มหาวิทยาลัยนานาชาติเทเลอร์ Taylor's university (๑) ภาพรวม


วันที่ ๒๒-๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ มีวาสนาได้มาศึกษาดูงานมหาวิทยาลัยเทเลอร์ (Toylor's University) คลิกที่นี่  เมืองซูบังจายา (Subang Jaya) มาเลเซีย เราดูงานกัน ๑ วันเกือบจะเต็มเต็งเวลาราชการ ตั้งแต่ ๙.๐๐ น. ถึง ๑๕.๐๐ น.  ระหว่างทางรถบัสจะกลับบ้านมาลานบิน ผมขออนุญาตทำกิจกรรม AAR (After Action Review) แบบสั้น ๆ  ให้แต่ละท่านที่มาศึกษาดูงานได้สะท้อนและเสนอแนะให้ GE นำไปคิดทำต่อ

บันทึกหน้าโน้นจะมาสรุปทุกประเด็นที่ทุกท่านที่ไปด้วยกันสะท้อนมา บันทึกนี้จะสรุปเอาเฉพาะสิ่งที่ผม "ฟังทัน" มาแลกเปลี่ยนครับ


มหาวิทยาลัยเทเลอร์มีอายุยาวนานกว่า ๕๐ ปีที่มาเลเซีย มีการทำป้ายไทม์ไลน์ไว้ให้ผู้สนใจใคร่เห็นภาพรวมการพัฒนามหาวิทยาลัยได้สะดวกดี  

    • เริ่มตั้งแต่ปี 1969 ตั้งเป็นวิทยาลัยที่เมือง Jalan Pentai ใจกลางเมืองก่อน  ก่อนจะมาตั้งเป็นวิทยาเขต "เลคไซด์" ที่เมือง Subang Jaya ที่เราไปดู  
    • ช่วงแรกเป็นวิทยาลัยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการบริการก่อน (Hospitality) ต่อมาค่อยเพิ่มเติมให้มีศูนย์ภาษา สาขาธุรกิจ วิศวกรรม สถาปัตย์ ไอที การศึกษา และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนปัจุบัน 
    • โดยยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยในปี 2006
  • จุดเด่นที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้ที่เขาภูมิใจมากครับ  นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยนี้ มีงานทำมากที่สุดเป็นอันดับ ๔ ของโลก  ... เขาบอกว่าติดท๊อป 1% ของมหาวิทยาลัยในโลกที่จบแล้วมีงานทำ 

  • ฝั่งโถงหน้าสำนักงาน จะมีห้องโถงสำหรับผู้สนใจมาดู มาเลือกหลักสูตร เขาทำโบรชัวร์รายละเอียดหลักสูตรต่าง ๆ ไว้อย่างดี หยิบอ่านได้ฟรีบนโต๊ะนั่งที่ไม่มีพื้นที่ว่างจากโฆษณาเลย .... 

  • เทียบกับ มมส. เราแล้ว Enrollment & Administration Service ของที่นี่ น่าจะทำหน้าที่ทั้งหมดด้านทะเบียน บริการการศึกษาทุกอย่าง การเงิน การคลัง ฯลฯ  แบบ One Stop Service โดยนักศึกษาสามารถจัดการงานต่าง ๆ  ออนไลน์ผ่าน Applications บนมือถือได้เอง ... คือไม่จำเป็นไม่ต้องมา จะมาเฉพาะตอนที่ต้องเจอหน้าหรือลงลายมือ 

  • ที่นี่มีนักศึกษาประมาณ ๑๑,๐๐๐ คน สำเร็จการศึกษาปีละประมาณ ๓,๐๐๐ นักศึกษาร้อยละ ๗๕ เป็นคนมาเลเซีย (ส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นจีนมาเลฯ) อีกร้อยละ ๒๕ เป็นนักศึกษาชาวต่างชาติ โดยมากเป็นเชื้อชาติแขกอินเดียผิวคล้ำ 
  • มีห้องโถงใหญ่ไว้ใช้ในงานพิธีและใช้เป็นสนามทดสอบ ขนาดความจุประมาณ  


  • ผู้บริหารสูงสุดมานำเสนอภาพรวมของมหาวิทยาลัยให้เราฟังด้วยตนเอง ท่านสำเร็จด้านศึกษาศาสตร์ ...  มิน่าล่ะ... การจัดการเรียนการสอนของเขาเปลี่ยนไปเป็น Teach Less Learn More หมดแล้ว

  • อัตลักษณ์สำคัญของเทเลอร์ยู คือ 
    • มีเป็นผู้บุกเบิกหลักสูตรใหม่ในมาเลเซีย
    • เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่มุ่งเอาการมีงานทำของบัณฑิตเป็นสำคัญ  
    • มีหลักสูตรที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันเป็นองค์รวม
    • นักศึกษามีอิสระและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง 

  • มีหลักสูตรทั้งหมด ๓๖ หลักสูตร
  • มีหลักสูตรระยะสั้นแบบโมดูลทั้งหมด ๗๕๐ หลักสูตร
  • กระบวนการสอนแบบ Teah Less Learn More (TLLM)
  • พื้นที่เรียนรู้ทั้งแบบจริงและเสมือน 

  • ใช้กระบวนการประเมินผลรับการเรียนรู้ที่หลากหลายและเป็นระบบ ได้แก่
    • ประเมินจากการมอบหมายงาน และเรียนรู้ผ่านกระบวนการประเมิน
      • ประเมินความพยายาม
      • ประเมินการจัดการเวลาและความพยายาม
      • (โดยใช้หลักการของ Gibbs and Simsons (คลิกที่นี่))
    • การประเมินโดยนักศึกษามีส่วนร่วม 
      • ให้นักศึกษาได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการประเมินผลการเรียนรู้ 
      • ให้นักศึกษาได้ประเมินคุณภาพผลงานของตนเองหรือของกลุ่ม 
    • การติดตามผลสะท้อนป้อนกลับ 
      • ผลป้อนกลับ (Feedback) เป็นระยะ ๆ  ประจำ ๆ และเป็นการสะท้อนป้อนกลับในสิ่งที่สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ 
      • (โดยใช้หลักการของ Gibbs and Simsons เช่นกัน)

  • หลักในการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในเทเลอร์ยู ได้แก่
    • นำเรียน (Guide Learning)
    • การสอนหรือการเรียนรู้จากของจริง (Authentic Learning)
    • การเรียนรู้ด้วยการกำกับตนเอง (Self-Directed Learning)
    • การเรียนรู้บนฐานปัญหา (Problem-based Learning)
    • การเรียนรู้ผ่านโครงการ (Project-based Learning)
    • การเรียนรู้จากกรณีตัวอย่าง (Case-based Learning)
    • การรเรียนรู้ในสตูดิโอ (Studio-based Learning)

  • สำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย สร้างพื้นที่เรียนรู้เอื้อต่อการเรียนรู้ทั้ง ๓ แบบบูรณาการกัน ทั้งในตารางเป็นตาราง นอกรูปแบบ และเรียนรู้ออนไลน์ด้วยตนเอง 

  • ทักษะสำหรับอนาคต คือ ความสามารถในการที่จะแก้ปัญหาไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตโดยไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น ได้สำเร็จ
  • ทักษะในอนาคต เป็นทักษะส่วนบุคคล แสดงออกผ่านการกระทำหรือท่าทีในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ซึ่งแสดงออกให้คนอื่นเห็นเป็นความสามารถ 

  • ดังนั้น ภาพแห่งอนาคตของการอุดมศึกษา จึงมีว่า 
    • ต้องเป็นมหาวิทยาลัยแห่ง "ทักษะสำหรับอนาคต" 
    • เป็นเครือข่าย (เป็นมหาวิทยาลัยเครือข่าย)
    • ต้องมองว่าเป็นภาพแห่งอนาคตของ "มหาวิทยาลัยของฉัน"
    • ภาพแห่งการเป็นมหาวิทยลัยแห่งการเรียนรู้ตลอชีวิต

  • แผนภาพนี้ท่านเสนอผลการสำรวจว่า อะไรคือทักษะหรือสมรรถนะของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งออกเป็น ๓ ด้าน ใหญ่ ๆ ได้แก่
    • Subject (ด้านอัตตวิสัย) Individual Development-related skills (ทักษะการพัฒนาตนเอง)
      • Autonomous Learning Competence  (สมรรถนะในการเรียนรู้สิ่งใหม่)
      • Personaly Agility (ความแคล่วคล่องว่องไว)
      • Self-efficacy (การรู้จักความสามารถของตนเอง)
      • Self-management (การจัดการตนเอง)
      • Self-initiative (การริเริ่มด้วยตนเอง)
      • Autonomy (การสร้างตัวตน)
      • Needs/ Motivaiton Achievement (ความต้องการหรือแรงบันดาลใจสู่ความำสำเร็จ, ความมุ่งมั่น)
    • Objective (ด้านวัตถุวิสัยหรือภววิสัย) Individual Objective-related skills (ทักษะส่วนบุคคลเกี่ยวกับวัตถุ/กายภาพ)
      • Ability to refflect (ความสามารถในการสะท้อน)
      • Digital literacy (สมรรถนะดิจิทัล)
      • Tolerence for ambiguilty (ความอดทน อดกลั้น, ทนต่อความคลุมเครือ ไม่ได้ดั่งใจ)
      • Creativity (การสร้างสรรค์)
      • Agility (ความว่องไว)
    • World (ด้านสังคม/โลกมนุษย์) Individual Organization-related skills (ทักษะเกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กร)
      • Communication skills (ทักษะการสื่อสาร)
      • Cooperative skills (ทักษะความร่วมมือ)
      • Sense-making (การให้ความหมาย การสร้างการรับรู้ใหม่ๆ)
      • Future mindset (กรอบคิดแห่งอนาคต)

  • ทักษะสำหรับศตวรรษที่ ๒๑ ๑๐ ประการที่เสนอโดยเวิร์ลอีคอโนมิคฟอรัม เรียงตามลำดับความสำคัญ  ได้ดังนี้ 
    • แก้ปัญหาที่ซับซ้อน
    • คิดอย่างมีวิจารณญาณ
    • คิดสร้างสรรค์
    • จัดการคน
    • ทำงานร่วมกับผู้อื่น
    • ฉลาดทางอารมณ์ 
    • ตัดสินใจ
    • การบริการ
    • การเจรจา
    • ความยืดหยุ่นทางความคิด 
  • สังเกตว่า มีการเปลี่ยนระดับความสำคัญของทักษะ หลังจากเวลาผ่านไปเพียง ๕ ปี  ความคิดสร้างสรรค์ พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ จากเดิมที่อยู่ลำดับ ๑๐ 

  • จุดเน้นอย่างหนึ่งที่ ม.เทเลอร์ ขับเคลื่อนและนำเสนอ คือ โมดูลการพัฒนาทักษะชีวิต (Life Skills Modules) เป็นโมดูหลักของมหาวิทยาลัย 
  • นักศึกษาได้พัฒนาเครื่องมือการใช้ชีวิตที่จำเป็นสำหรับยุค VUCA 
    • Volatile (เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว)
    • Uncertain (ไม่แน่นอน)
    • Complex (ซับซ้อน)
    • Ambiguous (คลุมเครือ)

  • การจัดการเรียนรู้ที่นี่เปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง  เป็นแบบ TLLM (Teach Less Learn More)  ทั้งหมดแล้ว 
    • ห้องเรียน ๖๕ ห้อง จาก ๘๕ ห้องเรียน เป็นแบบ Active Learning Space (พื้นที่เรียนรู้แบบผู้เรียนมีส่วนร่วม)

  • มีห้องบรรยายที่ผู้เรียนจะไม่รู้สึกว่าอยู่ข้างหลังใคร 
  • มีระบบบันทึกการสอนบรรยาย ให้นักศึกษาดูซ้ำได้จากทุกที่ ทุกเวลา 

  • ห้องเรียน Active Learning 

  • กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ นิสิตสร้างสินค้ามาขายจริงในมหาวิทยาลัย 

บันทึกต่อไป มาดูเกี่ยวกับ MOOCs ที่เราตั้งไจไปเรียนรู้ดูเขาทำครับ  บันทึกนี้ขอจบเท่านี้ 
หมายเลขบันทึก: 661841เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2019 11:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2019 15:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ตามมาอ่านบันทึกของอาจารย์ครับ ;)…

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท