คุณหมอเอ๋หรือคุณหมอนาฏพธูเป็นโต้โผใหญ่ในการทำระบบเฝ้าระวังวัณโรคของสถาบันมีพี่ปุ๊ย(สำรวย)เป็นมือขวาและพี่พัช(หน.ตึก๗/๖)เป็นมือซ้าย..เริ่มทำงานกันอย่างขมักขเม้น..มีการประชุมและค้นหาความร่วมมือจากในและนอก..ในโครงการนี้มีTUCช่วยสนับสนุนทั้งทางด้านทุนและวิชาการด้วย..การประชุมครั้งล่าสุดเมื่อบ่ายๆวันที่๘ ธันวา...
นอกเหนือจากมีการคุยเพื่อประสานงานกับแลปแล้วยังมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทีมให้การปรึกษาเมื่อพี่ปุ๊ยเสนอว่าอยากให้มีThridcallสำรองเผื่อว่าฉันและไก่ชุติมาติดภาระกิจเพราะในตอนนี้ทางคัดกรองพอมีเคสที่ต้องสงสัยก็จะส่งมายัง๖/๑(ทีบีคลินิก)เกือบทั้งหมดจนทีบีคลินิกเริ่มกลายเป็นมินิโอพีดีแล้ว ปัญหาปัจจุบันคือเรารู้ผลของเอ็กซ์เรย์เร็วกว่าผลเสมหะ..การให้รอเฉพาะผลเสมหะกรณีที่ผู้ป่วยเอ็กซ์เรย์ปกติอาจทำให้ผู้รับบริการไม่พอใจและทำให้เข้าสู่การรับบริการช้ากว่าที่ควร.
.โดยทางเทคนิกแล้วก็เป็นการยากมากเหมือนกันที่เหมือนมีอาการแล้วผลเอ็กซ์เรย์จะไปขัดแย้งกับผลตรวจเสมหะ..
ทางทีบีคลินิกจึงอยากประสานที่จะขอส่งผู้รับบริการเอชไอวีรายใหม่ของสถาบันซึ่งผ่านการScreenจากทีบีคลินิกตรวจเอ็กซ์เรย์แล้วผลปกติแต่ยังไม่รู้ผลเสมหะขึ้นมารับคำปรึกษาตามระบบต่อที่คลินิกปรึกษา๗/๒..จะเป็นไปได้หรือไม่และทางทีบีอยากให้มีระบุผู้รับผิดชอบไว้เพื่อความสะดวกในการประสานงานหรือติดต่อ..ตกลงในเบื้องต้นว่าอาจจะขอเชิญพี่เจี๊ยบ/พันธ์ทิพย์หัวหน้างานการปรึกษามาทำความเข้าใจในประเด็นนี้.
..มีอีกงานหนึ่งที่ฉันจะต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม...ตอนนี้แนวของTB Clusterเขาสร้างรูปแบบการให้ข้อมูลก่อนการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีในผู้ป่วยวัณโรคแบบใหม่ที่เรียกว่าDCTคาดว่าอาจจะนำมาใช้แทนVCTฉันถามคุณอ้อยTUCว่าจะหาข้อมูลเรื่องDCTนี้ได้จากใครบ้าง เธอก็ใจดีบอกชื่อและเบอร์โทรมือของอจ.ผู้แปลและดูแลModualมาให้คาดว่าคงเป็นอังคารนี้ที่เป็นวันเปิดทำงานจะได้ติดต่อกับอาจารย์เพื่อศึกษาข้อมูล..
เท่าที่คุยกับคุณอ้อยคร่าวๆถึงความแตกต่างระหว่างDCT:VCTจะอยู่ตรงที่การซักและประเมินพฤติกรรมเสี่ยงต่อการรับและแพร่เชื้อเอชไอวี ในระบบDCTจะไม่ทำRisk assessment ฟังแล้วก็คิดต่อไปว่าอาจง่ายในตอนต้นและผลตรวจเอชไอวีเป็นปกติแต่ถ้าเกิดผลPOSITIVEล่ะจะต้องวกกลับมาทำVCTเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า.
.เรื่องนี้ยังหาคำตอบและข้อสรุปไม่ได้..คงต้องไปหารายละเอียดเพิ่มเติมก่อน..ที่สำคัญการตกลงใจจะใช้วิธีการอะไรก็ตามผลกระทบต่อผู้รับบริการเป็นสิ่งที่ควรช่วยกันพิจารณาก่อน
.
.ที่เขียน/บันทึกมาก็เพราะเชื่อมั่นและชื่นชมวงทำงานทีบีภายใต้การนำของคุณหมอเอ๋มากมากซึ่งหมอเอ๋จะเอาใจใส่และพยายามช่วยเท่าที่คุณหมอจะทำได้..อย่างฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องโรคและยาเท่าไหร่หมอก็จะเป็นเหมือนคุณเชื่อมส่งข้อมูลและแนะนำผู้รู้ให้เราได้รู้จัก..คุณอ้อยพี่นกหนูติ๋มTUCก็เป็นผู้ประสานงานที่ดีมีข้อสงสัยก็สามารถไปหาหรือสอบถามได้อยู่เสมอ
..งานทีบีเป็นงานช้างแต่พวกเราถ้าช่วยกันไม่ว่าจะเป็นอยู่แผนกหรือกลุ่มไหนก็จะส่งต่อบริการที่ดีในการระวังและรักษาผู้ป่วยทีบีให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยได้ในที่สุดค่ะ