญญาพร, อาจารย์จินดา  สุทธารัตน์, อาจารย์อุษณีย์  ชูแก้ว, อาจารย์พชรพร สุนธารินทร์, อาจารย์ละเมียด ครองไกรเวช และอาจารย์สุทัศน์ อาจารย์สคราญ วิเศษสมบัติ รถตู้โดยสารโดย..นายศุขนันท์ หนุนเกื้อ 
บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน  2562
ประมาณ  14.00 น. พวกเราเดินทางมาถึงวัศรีมงคล (ก๋ง) 

วัดศรีมงคล (ก๋ง) ตั้งอยู่ที่ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน  เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2395  พระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือ หลวงปู่ก๋ง  ด้านหลังวัดมีลานชมวิว ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงาม มองเห็นทุ่งนาเขียวขจี และทิวเขาของดอยภูคาเรียงรายสลับซับซ้อน บริเวณนาข้าวมีที่พักและร้านกาแฟฮักนาน่าน มีสะพานไม้ไผ่เชื่อมจากตัววัดสามารถลงไปเดินเล่นถ่ายภาพได้ โดยบริเวณลานชมวิว ทางวัดได้จัดทำเป็นซุ้มและจุดชมวิวให้ถ่ายภาพหลายจุด รวมถึงร้านกาแฟบรรยากาศไทยๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ  ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งวิหารหลวงที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม โดยเลียนแบบการวาดของหนานบัวผัน จิตรกรชาวน่านเชื้อสายไทลื้อ ซึ่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และวัดหนองบัวของจังหวัดน่าน  รวมถึงพิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี ซึ่งรวมรวมของโบราณต่างๆให้ได้ชม

เมื่อมาถึงด้านหน้าวัดจะมีลานจอดรถด้านข้าง จากนั้นเดินเข้ามาภายในวัดจะเจอวิหารหลวง  มีองค์พระธาตุประดิษฐานอยู่ด้านหน้า บรรยากาศโดยรอบของวัด เน้นตกแต่งแบบไทยล้านนา อนุรักษ์ของเก่าแก่ในอดีต ด้านหน้ายังเป็นที่ตั้งของกระท่อมไม้ไผ่ ชื่อว่าเฮือนมะเก่า ภายในบ้านมีข้าวของเครื่องใช้โบราณ สามารถเข้าไปชมและถ่ายภาพได้  พวกเราแวะเก็บภาพสวย ๆ ด้านหน้า ที่นี่คนเยอะมาก

เดินเข้ามาด้านในจะเจอลานชมวิว เป็นระเบียงกว้างหากมาเที่ยวในช่วงฤดูทำนาจะได้เห็นวิวของนาข้าวเขียวขจีแต่ตอนนีู่้มีแ้ต่ซังแห้งแล้งเพราะเขาเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว   มองลงไปดูแห้งแล้ง  สะพานทรุดโทรม พวกเราจึงเปลี่ยนใจไม่ลงไป  ได้แต่เก็บภาพสวย ๆ บริเวณลานด้านบนค่ะ 

ออกจากวัดศรีมงคล คนขับรถพาเราไปชมวัดภูเก็ต  วัดภูเก็ต ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่า ม่อน หรือ ภู ในหมู่บ้านเก็ต ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าวัดภูเก็ต ตามลักษณะที่ตั้งนั่นเอง โดยวัดนี้มีพระครูสุทินนันทธรรม เจ้าคณะอำเภอบ่อเกลือ เป็นเจ้าอาวาส  วัดภูเก็ตแห่งนี้เป็นวัดที่วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะด้านหน้าจะมีลานชมวิว ซึ่งจะเห็นทุ่งนา และลำธารอยู่ด้านล่าง ท่านสามารถให้อาหารปลาได้โดยจะมีท่อให้ใส่อาหารปลา และมองไปสุดสายตายังมีวิวยอดดอยเป็นฉากหลังที่งดงาม มีทั้ง ดอยภูคา ดอยสกาด ดอยภูสถาน เรียงตัวกันเป็นแนวยาวสวยงามยิ่งนัก  ตรงด้านล่างของลานนั้นจะเป็น โรงแรมธรรมะ สำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม เป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากตีนเขาโดยชั้นดาดฟ้าจะเป็นที่ชมวิว ซึ่งโรงแรมธรรมะนั้น ชื่อว่า ภูเก็ตสนธยา เทมเปิลสเตย์ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีที่พักสำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม 8 ห้องนอน ชั้นที่ 4 เป็นห้องปฏิบัติธรรม โดยผู้ที่มาปฏิบัติธรรมไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่พักอีกต่อไป  วัดภูเก็ตยังเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดภูเก็ต เปิดสอนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 เขตพื้นที่บริการ ตำบลวรนคร ตำบลศิลาแลง ตำบลป่ากลาง และตำบลภูคา ในอำเภอปัว มีพระนักเรียนมาเรียนที่นี่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ออกจากวัดภูเก็ต เป้าหมายของพวกเราคือ  หมู่บ้านสะปัน ซึ่งรถต้องขึ้นที่สูงคือ ดอยภูคา ก่อนถึงหมู่บ้านสะปันมีจุดพักรถ  ให้ชมวิวและเข้าห้องน้ำ  ห้องน้ำที่นี่สะอาดมากค่ะ แต่อากาศเริ่มหนาวเย็น เหมือนที่เขาบอก "ยิ่งสูงยิ่งหนาว"  ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาชมวิวและถ่ายภาพหลายคณะค่ะ  จุดนี้เป็นจุดชมวิว ไม่ว่าใครที่ขับรถผ่านมาส่วนใหญ่ก็จะแวะชมธรรมชาติ ชมป่าไม้ ชมภูเขาและหมอกควันที่นี่ เวลามาออกไปข้างนอกสวยมาก อากาศก็ดีมากเช่นกัน เหมือนได้สูดออกซิเจนเข้าสู่ปอดเลย 

