วิ่งที่เฉวง


“การได้วิ่งบนชายหาดมันช่างท้าทาย”

ก่อนหน้านั้นคืนหนึ่งผมได้เฉลิมฉลองกับญาติๆไปพอประมาณ เครื่องดื่มขวดแล้วขวดเล่าถูกนำมาเสิร์ฟ ที่ว่าพอประมาณนั้นก็เพราะผมอยากว่ายน้ำก่อนนอน ผมอยากตื่นเช้า ผมอยากดูดวงตะวันโผล่พ้นผืนน้ำ และผมอยากวิ่งบนชายหาด

หาดเฉวงของสมุยมันคือชายหาดทางฝั่งตะวันออกซึ่งมีความลาดเทต่ำ พื้นทรายใต้ท้องทะเลที่ชายหาดก็ลาดเทน้อย เราสามารถเดินออกไปในทะเลได้ไกลๆ

แต่เดี๋ยวก่อน

ห้ามประมาท!

เพราะในความลาดเอียงน้อยๆนั่นเอง มันยังมีลักษณะของการมีร่องลึกดักอยู่เป็นช่วงๆ คือคลื่นมันพัดเข้าหาฝั่ง ดึงทรายส่วนหนึ่งกลับลงไปทะเล ไอ้ทรายที่มันพาลงมานั้นก็จะถูกสะสมไว้ห่างจากฝั่งออกมาไม่มาก และร่องระหว่างนั้นนั่นแหละที่จะเป็นร่องลึก ชาวบ้านสมุยเรียกลักษณะแบบนี้ว่า “ปึก” เดินเพลินๆ มีสิทธิ์จมและถูกกระแสน้ำพัดออกไปได้ หากใครมีสติสักหน่อยก็ให้มันพัดออกไป เพราะอีกนิดหนึ่งก็จะเป็นสันทรายที่ว่านั้น ยืนได้

๘ พย ๖๒ ผมตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะอยากออกมาวิ่งที่ชายหาด ตื่นขึ้นมาราว ๖ โมง ดื่มน้ำ คว้ากางเกง สวมเสื้อ แล้วก็ย่ำตีนเปล่าออกมาจากห้องนอน

ลมพัดเย็นสบาย มองออกไปในทะเลเห็นเมฆฝนอยู่ไกลๆ ดวงตะวันยังคงหลบหาย ส่องเพียงแสงพ้นขอบฟ้าขึ้นมาระเรื่อ ผมหันไปทางทิศใต้ แล้วออกวิ่ง

ลมเย็น และลืมใส่กางเกงใน!

(แหม่..ทำเป็นใส่เครื่องหมาย ! อันที่จริงก็ตั้งใจไม่ใส่กางเกงชั้นในนั่นแหละ อยากวิ่งโทงโทงบ้าง)

สมุยในช่วงเวลาก่อนและหลังลอยกระทงเช่นนี้ น้ำทะเลจะขึ้นสูง ชาวบ้านเรียกว่า “น้ำใหญ่” ดังนั้น ชายหาดมันจึงหดสั้น ความลาดเอียงจึงค่อนข้างชัน ทรายส่วนที่เหลือคือชั้นทรายร่วนซุย ไม่แน่นเหมือนผืนทรายริมทะเลช่วงน้ำลง

วิ่งไป เท้าจมทรายไป มันพาให้เหนื่อยจนแทบขาดใจ

“ไส้เลื่อน” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาในห้วงความทรงจำ อาจจะเป็นเพราะผมวิ่งโดยไม่ได้ใส่กางเกงชั้นใน

ผมจำได้ เมื่อคราวนั้นที่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ ผมมีผู้ป่วยเด็กเป็นไส้เลื่อนกำลังจะรับการผ่าตัด

“เป็นไส้เลื่อนเพราะไม่ใส่กางเกงในใช่ไหมคะ” แม่ของเจ้าหนูน้อยถามทีมหมอที่มาดูแล

“หมอว่ายังไง” อาจารย์ศัลยแพทย์เด็กผู้ใจดีมองหน้าพวกผมแล้วป้อนคำถามมา

ผมจำไม่ได้แล้ว ว่าตอบโง่ๆอะไรออกไปบ้าง แต่ครูบอกว่า “ไม่เกี่ยวกัน”

การจะเป็นไส้เลื่อน ไม่ได้เกี่ยวกับการใส่หรือไม่ใส่กางเกงใน แต่มันเกี่ยวกับการมีแรงดันในช่องท้องสูงๆเป็นระยะเวลานานๆ หรือไม่ก็มีความอ่อนแอของผนังช่องท้องเองอยู่แล้ว แบบนั้นถึงจะใส่กางเกงในสามชั้นก็ยังเกิดไส้เลื่อน

ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เลยไม่ได้ใส่ใจกับการใส่หรือไม่ใส่กางเกงในเท่าไหร่นัก จะว่าไปสำหรับผมแล้ว กางเกงในน่าจะมีไว้เพื่อไม่ให้เศษฉี่มันซึมออกมาถึงกางเกงตัวนอกมากกว่า หรือไม่ก็เพื่อป้องกันขนหะมอยถูกรูดติดเข้าไปในซิปกางเกง นี่ผมคิดเอาเองนะครับ ได้โปรดกรุณาอย่าเชื่อเป็นตุเป็นตะ

เป็นอันว่า วิ่งบนหาดทรายที่สมุยโทงโทง ไม่ทำให้เป็นไส้เลื่อน โอเคนะครับ

ไม่เลื่อนก็ไม่เลื่อน แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยแทบขาดใจ วิ่งมาได้ ๑.๗ กิโลเมตรก็ถึงต้นหาด ผมเคยมานอนที่นี่ “ซีไซด์บังกะโล” รีสอร์ทเล็กๆที่มีเพื่อนเป็นเจ้าของ ผมเคยมานอน มากิน มาวิ่งเล่นและว่ายน้ำที่นี่ มาบัดนี้ การมองขึ้นมาจากชายหาดขณะที่กำลังหนื่อยจนลิ้นห้อย ความทรงจำได้ผุดขึ้นมาโดยที่มันไม่มีลักษณะอื่นใดของรีสอร์ทที่ผมจดจำได้เลย นอกไปจากการเหยียบขี้หมาของเพื่อนคนหนึ่งเมื่อครั้งเรียนชั้น ม.๓ เท่านั้นเอง

ตัดสินใจวิ่งกลับ

ผมกลับหลังหันไปทางทิศเหนือ

ความบอบช้ำทางจิตใจที่จดจำบ้านเพื่อนไม่ได้มันน้อยกว่าความบอบช้ำของกล้ามเนื้อน่องทั้งสองข้าง การวิ่งบนทรายนิ่มๆ สวบๆ มันแสนจะเมื่อยน่องและดูดพลังงาน ใจผมอยากจะวิ่งไปจนสุดขอบชายหาดด้านทิศเหนือ แต่ก็จนด้วยสังขารที่น่าจะไปต่อไม่ไหว ดูนาฬิกาพบว่าได้ระยะทางไปกลับ ๓.๔ กิโลเมตร ผมจึงตัดสินใจหยุดวิ่ง

“เหนื่อยจนลิ้นห้อยและไข่หด”

ไข่หด!

จริงๆนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะลามก เพียงแต่อยากจะอธิบายหลักการทางสรีรวิทยาซึ่งเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ให้ทราบ

ที่ตั้งใจวิ่งแบบโทงโทงไม่ใส่กางเกงชั้นใน เพียงเพราะต้องการจะคลำเจี๊ยวดูทั้งขณะและหลังวิ่งเสร็จใหม่ๆ อยากจะบอกว่า ในช่วงที่ร่างกายใช้พลังงานสูง มีความตึงเครียดสะสมจากการออกแรงวิ่ง ตอนนั้นมันเสมือนหนึ่งการ “ออกรบ” ระบบประสาทอัตโนมัติที่ชื่อว่า “ซิมพาธีติก” มันจะทำงานเด่น หลอดเลือดจะหดตัว ความดันเลือดจะสูงขึ้น แรงดันในหลอดเลือดจะสูงขึ้น เลือดจึงไหลเข้าเจี๊ยวน้อยลง “ไข่จึงหด”

มันคือเรื่องจริง “ไข่หด” ส่วนไข่ใครจะหดลงจนสั้นขนาดไหน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า พ่อให้มาเท่าไหร่นะครับ

ผมคลำเจี๊ยวตัวเอง

เออ..หดจนน่าสงสารเลยเชียว

แต่เอาเหอะ ตอนนี้วิ่งไม่ไหวแล้ว เดินดีกว่า

ผมล้างเท้า แล้วเดินผ่านสระว่ายน้ำสีแดง นึกอยากกระโดด แต่ร่างกายในชุดวิ่ง มันไม่น่าจะเหมาะสม จึงออกเดินต่อไปในรีสอร์ท ไหนๆออกกำลังกายแล้ว ขอให้ได้สัก ๔ กิโลเมตร

ทางเดินในรีสอร์ทถูกตีระแนงด้วยไม้เดินได้นุ่มเท้า ลูกไม้บางอย่างถูกกระรอกกินทิ้งกินขว้างอยู่เกลื่อนกลาดตามทางเดิน และเพียงระยะไปกลับ ผมก็เก็บระยะทางจนครบ ๔ กิโล

หิว..

“น้องครับ ผมขอข้าวต้มกุ้ง ไข่ขาวเจียวกับแซลมอน สลัดผักใส่เฟสต้าชี้ส น้ำมะเขือเทศ และกาแฟร้อน” ผมส่งรายการที่จะกินไปให้น้องบริกร

เสียงเครื่องบินใบพัดของบางกอกแอร์เวย์สบินผ่านหัว สนามบินอยู่ห่างจากหาดเฉวงไปไม่ไกล แสงแดดอ่อนๆ และลมทะเล มันแสนจะผ่อนคลาย

อาหารถูกจัดการจนเกลี้ยง

ชายหาดเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติออกมาเดินเล่น ว่ายน้ำ และบางคนเริ่มเตรียมอาบแดด

มันก็คงถึงเวลาที่ผมต้องกลับห้อง

อย่าลืมสิ

ไม่ได้ใส่กางเกงในออกมานี่นา

“การได้วิ่งบนชายหาดมันท้าทาย แต่การวิ่งบนชายหาดโดยไม่ใส่กางเกงชั้นใน มันท้าทายกว่า แต่การนั่งมองนักท่องเที่ยวนอนอาบแดดตอนนี้น่ะสิ มันช่างท้ายทายที่สุด”

ธนพันธ์ ชูบุญวิ่งที่สมุยนิดเดียว๘ พย ๖๒

“The Library Samui ที่นี่น่านอน บอกเค้าไปนะ ว่าอ่านมาจากผม ขอส่วนลด แล้วทำหน้าเนียนๆไป ได้หรือไม่ได้ อย่าใส่ใจ เพราะผมไม่ใช่เจ้าของ”

ส่วน “ไทยรัน” ถ้ามาจัดงานวิ่งที่สมุย ช่วยส่งผมมาลงวิ่งด้วยนะ ได้โปรดดดดดด

จบนะ

คำสำคัญ (Tags): #วิ่ง#เฉวง#สมุย
หมายเลขบันทึก: 673325เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2019 08:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2019 08:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท