๙๕๑.....คิดไม่ออก


การพูดให้โรงเรียนขนาดเล็กมาก เกิดแรงจูงใจในการทำงานเชิงพัฒนา พูดแค่ให้กำลังใจคงไม่พอ..เมื่อผมคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร ผมจะใช้เรื่องราวและกิจกรรมปัจจุบันเป็นฐานข้อมูล..ไม่ต้องคิดและพูดให้มากความ..

         เมื่อก่อน..เวลาคิดไม่ออก ผมก็จะพยายามคิดเพื่อคิดให้ออก..เดี๋ยวนี้..คิดไม่ออกก็ช่างมัน ปล่อยวางไว้ ไม่ต้องคิดไม่ต้องฝืน เอาเวลาและสมองไปคิดเรื่องอื่น

    คิดไม่ออก..เป็นอาการอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เกิดจากความขี้เกียจ แต่ก็ไม่ขยันพอที่จะใช้ความพยายาม ผมคิดว่าเป็นไปตามสังขาร มิได้เกิดจากภาระงาน

        การที่คิดออก มักเป็นเรื่องง่ายๆและเป็นงานประจำ ทำมาทุกปีทำมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ..ทำด้วยความถนัดและให้ความสนใจ

        ผมคิดว่า..ผมจะให้นักเรียนปลูกผักบุ้งจีนทุกเดือน..ผมทำแล้วและผลผลิตก็เข้าสู่โรงครัว เพื่อเป็นอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อย

        ผมคิดออกได้ในทันที..ก่อนที่จะให้นักเรียนหยอดเมล็ดพันธุ์ผักบุ้ง ผมต้องให้นักเรียนเตรียมดินด้วยการผสมกับมูลวัว แล้วตากดินไว้ราว ๑ สัปดาห์

        เมล็ดพันธุ์ก่อนที่จะนำไปหยอดเป็นแถวๆ จะต้องนำไปแช่น้ำ ๑ คืน เมื่อลงมือปลูกแล้ว ก็ต้องหมั่นรดด้วยน้ำหมักชีวภาพ ผักบุ้งจึงจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

        ผมไม่เคยที่จะคิดไม่ออก..ว่าแม่ครัวโรงเรียน..ต้องใช้พริก ใบกระเพรา โหระพา มะเขือเทศ บ่อยมากๆ..ซึ่งตอนนี้ผมกับนักเรียนก็ได้ลงมือปลูกแล้ว..

        เลี้ยงไก่..เลี้ยงปลาและเพาะเห็ดนางฟ้า..ก็ยังคงเป็นกิจกรรมตามปกติ อย่างอื่นนอกจากนี้..ผมก็คิดไม่ออกว่าจะต้องทำอะไร...

        วันนี้..เกษตรอำเภอนำเมล็ดปอเทืองมาให้ผมกระสอบใหญ่ ผมคิดไม่ออกว่าขอไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จำได้แต่ว่าก่อนทำนา”วันแม่” ถ้าได้ปลูกต้นปอเทืองแล้วไถกลบ ก็จะเป็นปุ๋ยแก่ผืนนามิใช่น้อย..

        เมื่อก่อน..ผมคิดออกแต่ว่าจะต้องออกนอกกรอบ..เหมือนว่าต้องดิ้นหนีตาย หรือทำให้โรงเรียนอยู่รอดอย่างมีคุณภาพ ตอนนี้ก็ยังทำอะไรได้มากมายแต่เหมือนว่ายังอยู่ในกรอบเดิมๆที่เคยทำ..ทำซ้ำ..แต่ให้ดีขึ้น

        วงดุริยางค์ยังก้องกังวานอยู่ทุกเช้า ด้วยบทเพลงใหม่ๆ กลองยาวยังต้องถ่ายทอดจากพี่ลงสู่น้อง ป.๓..ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะผมคิดออกว่าถ้ามีการเป่าปี่ชวาประกอบในวงกลองยาวด้วย จะเร้าใจอย่างมากมาย

        ด้านการสอน..ผมคิดไม่ออกเลยว่าสื่อหรือเทคโนโลยีตัวไหนบ้าง? ที่ช่วยให้เด็กรักการอ่าน ทำให้เด็กอ่านคล่องเขียนคล่อง..

        แต่ผมคิดออกทุกวัน..ว่าถ้าสอนซ่อมเสริม..ให้นักเรียนอ่านออกเสียงทีละคนแล้วก็อ่านเป็นกลุ่ม..ทำทุกวันซ้ำๆ..รับรองอ่านได้แน่นอน

        ผมคิดไม่ออก..เมื่อนึกย้อนไป ๑๐ ปีที่ผ่านมา..ผมทำอะไรไปมากกว่านี้หรือไม่?..ในวันที่ผมมีนักเรียน ๕๐ คน คิดออกอย่างเดียวว่า..ทำงานหนัก..

        แล้วทำอะไร..อย่างไร?..จึงทำให้มีวันนี้..คิดไม่ออกคงไม่เป็นไร..แต่ถ้าคิดออกขึ้นมาได้เมื่อไหร่..ผมจะนำไปบอกครูที่จะมาศึกษาดูงานที่โรงเรียน..

        เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีเด็กนักเรียน ๓๓ คน อีก ๓ เดือนโรงเรียนนี้จะไม่มีผู้บริหาร..จะมีครูแค่ ๓ คน..สถานการณ์กำลังจะอยู่ระหว่างกลาง คืออยู่กับ..ยุบ

        ผมจึงบ่นเบาๆกับตัวเองว่า..ทำไม?ถึงนึกไม่ออกว่าได้บริหารจัดการอย่างไรบ้าง จึงทำให้โรงเรียนดูจะมั่นคง อาจไม่ถึงกับมั่งคั่ง..แต่มีแนวโน้มของความยั่งยืน..

        ผมคิดว่า..การพูดให้โรงเรียนขนาดเล็กมาก เกิดแรงจูงใจในการทำงานเชิงพัฒนา พูดแค่ให้กำลังใจคงไม่พอ..เมื่อผมคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร ผมจะใช้เรื่องราวและกิจกรรมปัจจุบันเป็นฐานข้อมูล..ไม่ต้องคิดและพูดให้มากความ..

        เพราะปัจจุบันกาล..ผมได้ทำอย่างพอดี พองาม และพอเพียง..และเป็นเรื่องง่ายๆ..ที่ใครก็ทำได้และอาจทำได้ดีกว่า...ขอแต่คณะที่จะมาดูงาน..รับฟังและไม่ท้อกันเสียก่อน..ก็เพียงพอ
.ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๖  มิถุนายน  ๒๕๖๒

หมายเลขบันทึก: 662282เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2019 21:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน 2019 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท