"ปรัชญา อนิจจัง"

สายตาหน้าใหม่ เพิ่งเกิด
ตื่นโลกบรรเจิด หลงไหล
หลงตนสนตัวเลิศ วิไลแล
กฎผันแปรกองกาย แก่เฒ่า จึงเข้าใจ

โลกเป็นไปตามกาล กำหนด
การโคจรเป็นดังกฎ เปลี่ยนผัน
วนเวียนว่ายตามกฎ ดึงดูด สุริยะ
สรรพสิ่งสรรพสาร แปรผัน กาลกลืน

มนุษย์สัตว์พัฒนา จากป่าน้ำ
มาอยู่ในภูถ้ำ ตามวิสัย
วันคืนหมื่นกาลย้ำ กายแก่ แปรปรวน
สูญสิ้นอินทรีย์กาย เหลือหลง ผงธุลี

กิจการงานประกอบ ตอบสนอง
เพื่อญาติและพี่น้อง คู่ครัว ไซร้
วาดหวังสร้างครรลอง ผลสำเร็จ
สงบสุขสนุกตัว แก่นแท้ ชีวา

คู่ครองค้องคอเคล้า พันธนา
ลูกและหลานคือยา เร่งเร้า
ภารกิจอิดโรยรา ย่อท้อ เข้มแข็ง
อยู่เย็นเป็นทุกข์เคล้า เหง้าจิต อนิจจัง

กายยังกล้าท้ากร กาลกร้ำ
กายวัยกลางเกินกรรม ช้ำหนัก
ผลพิษภัยกายกรรม เริ่มประจักษ์
โลกวอนสอนตระหนัก หลักแท้ ปลงใจ

ยิ่งยากเยอะเมื่อยาวยืน ฝืนกฎ
ภัยพรั่งพรูจ้องกด ป่วยไข้
โรคนานามากำหนด ต่อยตอดตรม
เจ้าของปกครองกาย พ่ายแพ้ แลมอง

ยิ่งอยู่ยืนยิ่งตื่นตัว ทั่วหล้า
เห็นมนุษย์มรณา สูญหาย
ทวนทิศชีวิตผ่านมา ทุกขตา อนิจจัง
เห็นคนใกล้คนไกล ร่วงล้ม ระทมใจ

ทบทวนทางทิศจิต เห็นธรรม
โลกมายาตอกย้ำ สัจกล
โลกชีวิตจิตธรรม คือความงาม อโสภา
ใครคิดจิตไหวพ้น กลจักร อนิจจา

ปรัชญาที่ตาเห็น มายากล
จิตรู้กฎทั่วสากล ผลลัพธ์
กายมายาฆ่าตน หลอกลวง ดวงตา
แก่นแท้ความลับ ชีวิต ผลิตรู้ตัว

พุทธศาสน์ปรัชญา ลุ่มลึก
สอนให้รู้ตรึก ปรากฎผล
รู้เห็นรู้อยู่ไม่ลึก กลกาย กอรปกรรม
รู้รอบกรอบตัวตน กฎสากล เหนือกาลกิน

จิตคือสนามเวที เทศนา
แปรไหวไปมา ค่ำเช้า
ก่อการงานนานา ประจำกิจ
สะท้อนปริศนาเค้า เงาข้อ อนิจจัง

เห็นโครงสร้างทาง ชีวิต
เห็นทางเที่ยวจิต สำแดง
เห็นกายก่อทิศ เอนเอียง ไซร้
เห็นจุดจบภพไป ธงแท้ อนิจจา