จุดชมวิว 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 ไม่ใช่เบอร์โทรหรือการใบ้หวยแต่อย่างใด แต่คือ ระดับความสูงจากน้ำทะเล เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและลงได้อีกด้วย  บริเวณจุดชมวิวนี้  สามารถมากางเต้นท์ได้ด้วย มีลานจอดรถ และสนามหญ้าสำหรับกางเต้นท์ 

ธรรมชาติสวย ๆเย็น ๆ บนดอยภูคา

จากที่นี่รถตรงไปหมู่บ้านสะปัน ประมาณ 17.00 น.  ถึงที่นี่หมู่บ้านสะปัน หมู่บ้านอากาศดี ธรรมชาติสวยงาม  เหมือนหมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช 

บ้านสะปัน ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน  ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ  9 กิโลเมตร  บ้านสะปัน เป็นชุมชนเล็กๆ แสนสงบ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำธารไหลผ่าน และในช่วงหน้าฝนฤดูทำนา ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของนาข้าวเขียวขจีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าหากแวะมาเที่ยวบ่อเกลือภูเขาขับรถเลยไปอีกเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงหมู่บ้านสะปัน เหมาะสำหรับมาพักผ่อน ปล่อยชีวิตให้เดินไปอย่างช้า ๆ

สะปัน ที่พักบรรยากาศดี แบบเต้นท์กระโจมริมน้ำ แห่งบ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ที่พักตั้งอยู่ติดกับอุ่นไอมาง นอกจากให้บริการที่พักแล้วยังมีร้านอาหารและร้านขายเครื่องดื่ม  สามารถชมวิวสายน้ำหรือจะลงแช่น้ำ ชมวิวภูเขา ในยามเช้าสามารถมองเห็นสายหมอกได้จากหน้าที่พักในยามที่ฝนตกใหม่ๆ ที่พักมีประมาณ 6 หลัง มีเครื่องนอนให้พร้อม ส่วนห้องน้ำแป็นแบบห้องน้ำ ราคาหลังละ 800-1000 บาท พร้อมอาหารเช้า ที่สำคัญเจ้าของเป็นกันเองน่ารักมาก คุณป้าดูแลและให้ข้อมูลเรื่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เราแวะคุยหาข้อมูลแต่ไม่ได้พักค่ะ

ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ คุยกับชาวบ้าน สาววัยรุ่น อิ่มอกอิ่มใจแล้ว พวกเรายังไม่ได้เจาะลึกสถานที่เพราะมีเวลาน้อย มาดูลาดเลาไว้ก่อน สักวันเราจะกลับมาอีกครั้ง  พักรีสอร์ทชมหมอกยามเช้าที่นี่สะปัน กลับขึ้นรถเดินทางเข้าเมืองไปโรงแรมน้ำทองที่จะพักคืนนี้ ก่อนเข้าโรงแรมแวะทานอาหารมื้อค่ำ เพราะค่ำแล้ว สองทุ่มแล้วค่ะ  แวะสวนอาหารเสนียน ที่นี่ต้อนรับด้วยอาหารชุดแรกเป็นขันโต๊ก อาหารอร่อย  บริการสุดยอด คนน่านนี่น่ารักค่ะ

กว่าจะถึงที่พักโรงแรมน้ำทองท่าน ล่วงเข้าเวลา  22.00 น. โรงแรมสวยงามบรรยากาศน่าพักผ่อนนอนหลับค่ะ อาบน้ำนอนพรุ่งนี้เราไปแอ่วน่านเนิบเนิบ ตั้งแต่เช้าตรู่ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 673331เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2019 17:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2019 19:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท